ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 568

บทที่ 568 หลอกลวง

ตาเฒ่ายายเฒ่าเจียงนั่งอยู่จนถึงสองทุ่มแล้วจึงกลับไป

โจวชิงไป๋ไปส่งพวกเขากลับมาแล้วจึงพูดว่า “คุณต้องสอนพิเศษเด็กด้วย ไม่เหนื่อยเหรอครับ”

“คุณเห็นฉันเป็นกระเบื้องเคลือบเหรอคะ” หลินชิงเหอหัวเราะแล้วกลอกตามองเขา ก็แค่เด็กมัธยมปลายปีหนึ่งคนเดียวเท่านั้น เนื้อหาทั้งหมดคือขั้นพื้นฐานสุด ๆ ไม่มีความยากอะไรเลย เธอไม่จำเป็นต้องตั้งใจสอนเยอะแยะอะไรขนาดนั้น สอนสบาย ๆ ก็พอแล้ว

อีกทั้งวิธีที่เธอสอนก็เป็นวิธีจากในอนาคตข้างหน้าทั้งหมด นำมาใช้ประโยชน์ได้มากทีเดียว

โจวชิงไป๋ได้ยินก็ไม่พูดอะไรอีก

เช้าวันถัดมาอากาศไม่ค่อยจะดีนัก เมฆสีเทาปกคลุมทั่วท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าฝนกำลังจะตก

ยายเฒ่าเจียงข้างบ้านพูดว่า “ฉันว่าจะไปบอกกับหลานชายคนนั้นสักหน่อยเชียว ไม่คิดว่าฝนทำท่าจะตกเสียนี่”

“ไม่ต้องรีบร้อนค่ะ ปีนี้ยังมีปิดเทอมฤดูร้อนอยู่อีก” หลินชิงเหอพูด

ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนอากาศร้อนมาก เธอไม่อยากจะออกไปไหนเลย คิดเพียงว่าอยากจะอยู่แต่ในบ้านเท่านั้น

ยายเฒ่าเจียงหัวเราะแล้วพูดขึ้น “เสี่ยวโจวไปไหนล่ะจ๊ะ?”

“ไปซื้อกับข้าวน่ะค่ะ” หลินชิงเหอพูด

ในตอนนั้นเองบ้านตระกูลกัวก็มียายเฒ่าคนหนึ่งออกมา แล้วเห็นยายเฒ่าเจียงกำลังพูดคุยกับหลินชิงเหออยู่ นางจึงกลอกตาใส่ หลังจากนั้นก็หมุนตัวจากไป

ที่จริงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หลินชิงเหอถูกยายเฒ่าคนนี้กลอกตาใส่

ตอนที่กลับมาจากข้างนอกกับโจวชิงไป๋ พวกเขาก็ถูกมองบนใส่เช่นกัน แต่พวกเขาไม่เคยจะสนใจกับเพื่อนบ้านบ้านนี้

ไม่นานหลังจากนั้น หลินชิงเหอก็เข้ามาภายในบ้านกับยายเฒ่าเจียง และถามขึ้นมา “คุณป้าคะ ข้างบ้านนั้นเขานามสกุลอะไรเหรอคะ?”

“นามสกุลกัวน่ะ” ยายเฒ่าเจียงพูด

“ฉันกับชิงไป๋เหมือนจะไม่เคยทำผิดต่อพวกเขาเลยนี่คะ? ทุกครั้งนี้พวกฉันบังเอิญเจอพวกเขา พวกเขาทำเหมือนพวกฉันไปติดหนี้พวกเขาอย่างนั้นแหละ” หลินชิงเหอพูด

ยายเฒ่าเจียงพูดอย่างเย้ยหยัน “ไม่ใช่ติดหนี้อะไรนั่นแน่นอน ก่อนหน้านี้พวกเขาแค่หมายตาบ้านหลังนี้เอาไว้เฉย ๆ เท่านั้น”

หลินชิงเหอรู้สึกแปลกใจขึ้นมาแล้ว “ถ้าตระกูลกัวหมายตาบ้านนี้ไว้ก่อน งั้นทำไมชิงไป๋ของฉันได้ซื้อมันก่อนพวกเขาล่ะค่ะ บ้านก็อยู่แค่ข้าง ๆ กันนี่เอง”

“นั่นไม่ใช่เพราะว่าตระกูลกัวทำตัวไม่ซื่อสัตย์หรอกหรือ?” ยายเฒ่าเจียงพูด “เจ้าหนุ่มคนนั้นอยากจะพาพ่อแม่และก็น้องสาวไปอยู่ที่ฝึกทหารด้วย ต่อไปก็คงไม่กลับมาอยู่ที่นี่อีกแล้ว ดังนั้นเขาเลยคิดที่จะขายบ้านหลังนี้เสีย ราคาตลาดในตอนนี้ถ้าไม่ได้ 10,000 หยวนขึ้นไปก็ไม่ต้องกล่าวเลย บ้านดี ๆ แบบนี้ราคามันควรจะต้องขายได้ 10,000 หยวนขึ้นไปด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะว่ารีบขายเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงขายทิ้งไปเพียง 9,000 กว่าหยวนเท่านั้น แล้วเธอลองคิดสิว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?”

“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” หลินชิงเหอถาม

“ตระกูลกัวคิดจะปล้นบ้านที่ถูกไฟไหม้* น่ะสิ พอเห็นว่าเจ้าของบ้านคนเก่ารีบขายบ้านแต่ก็ยังขายไม่ออก ก็อยากจะกดราคาลงเหลือ 8,000 หยวน แน่นอนว่าขายได้ 8,000 หยวนนั้นขาดทุนเห็น ๆ เจ้าของคนเก่าไหนเลยจะพอใจได้” ยายเฒ่าเจียงพูด

* 趁火打劫 หนึ่งในกลศึกสามก๊ก มีความหมายว่า เมื่อศัตรูอ่อนแอ ควรรีบฉกฉวยโจมตีเพื่อให้มีซึ่งชัยชนะ

หลินชิงเหอจึงถึงบางอ้อ กลายเป็นว่าเจ้าของเก่าขายบ้านนี้ให้กับชิงไป๋ของเธอในราคา 9,000 กว่าหยวน นับว่าตระกูลกัวดีดลูกคิดเสียเปล่าแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังคิดแค้นพวกเธออยู่ใช่ไหม?

“เป็นเพื่อนบ้านกันมาหลายปีแล้ว แต่กลับคิดกดราคาเพื่อนบ้านในขณะที่พวกเขารีบจะขายบ้าน เอา 8,000 หยวนมาซื้อบ้านดี ๆ แบบนั้น ครอบครัวพวกเขาช่างดีดลูกคิดได้สวยเชียวนะคะ!” หลินชิงเหอพูดอย่างเย้ยหยัน

“บ้านที่ปักกิ่งราคาเท่าไหร่เหรอ?” ยายเฒ่าเจียงพูด

“ต้องดูทำเลค่ะ แต่ถ้าเป็นบ้านแบบนี้ ไม่ต่ำกว่า 10,000 หยวนแน่นอน โดยเฉพาะหากดีแบบนี้ด้วยแล้ว ขายประมาณ 10,000-30,000 หยวนก็ยังได้” หลินชิงเหอพูด

หลินชิงเหอเคยไปดูบ้านที่ซูต้าหลินกับโจวเสี่ยวเหมยซื้อมาเหมือนกัน บ้านหลังนั้นยังเล็กว่าบ้านนี้เล็กน้อย อีกทั้งยังเก่ากว่าไม่น้อย ดังนั้นถ้าเป็นบ้านแบบนี้จะราคาเท่าไรกันล่ะ?

“ทำเลที่นี่ดีมาก 9,000 กว่าหยวนที่จริงไม่แพงเลย” ยายเฒ่าเจียงพยักหน้า “ฉันยังคิดเลยว่าจะซื้อเอาไว้ให้หลานชายฉัน เก็บไว้ให้เขาตอนแต่งงานดีไหม”

แม้เธอยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ก็ให้โจวชิงไป๋ซื้อเก็บเอาไว้ ซึ่งยายเฒ่าเจียงก็ไม่ได้ว่าอะไร

“บ้านทางนั้นของพวกเราเริ่มที่จะสร้างอาคารพาณิชย์บ้างแล้วค่ะ ต่อไปทางนี้ก็จะสร้างอาคารพาณิชย์เช่นกัน อาคารพาณิชย์ก็มีสง่าราศีมากแล้วนะคะ ถึงตอนนั้นถ้าต้องซื้อละก็ ซื้ออาคารพาณิชย์เถอะค่ะ” หลินชิงเหอแนะนำ

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ” โจวชิงไป๋กลับไม่สนใจเลยสักครึ่งเดียว

หลินชิงเหออดไม่ได้ที่จะบอกว่าเขาเป็นคนที่เข้าใจผู้หญิงอย่างถ่องแท้คนหนึ่ง เขารู้อย่างแตกฉานว่าจะต้องปฏิบัติกับเธออย่างไรบ้าง แต่พอมาเป็นเรื่องนี้ ไอคิวของเขากลับกลายเป็นศูนย์ในทันที

“ลุกขึ้นมากินซุปก่อนครับ” โจวชิงไป๋พูด

เขาออกไปตักซุปขาหมูถั่วลิสงมาหนึ่งชาม ซึ่งมันหอมมาก ตอนนี้หลินชิงเหอรู้สึกชินกับอาหารแบบนี้แล้ว กินแล้วเธอก็รู้สึกว่ามันอร่อยจริง ๆ…..

อีกทั้งอาหารเย็นของเธอยังมีไม่น้อย มื้อนี้โจวชิงไป๋ทำข้าวต้มไว้ ข้าวสองชามใหญ่โปะด้วยไข่ดาวหนึ่งฟอง ผัดผักกวางตุ้ง ผัดถั่วพุ่ม ชายหนุ่มทำแม้กระทั่งคะยั้นคะยอให้เธอแทะขาหมูอีกอันหนึ่ง!

หลังกินอาหารมากขนาดนี้เข้าไปในท้อง หลินชิงเหอถึงค่อยรู้สึกอิ่มขึ้นมาบ้าง ตอนนี้ท้องของเธอยังไม่ถึง 5 เดือนเลยด้วยซ้ำ!

“คุณอย่าให้ฉันกินเยอะขนาดนี้อีกนะคะ อายุขนาดฉันกินเยอะแล้วมันจะอ้วนแล้วอ้วนเลย ถ้าลดน้ำหนักก็ยากที่จะลง!” หลินชิงเหอพูด

“ไม่ต้องกังวล ผมไปโรงพยาบาลถามให้แล้ว รอจนถึงตอนให้นมเด็กแล้ว ก็จะถูกเอาไปเลี้ยงเด็กทารกจนหมด จะต้องผอมลงอย่างแน่นอน” โจวชิงไป๋พูด

หลินชิงเหอไม่เชื่อ “งั้นทำไมเสี่ยวเหมยถึงไม่ผอมลงล่ะคะ?”

“หล่อนกับต้าหลินไม่ได้รักกันดีเหรอ?” โจวชิงไป๋พูด

“อย่ามาหลอกฉัน ฉันไม่เอาด้วยนะ เสี่ยวเหมยกังวลตั้งนานว่าจะซื้อเสื้อผ้ายากน่ะ!” หลินชิงเหอส่งเสียงหึขึ้นจมูก

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

พ่ออยากให้ลูกสาวได้สารอาหารเต็มที่น่ะค่ะแม่ ช่วงนี้ถูกพ่อขุนไปก่อนนะคะ เดี๋ยวคลอดแล้วก็น้ำหนักก็น่าจะลด

ไหหม่า(海馬)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม