ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 612

บทที่ 612 หลานคนโตของผู้อาวุโส

เวิงเหม่ยเจี่ยอยู่กินข้าวเย็นที่นี่ หลังกินอาหารมื้อเย็นอันอุดมสมบูรณ์เต็มโต๊ะอาหารเสร็จ โจวข่ายก็ขับรถยนต์ไปส่งหล่อนกลับบ้าน

โจวข่ายเองไม่ได้รีบกลับในทันทีเช่นกัน เขานั่งพักดื่มชาอยู่ที่บ้านครอบครัวเวิงก่อน เสร็จแล้วจึงค่อยกลับไป

พอกลับมาถึงบ้านแล้วโจวข่ายก็ถามเรื่องของเวิงกั๋วต้งกับโจวซื่อนีขึ้นมา

สำหรับเรื่องที่ครอบครัวซื้อรถยนต์มานั้นเขาไม่จำเป็นต้องถามให้มากความแล้ว เนื่องจากพ่อกับแม่ของเขามีกิจการมากมาย ในใจเขาก็เข้าใจดี

“ปีหน้าก็น่าจะแต่งงานกันแล้วล่ะ ดังนั้นเรื่องของลูกกับเหม่ยเจี่ยปีหน้าคงต้องผลัดไปก่อน จัดพร้อมกันมันดูไม่ดี แล้วลูกคิดแผนการอย่างอื่นไว้ด้วยหรือเปล่าล่ะ?” หลินชิงเหอพูด

“งั้นก็ต้องหมั้นกันก่อนครับ” โจวข่ายอุ้มน้องสาวคนเล็กขึ้นมาแล้วพูด

หลินชิงเหอพยักหน้า เหมือนกับที่เธอคิดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะยังไม่แต่งเลย แต่สามารถหมั้นกันไว้ก่อนได้

“พรุ่งนี้ม้าจะไปลองพูดกับพี่เวิงว่าจะให้พวกลูกหมั้นกันปลายปีนี้ และจัดพิธีหมั้นให้พวกลูก” หลินชิงเหอพูด

โจวข่ายไม่ว่าอะไร ตอนนี้น้องสาวในอ้อมแขนเขาตื่นแล้ว เด็กน้อยจับจ้องมาที่เขา เขาจึงหันไปพูดกับเจ้าสาม “มีรูปถ่ายของน้องสาวเราไหม?”

“ต้องมีอยู่แล้ว” เจ้าสามพูด

“นั่งรถมานานขนาดนี้เหนื่อยแย่ลูกรีบไปพักผ่อนเถอะจ๊ะ” หลินชิงเหอพูดกับเขา

“ไม่เหนื่อยมากหรอกครับ ขอผมอุ้มอีกสักพักนะ” โจวข่ายตอบ

เขาไม่เหนื่อย แต่สาวน้อยมี่มี่กลับอ้าปากหาวหวอด ซึ่งเขาเห็นแล้วก็วางไม่ลง “น่ารักเกินไปแล้ว ว่าแล้วทำไมป๊าถึงอยากมีมาโดยตลอด”

ที่น่ารักยิ่งกว่านี้คือหลังจากนี้ต่างหาก สาวน้อยเริ่มหิวแล้วจึงเริ่มเบียดตัวเข้าหาอ้อมแขนของเขา โจวข่ายนิ่งไปอึดใจหนึ่ง หลังจากนั้นก็ยิ้มออกมา “นี่คือหิวแล้วใช่ไหมครับ?”

“ใช่แล้ว พี่ใหญ่เปิดเสื้อให้น้องดูดนมสักหน่อยสิ” โจวกุยหลายขำเหอะ ๆ อย่างล้อเลียน

“ไสหัวไปเลย” โจวข่ายยิ้มแล้วด่าเขา มองน้องสาวที่หิวจริง ๆ แล้ว เขาก็ส่งน้องให้ผู้เป็นแม่

หลินชิงเหออุ้มเข้าห้องไปให้นม และตบให้เรอนมออกมา หลังจากนั้นจึงวางหล่อนไว้บนเตียง ไม่นานหล่อนก็หลับไป

โจวชิงไป๋มองเจ้าใหญ่แวบหนึ่ง “เข้าไปพักเถอะ”

โจวข่ายไม่ได้ปฏิเสธ อีกอย่างเขาก็เหนื่อยแล้วจริง ๆ จึงเข้าห้องไปนอน หลินชิงเหอกับโจวชิงไป๋ดูโทรทัศน์จนกระทั่งสามทุ่มกว่า พวกเขาถึงค่อยปิดโทรทัศน์และเข้านอน

วันถัดมาโจวข่ายไปออกกำลังกายแต่เช้าตรู่และก็กลับมา ส่วนเจ้าสามที่ต้องไปเปิดร้าน เขาหาวและลุกขึ้นมาพูดว่า “พี่ใหญ่ หายากกว่าพี่จะกลับมา ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อยละ เพิ่งไปหาอาเขยมาเหรอ?”

“อืม” โจวข่ายกินซาลาเปา ในมือยังมียังมีถุงกระดาษไขอีกถุงหนึ่ง “นายจะกินไหม?”

“กิน” โจวกุยหลายแปรงฟันเสร็จก็รับมากินแล้วพูด “พี่ใหญ่ ถ้าพี่มีเวลาก็พาพี่เหม่ยเจี่ยไปหาคุณย่าบ้างนะ คุณย่าบ่นตลอดว่ายังไม่ได้เจอพี่เหม่ยเจี่ยดี ๆ เลยสักครั้ง”

“ได้ วันนี้พี่จะพาไป” โจวข่ายพยักหน้าพูด

“ตอนนี้บ้านเรามีรถแล้ว ออกไปข้างนอกก็สะดวกสบาย วันนี้ไปบ่อน้ำพุร้อนด้วยไหมครับ? เดิมทีผมว่าจะไปกันก่อนหน้านี้ พี่รองบอกว่ารอพี่กลับมาก่อนแล้วค่อยไปด้วยกัน” โจวกุยหลายพูดขณะกินซาลาเปาพร้อมกับดื่มน้ำเต้าหู้ไปด้วย

“มะรืนแล้วกัน” โจวข่ายพูด

“ได้เลย” โจวกุยหลายตอบตกลง พอเขากินข้าวเช้าเสร็จก็ออกไปเปิดร้านแล้ว

ที่จริงตอนนี้ยังไม่ถึงหกโมงครึ่งเลย ตอนเช้า ๆ แบบนี้ขายไม่ค่อยดีนัก ต้องประมาณเจ็ดโมงกว่า ๆ จึงจะมีคนมาซื้อเยอะ

โจวข่ายนำซาลาเปาและน้ำเต้าหู้ที่เหลือเก็บไว้ อีกสักพักค่อยให้พ่อกับแม่เขาอุ่นกินเอง อีกส่วนเขาก็เอาไปให้คุณปู่กับคุณย่า

ท่านพ่อท่านแม่โจวก็เพิ่งจะตื่นนอนเช่นกัน

ในวันที่หิมะตกหนัก ใคร ๆ ต่างก็นอนค่อนข้างดึกกันทั้งนั้น

สองพี่น้องซูเฉิงซูสวิ่นกำลังช่วยพ่อของพวกเขาอยู่ที่ร้านซาลาเปา ตอนนี้อายุของพวกเขาก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว สามารถช่วยงานพ่อของพวกเขาได้เยอะทีเดียว

“เจ้าใหญ่ กลับมาตอนไหนล่ะเนี่ย?” ท่านแม่โจวแปรงฟันเสร็จก็มองเห็นหลานชายคนโตสุดที่รัก ก็ดีใจมากรีบพูดออกไป

“คุณย่า ผมกลับมาเมื่อวานนี้เองครับ แต่เห็นว่าสายแล้วก็เลยไม่ได้มาหา วันนี้ผมเลยมาหาแต่เช้าน่ะครับ” โจวข่ายพูดยิ้ม ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม