ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 489

บทที่ 489 ว่าที่ลูกเขยมาบ้าน

ผลการตรวจร่างกายแสดงออกมาว่าพวกเขามีสุขภาพอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลินชิงเหอมองไปที่ชิงไป๋ของเธอ ดูเหมือนตาเฒ่าผู้นี้จะผิดหวังเล็กน้อย

เธอรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็รู้สึกว่าตนเองคงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้แล้วจริง ๆ เธอควรจะตั้งครรภ์ไปนานแล้ว ต้องรู้ว่ายิ่งเธออายุมากขึ้นเท่าไหร่ ตัวเขาก็อายุมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งสภาพร่างกายของเธอก็ถดถอยลง

ไม่มีเหตุผลว่าทำไมตอนที่อายุยังน้อยเธอถึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ครั้นพอเธออายุมากขึ้นแล้วกลับตั้งครรภ์ได้อยู่ นั่นเป็นเรื่องที่ตรากตรำเกินไป

“ไม่เป็นไรครับ” จากนั้นสักครู่หนึ่งโจวชิงไป๋จึงเอ่ยขึ้นพร้อมกับเก็บผลตรวจไป

หลินชิงเหอไม่รู้จะพูดอะไรอีก ตาเฒ่าคนนี้ถูกชายชราผู้นั้นหลอก แต่ตัวเขาเองก็เชื่อ

กล่าวคือเธอเองก็ไม่รู้ว่าชายชราผู้นั้นพูดอะไรไปบ้างในวันนั้น หากเธอรู้ก็คงจะถามออกมาให้ชัดเจนแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหมายความว่าอย่างไรในเรื่องที่บอกว่าโชคชะตาได้กำหนดให้เธอมีลูกสาวให้กับชิงไป๋?

และเรื่องที่เกี่ยวกับหอยมุกชราจะให้กำเนิดไข่มุกขึ้นมาอย่างแน่นอน

หลินชิงเหอไม่ได้ตั้งท้อง แต่โจวซานนีซึ่งมาอยู่ที่นี่และได้รับการรักษามา 2-3 เดือนแล้วกลับมีข่าวดี

เมื่อนับดูก็เป็นเวลาเกือบปีแล้วตั้งแต่ที่หล่อนแต่งงานมา ย้อนกลับไปในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว หลี่อ้ายกั๋วได้แต่งงานกับโจวซานนี

ต่อให้หล่อนจะไม่ตั้งครรภ์มา 1 ปี แต่อาหารดีไม่ต้องกลัวว่าจะมาช้า(1) เห็นได้ว่าเด็กคนนี้เป็นผู้ที่มีบุญ

ในตอนที่โจวซานนีและหลี่อ้ายกั๋วอยู่ในชนบท เรื่องนี้ทำให้พวกเขาต้องทุกข์ทรมานใจกันมาก โจวซานนีมักต้องเสียน้ำตาอยู่บ่อยครั้งเพราะเรื่องนี้

แม้ว่าหลี่อ้ายกั๋วจะไม่พูดอะไร แต่มีชายคนไหนในวัยนี้ที่ไม่ต้องการมีภรรยาและลูกมาอุ่นเตียง(2) บ้าง? ไม่มีเลย

ดังนั้นเมื่อโจวซานนีกำลังจะมีลูก เขาจึงรู้สึกดีใจมาก

ฝ่ายท่านแม่โจวพอรู้เรื่องก็บอกให้ซูต้าหลินเชือดไก่แล้วส่งไปให้พวกเขา “ฉันคิดว่าจะมีอะไรผิดปกติกับร่างกายของพวกเขาซะอีก จนป่านนี้แล้วพวกเขาถึงยังไม่ตั้งท้องเสียที โชคดีที่ตอนนี้พวกเขามีลูก ไม่อย่างนั้นผู้คนจะต้องนินทากันแน่”

“มีอะไรให้ต้องนินทากันคะ? ทั้งคู่มีชีวิตที่ดี อีกอย่างพวกเขาก็เพิ่งจะแต่งงานกัน” โจวเสี่ยวเหมยกล่าว

“จะพูดอย่างนั้นได้ยังไงกัน? อ้ายกั๋วอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว? เขาอายุจะ 30 อยู่แล้วนะ” ท่านแม่โจวบอก

โจวเสี่ยวเหมยไม่ได้แสดงความเห็นอะไร นี่คือความจริง ซานนีไม่รีบ แต่หลี่อ้ายกั๋วอายุไม่น้อยแล้ว เขาอายุมากกว่าซานนีถึง 10 ปี

อายุเท่านี้นับว่ามากแล้วจริง ๆ แต่ตราบใดที่หลี่อ้ายกั๋วปฏิบัติต่อซานนีเป็นอย่างดีก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ยอมรับไม่ได้

เมื่อหวังหยวนและโจวเอ้อร์นีแวะมาที่นี่ พวกเขาก็ได้ยินเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน

หวังหยวนแสดงอาการอิจฉาออกมาทันที จากนั้นก็เหลือบมองไปที่โจวเอ้อร์นี

ใบหน้าของโจวเอ้อร์นีแดงซ่านขึ้นจากสายตาของเขา

“เอ้อร์นี พวกเราจะไปหาคุณพ่อกับคุณแม่กันเมื่อไหร่ดีครับ? อาสะใภ้สี่พูดถึงเรื่องวันหยุดหรือยังครับ?” หวังหยวนพูด

เรื่องนี้ถูกพูดขึ้นมาต่อหน้าท่านแม่โจว ซึ่งทำให้ท่านแม่โจวรู้สึกดีใจมาก มองดูที่หลานเขยคนนี้ แล้วไปดูหลานเขยคนนั้นสิ ช่างเป็น 1 ผืนฟ้า 1 พื้นดิน(3)อย่างแท้จริง

“ตอนนี้เพิ่งจะเวลาไหนกันเองคะ เร็วเกินไปค่ะ” โจวเอ้อร์นีหน้าแดง

ตอนนี้เพิ่งย่างเข้าสู่เดือนธันวาคมเท่านั้น โดยทั่วไปแล้ววันหยุดจะอยู่ในช่วงราว ๆ กลางเดือนธันวาคม

“ไม่ต้องรีบหรอกจ้ะ อีกอย่างโรงงานของเธอก็ยังไม่ปิดเลยนี่ รอให้ทางเธอเสร็จงานก่อนที่จะกลับไปก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไรหรอกหากเธอจะไปถึงช้าน่ะ” ท่านแม่โจวพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

หวังหยวนตอบว่า “ผมอยากพาเอ้อร์นีไปพักอยู่ที่นั่นนานขึ้นอีกสัก 2-3 วันน่ะครับ”

ท่านแม่โจวยิ่งรู้สึกมีความสุขมากขึ้น แต่นางก็ยังเตือนว่า “ฉันกลัวว่าบ้านของเราจะธรรมดาเกินไป พอไปอยู่ที่นั่นแล้วเธอจะไม่เคยชินกับมันน่ะสิจ๊ะ”

หลังจากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ท่านแม่โจวก็ตระหนักดีถึงช่องว่างระหว่างเขตเมืองกับเขตชนบท บ้านดินในชนบทคงจะไม่ได้รับความชื่นชอบจากคนเมืองอย่างแน่นอน แน่นอนว่าลูกชายคนโตและลูกสะใภ้คนโตได้สร้างบ้านอิฐเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็กว้างขวางและโปร่งโล่งสบายเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม