ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 512

บทที่ 512 เธอช่างหน้าไม่อายจริงๆ!

เมื่อถึงกลางเดือนมิถุนายน หลินชิงเหอจึงได้วางแผนว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกับโจวชิงไป๋บ้าง โจวชิงไป๋เองก็ทำแผนการท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน เช่นเดียวกับโจวกุยหลายที่วางแผนท่องเที่ยวให้กับคุณปู่บุญธรรมของเขา

หลังจากนั้นสวี่เชิ่งเหม่ยก็มาหาพวกเขา

หล่อนเดินตรงมาหาโจวเอ้อร์นีโดยตรง บอกไม่ให้โจวเอ้อร์นีส่งสินค้าแก่น้องชายของหล่อน

โจวเอ้อร์เริ่มไม่เข้าใจ “เธอยังมาเอาของไปได้ แล้วทำไมเชิ่งเฉียงจะมาเอาของไปบ้างไม่ได้ล่ะ? อีกอย่างเธอมาหาฉันอย่างนี้ ถ้าฉันไม่ให้เชิ่งเฉียงไปเอา เชิ่งเฉียงจะคิดยังไง?”

“พี่คะ สามีพี่รวยออกขนาดนั้น จะต้องไปสนใจอะไรกับเรื่องพวกนี้ พี่อย่าสนใจเขาเลยค่ะ ตัดสินค้าของเขาออกไปก็พอ” สวี่เชิ่งเหม่ยพูด

สวี่เชิ่งเหม่ยเองก็โกรธจนไม่รู้จะทำอย่างไรเช่นกัน ไม่งั้นหล่อนคงไม่มาหาโจวเอ้อร์นีหรอก

ตอนนี้น้องชายของหล่อนเปิดร้านแล้ว คราวแรกหล่อนคิดว่าน้องชายของตัวเองเปิดร้านเองไม่ได้หรอก หล่อนจึงไม่ได้ขัดขวาง รอให้เขารู้ด้วยตัวเองว่าธุรกิจมันไม่ได้ทำได้ง่ายอย่างที่เขาคิด!

นี้ก็คือสาเหตุที่หล่อนไม่ได้มาที่นี่ตั้งแต่แรก

แต่ใครจะรู้ว่าน้องชายของหล่อนร่วมมือเปิดร้านกับจางเหมยเหลียนแล้ว อีกทั้งกิจการยังก้าวหน้าด้วยดีอีกด้วย

สวี่เชิ่งเหม่ยอดทนแล้วอดทนเล่า ในที่สุดหล่อนก็อดทนไม่ไหวแล้ว ในเมื่อหาตัวน้องชายมาคุยกันตรง ๆ ไม่ได้ จึงทำได้เพียงมาหาโจวเอ้อร์นีที่นี่

ขอเพียงน้องชายหล่อนไม่ได้สินค้าไป ร้านของเขาก็จะเปิดต่อไปไม่ได้ พอน้องชายหล่อนไม่มีเงิน จางเหมยเหลียนจะต้องไม่ยอมอยู่กับเขาต่อไปแน่

ถึงตอนนั้นน้องชายของหล่อนก็จะได้เลิกคบกับจางเหมยเหลียนนั่นเสียที

โจวเอ้อร์นีมุ่นคิ้ว “เธอพูดอะไรของเธอน่ะ เชิ่งเฉียงอุตส่าห์ออกมาทำการค้าด้วยตัวเอง ฉันได้ยินว่าเขาเอาสินค้าไปเยอะกว่าเธอนิดหน่อยอีกด้วย ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมเลย แต่เธอกลับไม่อยากให้เขาทำเนี่ยนะ?”

สวี่เชิ่งเหม่ยไม่กล้าพูดเรื่องจางเหมยเหลียน เพียงพูดขึ้นว่า “นิสัยของเขาทำการค้าไม่ได้หรอกค่ะ เกิดทำต่อไปแล้วเกิดเรื่องขึ้นล่ะจะทำยังไง? พี่จะรับผิดชอบไหม?”

“เธอหมายความว่าอะไรกันแน่?” ใบหน้าของโจวเอ้อร์นีดำทะมึน “ทางหวังหยวนเขาเห็นแก่ความเป็นญาติ ถึงได้ให้เชิ่งเฉียงได้คิวซื้อสินค้าเขาได้ ถ้าไม่ทำแบบนี้สินค้าก็คงไม่ตกถึงเขาหรอก อีกอย่างคนที่ได้เงินก็คือเชิ่งเฉียง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอจะโยนว่ามันเป็นความผิดของฉันกับหวังหยวนเหรอ?”

สวี่เชิ่งเหม่ยได้ฟังก็สะอึก “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”

“แล้วเธอหมายความว่าอะไรกันล่ะ?” โจวเอ้อร์นีพูดต่อ

สวี่เชิ่งเหม่ยเม้มริมฝีปากก่อนเอ่ยขึ้น “พี่คะ ฉันอธิบายเรื่องนี้ไม่ได้มาก เอาเป็นว่าอย่าให้เขาเปิดร้านก็พอ ถ้าเขาอยากจะตั้งแผงลอยอะไร ก็ให้มาเอาของที่ฉันพอ”

“เธอก็คือเธอ เชิ่งเฉียงก็คือเชิ่งเฉียง ฉันเห็นว่าตอนนี้เขาก็กำลังไปได้ดี คุณปู่ที่อยู่ทางนั้นได้ยินก็ดีใจมาก ถ้าเขาไม่อยากเอาสินค้าแล้ว ก็ให้เขามาพูดกับฉันเอง เธอไม่ต้องมาบงการเขาแล้ว” โจวเอ้อร์นีพูดเสียงเรียบ

“ฉันจะบอกพี่ตามตรง พี่อย่าเอาไปบอกใครนะคะ” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยขึ้นอย่างลังเล

“งั้นเธอก็อย่าพูดเลย” โจวเอ้อร์นีพูด

สวี่เชิ่งเหม่ยโมโหขึ้นมา หรือเพราะได้แต่งงานกับคนรวยแล้วเลยกลายเป็นคนลืมญาติพี่น้องแบบนี้กัน!

“พี่คะ พี่ห้ามให้สินค้ากับเชิ่งเฉียงเด็ดขาด พี่รู้หรือเปล่าว่าเชิ่งเฉียงเปิดร้านนี้กับใคร?” สวี่เชิ่งเหม่ยเอ่ยพลางกัดฟันกรอด

ในตอนนี้หล่อนถึงเพิ่งจะบอกสาเหตุสำคัญที่สุดออกมา เพราะไม่อยากให้บ้านใหญ่โจวรู้เรื่องทางนี้ เรื่องที่หล่อนกับจางเหมยเหลียนเคยเป็นหุ้นส่วนกัน

แต่ดูจากสถานการณ์ตรงหน้าเกรงว่าไม่พูดคงไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นน้องชายของหล่อนคงได้แต่งงานกับจางเหมยเหลียนจริง ๆ แน่ หากเป็นแบบนั้นคงจะซวยของแท้ เขาต้องโดนสวมหมวกเขียว*กี่ใบกัน?

*สวมหมวกเขียว หมายถึง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคบชู้

ที่สำคัญจางเหมยเหลียนยังเคยท้องมาแล้ว อยู่กับน้องชายหล่อนนานขนาดนี้แล้วยังไม่ท้อง ไม่รู้ว่าหล่อนจะสามารถตั้งท้องได้อยู่ไหม!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม