บทที่ 620 แปดหมื่นตารางเมตร
หลินชิงเหอได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็หัวเราะ “ไม่ต้องรีบซื้อตึกอาคารพาณิชย์หรอกจ้ะ ตอนนี้เธอยังโสดตัวคนเดียว และก็ยังไม่มีภรรยาด้วย จะรีบซื้อบ้านไปทำไมกันจ๊ะ ชั้นสองของร้านเกี๊ยวไม่พอให้เธออยู่หรือไง มีทำเลดี ๆ เธอก็ซื้อเอาไว้ก่อนได้เลย ถ้าไม่อยากตั้งแผงลอยขายของก็ไปเช่าร้านขายก็ได้เหมือนกัน”
กังจือได้ยินเธอพูดก็รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน เขามองไปทางพี่ใหญ่เขา “พี่ใหญ่ งั้นพี่บอกคุณป้าดูให้ผมหน่อยได้ไหม?”
“ได้สิ” หู่จือพยักหน้า
“ถ้าคุณป้าหาให้เธอได้แล้ว เธอก็ต้องให้อั่งเปาเขาด้วยนะ ทำเลร้านดี ๆ น่ะไม่ได้หากันง่าย ๆ เลย” หลินชิงเหอพูด
“ผมต้องให้อยู่แล้วล่ะครับ” กังจือยิ้มพูด
เฉินซานซานรีบพูด “ไม่ต้อง ๆ ครอบครัวเดียวกันพี่ไม่คิดมากหรอก”
“ต่อให้เป็นครอบครัวเดียวกันยังไงก็ต้องให้จ้ะ ฝากบอกพี่เฟิ่งช่วยหาดูให้หน่อยนะ ถ้ามีที่ดี ๆ ก็แนะนำให้เด็กคนนี้หน่อย” หลินชิงเหอพูด
หลี่อวี้เฟิ่งแม่ของเฉินซานซานอายุมากกว่าหลินชิงเหอ หลินชิงเหอจึงเรียกหล่อนว่าพี่เฟิ่งเลยตรง ๆ
อีกทั้งหลินชิงเหอยังชอบแม่ของเฉินซานซานมากทีเดียว เพราะหล่อนช่วยเลี้ยงหลานของลูกสาวให้อย่างเต็มใจ เธอยังกำชับกับหลานชายนอกของเธออีกว่าต้องให้เงินค่าเหนื่อยกับแม่ยายเขาทุกเดือนด้วย
เนื่องจากแม่ยายตัวเองใจกว้างตั้งขนาดนี้แล้ว ลูกเขยก็ควรต้องแสดงมารยาทอะไรบ้างไม่ใช่หรือ เพราะว่ามีแม่ยายบางคนที่ถึงแม้ว่าจะเกษียณแล้ว ก็ไม่เต็มใจช่วยเลี้ยงหลานนอกที่เป็นผู้หญิง(หลานสาวที่เกิดจากลูกสาว) หรือต่อให้เป็นหลานในผู้ชาย(หลานชายที่เกิดกับลูกชาย)ก็มีเหมือนกัน
แต่บางครั้งก็มีเรื่องตลกตรงที่คุณยายบางคนไม่เต็มใจเลี้ยงหลานในชายของตัวเอง แต่กลับเต็มใจที่จะเลี้ยงหลานนอกผู้หญิงเหมือนหลานสาวคนนั้นเป็นของล้ำค่าก็ไม่ปาน ส่วนหลานในชายกลับเหมือนเก็บมาเลี้ยงเสียอย่างนั้น เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณยายพวกนั้นคิดอะไรอยู่
แต่ร้านทำเลดี ๆ หาไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ค่อย ๆ หาไปก่อนเถอะ
ยากนักที่หลินชิงเหอจะว่าง เธอจึงโทรศัพท์กลับไปหาพี่สะใภ้ใหญ่โจว
เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าการสั่งให้เจ้ารองกับเจ้าสามติดตั้งโทรศัพท์เครื่องนี้ตั้งแต่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้นั้นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วจริง ๆ
ไม่ว่าจะเพื่อนเก่าหวังลี่ หรือว่าครอบครัวที่ชนบท หรือว่าติดต่อธุรกิจต่าง ๆ มีโทรศัพท์เครื่องนี้แล้วทำให้ทุกอย่างสะดวกมากจริง ๆ
ปีที่แล้วหวังลี่พาลูกชายสองคนมาเที่ยวเล่นที่ปักกิ่ง หลินชิงเหอก็ไปรับด้วยตัวเอง
สักพักใหญ่แล้วที่ไม่ได้โทรศัพท์กลับไปหาพี่สะใภ้ใหญ่โจว ตอนนี้เธอจึงคิดว่าควรจะโทรกลับไปสักหน่อย เธอเว้นช่วงเล็กน้อยก่อนจะโทรกลับไปอีกครั้งจนพี่สะใภ้ใหญ่โจวรับสาย
“ฉันเพิ่งจะพูดอยู่เชียวว่าเธอไม่ได้โทรมาหาสักพักแล้ว เดี๋ยวก็คงโทรมาเร็ว ๆ นี้แน่” สะใภ้ใหญ่โจวพูดยิ้ม ๆ
“ปีนี้หยางหยางจะแต่งงานนี่ค่ะ ฉันจะไม่โทรกลับไปถามหน่อยได้อย่างไร?” หลินชิงเหอพูดพลางหัวเราะ
โจวหยางเรียนจบนานแล้ว อย่างในตอนนี้ก็เรียนอยู่ในตัวอำเภอ ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในเมืองเขาเคยคบกับแฟนคนหนึ่ง แต่ต่อมาก็เลิกกันไป คนที่เขาจะแต่งงานเป็นอาจารย์คนหนึ่งในอำเภอ ทั้งคู่เหมาะสมกันมาก และปีนี้ก็จะแต่งงานกันแล้ว
สะใภ้ใหญ่โจวตอนนี้กลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดไปแล้ว
สามีของลูกสาวคนโตตอนนี้ก็เลี้ยงเป็ดเช่นกันทั้งยังประสบความสำเร็จมากด้วย สามีของลูกสาวคนรองไม่ต้องพูดเลย สามีของลูกสาวคนที่สามก็ดีเช่นกันทั้งปีนี้ลูกสาวหล่อนยังท้องแล้วด้วย
กลับมาที่เรื่องลูกชายคนโตที่จะแต่งงานแล้ว ลูกชายหล่อนยังอยากจะเรียนต่อ แต่การก้าวไปข้างหน้าก็ไม่ได้แย่อะไรนัก
เรียกว่าสะใภ้ใหญ่โจวไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจแล้ว
ความสุขที่สุดในชีวิตคน ไม่ใช่ว่าเป็นการเห็นชีวิตลูก ๆ ของตัวเองมีความสุขหรอกหรือ?
หลินชิงเหอได้ยินน้ำเสียงของพี่สะใภ้ใหญ่โจวเธอก็สัมผัสได้ว่าพี่สะใภ้ใหญ่มีความสุขมากขนาดไหน เธอพูดยิ้ม ๆ “มีลูกเขยลูกสะใภ้มากขนาดนี้พี่สะใภ้ใหญ่ก็วางใจได้แล้วนะคะ ทีนี้ก็เหลือแต่ถู่โต้วคนเดียวแล้ว”
สะใภ้ใหญ่โจวหัวเราะอย่างมีความสุข “พวกของเจ้าใหญ่ต่างก็มีอนาคตไกลทุกคน จะให้เทียบก็เทียบกันไม่ได้หรอกนะ” หลังจากนั้นหล่อนก็เปลี่ยนเรื่องมาคุยเรื่องที่ซื่อนีท้อง
“อย่างอื่นไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพียงแค่แพ้ท้องหนักเหมือนกับฉันเมื่อก่อนเลยค่ะ” หลินชิงเหอพูด
“เด็กคนนี้จริง ๆ เลย พี่สาวสองคนของหล่อนไม่เห็นมีใครแพ้ท้อง แต่หล่อนกลับแพ้เสียได้” สะใภ้ใหญ่โจวพูดอย่างจนใจ
“มันแล้วแต่ร่างกายคนคนนั้น แต่ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ” หลินชิงเหอพูด
สะใภ้ใหญ่โจวพูดเรื่องในชนบทให้ฟังบ้างเล็กน้อย ตอนนี้ฐานะของหล่อนดีมากแล้ว จึงไม่สนใจค่าโทรศัพท์ไม่กี่หยวนนี้ พูดเยอะหน่อยก็คงไม่เป็นไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...