ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 508

บทที่ 508 อย่าเลียนแบบเขา

หากกล่าวว่าจางเหมยเหลียนไม่รำคาญสวี่เชิ่งเหม่ยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเพราะเรื่องเงินถึงทำให้หล่อนจำต้องทนอยู่ต่อไป

ถ้าหล่อนสามารถออกมาทำเองได้ ใครจะอยากมองหน้าตาน่ารำคาญของสวี่เชิ่งเหม่ยกันเล่า?

สวี่เชิ่งเฉียงพูด “ต้องเป็นความจริงอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ผมแค่ไม่อยากเห็นหน้าของพวกเขาเท่านั้น”

ความจริงแล้วชายหนุ่มไม่อยากจะไปพบหน้าบ้านใหญ่โจวเลย แต่ถ้าตอนนี้ไม่ไปพบหน้าก็เห็นทีจะไม่ได้ เขากับพี่สาวอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว เขาต้องการอยู่กับจางเหมยเหลียน แต่หล่อนกลับขัดขวางเขา เช่นนั้นเขาก็จะออกมาเปิดกิจการเอง!

“เฉียงจือ อนาคตของพวกเราสองคน ต้องพึ่งพาคุณแล้วนะ ที่ฉันอยากแต่งงานกับคุณเพราะว่าฉันอยากจะมีอนาคตที่ดีน่ะค่ะ” จางเหมยเหลียนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

หล่อนย่อมรู้เรื่องที่เขามีความเกี่ยวข้องกับบ้านใหญ่โจวทางนั้น หากสวี่เชิ่งเฉียงยินยอมที่จะเอาสินค้าทางนั้นมาขาย แล้วหล่อนจะไม่สามารถออกมาเปิดกิจการด้วยตัวเองได้อย่างไรล่ะ?

“ที่จริงแล้วผมก็ไม่อยากไปเหมือนกัน” สวี่เชิ่งเฉียงมุ่นคิ้ว

“ไม่ได้นะคะ พวกเราไปหาเช่าร้านก่อน คุณลองไปถาม ๆ ลองพูดกับพวกเขาดี ๆ ก่อน ในเมื่อพวกเราตั้งใจจะทำแล้ว ต่อไปอนาคตจะต้องสดใสแน่ คุณไม่ได้คิดถึงอนาคตของพวกเราแล้วเหรอคะ?” จางเหมยเหลียนพูดด้วยเสียงนุ่มนวล

สวี่เชิ่งเฉียงมองเธอและพูดขึ้น “ก็ได้ ผมจะลองไปที่นั่นดู แต่เหมยเหลียน ผมทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อคุณ ต่อไปคุณไม่ต้องหาเงินเองแล้วนะ แค่หาร่วมกับผมก็พอ”

นี่เป็นสิ่งที่พี่สาวเขาเคยพูด หล่อนบอกว่าเหมยเหลียนหน้าเงินนี่ไม่ใช่คนดีอะไรหรอก

แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อ ขนาดตอนที่เขาไม่มีเงินจางเหมยเหลียนก็ยังยินดีจะอยู่กับเขา ทว่าเขาก็อดที่จะย้ำกับจางเหมยเหลียนไม่ได้

จางเหมยเหลียนไม่ต้องถามก็รู้ว่าเขาหมายความว่าอะไร สวี่เชิ่งเหม่ยน่าจะเป็นคนว่าร้ายหล่อนมาไม่น้อย หล่อนจึงจดจำเอาไว้ในใจ และพูดกับเขาอย่างอ่อนโยน “นี่มันหมายความว่าอะไรคะ? ฉันเป็นคนของคุณตั้งนานแล้ว คุณก็เหมือนกันนะคะ หากในอนาคตมีเงินก็อย่าทิ้งฉันนะ คนแบบฉันไม่มีหน้าไปแต่งงานใหม่หรอกค่ะ”

สวี่เชิ่งเฉียงยิ้มและพูด “ผมไม่มีทางไม่ต้องการคุณหรอกครับ แค่คุณเชื่อฟังผมก็พอแล้ว”

จางเหมยเหลียนลอบเบ้ปากโดยที่อีกฝ่ายมองไม่เห็น และสวี่เชิ่งเฉียงก็ไม่ได้หันมาทางนี้ในทันที เขากับจางเหมยเหลียนพลอดรักอยู่ด้วยกันก่อน 2 หรือ 3 วัน ถึงได้จากมาอย่างไม่เต็มใจนัก

เขาไม่ได้ไปหาโจวชิงไป๋ แต่เดินตรงไปที่ร้านเสื้อผ้าของโจวเอ้อร์นี

“นายมารับสินค้าเหรอ? ทำไมพี่สาวนายถึงไม่มารับสินค้าเองล่ะ?” โจวเอ้อร์นีถาม

“ผมไม่ได้ทำกับพี่อีกแล้ว จะออกมาหาหน้าร้านแล้ววางแผนว่าจะเปิดร้านเป็นของตัวเองน่ะครับ ผมมีเงินนะแต่ไม่มีคนค้ำประกัน” สวี่เชิ่งเฉียงเอ่ย

“นายออกมาเปิดร้านของตัวเองแล้วเหรอ?” โจวเอ้อร์นีแปลกใจเล็กน้อย

“อืม ผมจะขอสินค้าจากพี่เขยได้ไหมครับ?” สวี่เชิ่งเฉียงพูด

“เกรงว่าตอนนี้จะไม่ง่ายน่ะสิ นี่มันเร่งด่วนเกินไปหน่อย แต่นายลองไปสักครั้งก็ได้ น่าจะพอจัดคิวให้นายได้อยู่” โจวเอ้อร์นีพูด

“งั้นก็ได้ครับ โรงงานเสื้อผ้าของพี่เขยอยู่ที่ไหนครับ ผมจะไปดูสักหน่อย” สวี่เชิ่งเฉียงเอ่ยขึ้น

“นายไปตามที่อยู่นี้นะ” โจวเอ้อร์นีไม่ได้คิดอะไรมาก หล่อนเขียนที่อยู่ส่งให้เขาไป

ช่วงเย็นหวังหยวนก็มารับเธอกลับบ้าน โจวเอ้อร์นีจึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

“อืม เขามาหาแล้วล่ะ และผมก็ขายให้เขาไปแล้ว 200 ตัว” หวังหยวนพูด และบอกว่าให้ราคาเดียวกับพี่สาวอีกฝ่าย ส่วนสวัสดิการพิเศษอะไรนั่นเขาไม่มีให้หรอก เพราะเท่านี้ก็ถือว่าเขาลัดคิวให้แล้ว

สองสามีภรรยาไปกินข้าวที่ร้านของโจวชิงไป๋ในตอนเที่ยงวัน ตกเย็นก็มากินข้าวที่บ้านของท่านพ่อท่านแม่โจว

โจวเอ้อร์นีจึงเล่าเรื่องนี้ให้ท่านแม่โจวฟัง

“ออกมาเปิดกิจการเองหรือ? คนนิสัยดื้อรั้นอย่างเขาทำธุรกิจเป็นด้วยหรือ?” ท่านแม่โจวเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้

ตอนที่สวี่เชิ่งเหม่ยมางานแต่งงานของเอ้อร์นี หล่อนก็เคยพูดถึงสถานการณ์ของสวี่เชิ่งเฉียงขึ้นมาเหมือนกัน บอกว่าช่วงนี้เขาขยันมาก ออกไปตั้งของขายแผงลอยเดือนหนึ่งได้เงินร้อยกว่าหยวน

แม้ท่านแม่โจวอยากจะด่าว่าหลานชายห่าง ๆ คนนี้ในเรื่องที่ไม่มาแม้กระทั่งงานแต่งของญาติผู้พี่ของเขา แต่อีกใจก็คิดว่าเขาไม่มาก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ก่อเรื่องอะไรขึ้น

สำหรับเรื่องที่เขาออกไปตั้งแผงลอยขายของนั้น นางเองก็สนับสนุน

เนื่องจากหู่จือก็ออกไปตั้งแผงลอยขายของเหมือนกัน รายได้ไม่แน่ชัดนัก แต่เห็นบอกว่าไม่เลวทีเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม