บทที่ 619 อยู่เย็นเป็นสุข
พอใกล้จะได้เวลากินข้าว กังจือถึงจะขี่จักรยานสามล้อกลับมา
“ล้างหน้าล้างมือแล้วมากินข้าวเถอะจ้ะ” หลินชิงเหอพูด
“ครับ” กังจือฉีกยิ้ม
คนในครอบครัวจึงนั่งกินข้าวด้วยกัน บางครั้งก็จะมีแขกเข้ามากินเกี๊ยวบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งโจวกุยหลายก็จะลุกไปทำ
“เนื้อไก่ตัวผู้นี้อร่อยจริง ๆ เลยครับ” เจียงเกิงพูด
“อร่อยจริง ๆ นั่นแหละ คุณน้าเป็นคนผัดใช่ไหมครับ?” กังจือพูด
“ฉันผัด” โจวกุยหลายพูด “พวกนายจะดื่มเหล้าไหม?”
เจียงเกิงบอกว่าอยากดื่มนิดหน่อย โจวกุยหลายจึงเทให้เขาสองแก้วเล็ก แล้วก็รินให้กับตัวเองเช่นกัน รวมทั้งรินให้พ่อของเขาด้วยสองแก้ว
ดื่มเหล้ากับเนื้อไก่ตัวผู้ คิดดูสิว่าจะสดชื่นขนาดไหน
“ไม่ดื่มแล้วดีกว่า เดี๋ยวฉันยังต้องไปตั้งแผงขายของอีก” โจวกุยหลายกำลังจะรินให้กังจืออีกหน่อย แต่กังจือกลับส่ายหน้าปฏิเสธแล้ว
“ทำไมนายต้องสู้ชีวิตขนาดนี้ด้วย” โจวกุยหลายพูด
ไม่เพียงหู่จือที่ขยันทำงานสู้ชีวิต กังจือเองก็ไม่ต่างกัน เขาทำงานตั้งแต่เช้าจนค่ำตลอด
“วันนี้ไม่พักสักหน่อยล่ะจ๊ะ?” หลินชิงเหอก็พูดเสริมด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะหู่จือหรือว่ากังจือ ทั้งสองก็เป็นหลานนอกตระกูลที่พัฒนาตัวเองจนก้าวหน้า
“ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากหรอกครับ ก็แค่ไปตั้งแผงเอาไว้เฉย ๆ ไม่ต้องพักก็ได้ครับ” กังจือยิ้มพูด
พี่ชายของเขาย้ายทะเบียนบ้านมาที่ปักกิ่งแล้ว ทั้งซื้อบ้านทั้งแต่งภรรยา เรียกว่าตอนนี้เขามีความสุขมากแล้ว
ส่วนเขาในตอนนี้ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง แน่นอนว่าเขาก็ขอให้สามีของพี่ซื่อนีช่วยย้ายทะเบียนบ้านให้เขาเหมือนกัน ดังนั้นจึงต้องหาเงินให้ได้จำนวนหนึ่ง ตอนนี้มีบ้านเปิดให้ซื้ออีกแล้ว แต่ไม่มีหลังไหนเลยที่ขนาดเล็กเท่ากับบ้านของพี่ชายเขา ข้าวของอะไรอย่างอื่นก็ต้องใช้เงินไม่น้อย
นอกจากนั้นเขายังส่งกลับไปให้ที่บ้านแม่เขาด้วย ซึ่งตอนนี้เขามีเงินเก็บหมื่นกว่าหยวนแล้ว
แม้ว่าจะไม่น้อย แต่ครั้งก่อนแม่ยายของพี่ใหญ่เขาช่วยหาบ้านให้ บ้านนั้นเริ่มต้นมากกว่า 10,000 หยวนไปแล้ว อีกทั้งยังมีพื้นที่ไม่ใหญ่และค่อนข้างเก่า ซึ่งเขาดูแล้วไม่ชอบเลยสักนิด
น้าสะใภ้เขาบอกให้เขาเก็บเงินต่อไปไม่ต้องรีบ ต่อไปตึกอาคารพาณิชย์ก็จะเริ่มสร้างแล้ว หล่อนบอกให้เขารอไปซื้อตึกนั่น
แต่เป็นความจริงที่จำเป็นต้องมีเงินไม่น้อย ถึงอย่างนั้นกังจือก็ไม่สนใจ เขาคิดว่าการที่เขาฟังน้าสะใภ้พูดต้องไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงคิดว่าซื้อตึกอาคารพาณิชย์นี้แหละ
ตอนนี้การค้าขายดูจะดีกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย ถ้าเขาขยันล่ะก็รายได้พันหยวนต่อเดือนก็น่าจะทำได้ถึง
เมื่อก่อนไม่มีอะไรแบบนี้หรอก ต้องรอปีใหม่หรือเสื้อผ้าที่ออกมาใหม่เท่านั้นถึงจะสามารถขายดีระเบิดระเบ้อ
หลินชิงเหอก็ไม่พูดอะไรกับเขาแล้ว พูดเพียงว่า “ยังมีซุปไก่อยู่หม้อหนึ่ง เดี๋ยวกินอีกหน่อยสิ”
“ครับ” กังจือฉีกยิ้มกว้าง ค่าใช้จ่าย 20 หยวนต่อหนึ่งเดือนของเขานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องอาหารการกินนี้ดีเกินไปมากจริง ๆ
เรื่องที่อยู่เขาก็ไม่ต้องจ่ายเงิน ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ชั้นสองของร้านเกี๊ยวนี้คนเดียว
“ฉันได้ยินว่าช่วงนี้พี่หู่จือกำลังหาหน้าร้านแล้วใช่ไหม” โจวกุยหลายพูด
“ใช่” กังจือพยักหน้า
“หาได้หรือยัง เดี๋ยวนี้หน้าร้านไม่ใช่ถูก ๆ แล้ว” โจวกุยหลายพูด
ตอนนี้ร้านหน้าร้านหนึ่งก็ตั้งราคาขายอยู่ที่ 10,000 หยวนเป็นต้นไปแล้ว ยิ่งกว้างก็ยิ่งแพงขึ้นมาอีก
“หาได้ร้านหนึ่งทำเลพอใช้ได้ แต่ว่าต้องจ่าย 18,000 หยวน พี่ของฉันเลยบอกช่างมัน” กังจือพูด
ราคา 18,000 หยวนนั่นมันก็แพงเกินไปแล้ว!
“ถ้าทำเลดีก็บอกให้หู่จือซื้อเอาไว้เถอะจ๊ะ” หลินชิงเหอได้ยินก็พูดตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...