บทที่ 635 ไม่ได้รับการรังแก
สวี่เชิ่งเหม่ยโกรธเคืองบ้านหลักตระกูลโจวอย่างถึงที่สุด
เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่พอใจคู่ครองที่หล่อนหาด้วยตัวเอง ผิดเหรอที่หล่อนแค่อยากมีความสุข ถ้าหล่อนไม่ไขว้คว้าแล้วเมื่อไหร่จะมีชีวิตดี ๆ ล่ะ?
แต่หล่อนขอไม่พูดเรื่องนี้ ต่อมาหรือ? ต่อมาหล่อนถึงกับยอมก้มหัว แต่อีกฝ่ายกลับทำเป็นไม่ทุกข์ไม่ร้อน และที่ทำให้หล่อนโกรธที่สุดก็คือเรื่องน้องชายหล่อน
น้องชายถูกขังเข้าคุก แต่ตระกูลบ้านหลักโจวกลับไม่ช่วยทั้ง ๆ ที่พวกเขาสามารถทำได้ แต่ก็เลือกที่จะไม่ช่วย แม้ว่าพ่อแม่ของหล่อนจะมาขอร้องก็แล้ว คุกเข่าให้ก็แล้ว พวกเขากลับไม่สนใจไยดีแม้แต่นิดเดียว
แม่ของหล่อนโกรธมากถึงขีดสุด จนพูดตัดความสัมพันธ์กันออกไป หลังจากนั้นหล่อนก็ไม่ได้ไปเหยียบที่บ้านหลักตระกูลโจวอีกเลย!
และ 2 ปีกว่านี้ กิจการของสวี่เชิ่งเหม่ยก็ยังดำเนินไปตามปกติ และหล่อนก็ไม่เคยก้าวไปเหยียบที่บ้านหลักโจวอีกเลยแม้เพียงครึ่งก้าว
“พวกเขาน่าจะผิดหวังในตัวผมมาก” สวี่เชิ่งเฉียงส่ายหน้า
“เฉียงจือ นายไม่ต้องไปนะ นายไปก็มีแต่ไปให้คนพวกนั้นด่าหรือสั่งสอนก็เท่านั้น ตอนนี้ครอบครัวเรากับครอบครัวพวกเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว มีอะไรให้น่าไปหาอีกเหรอ? นายดูแลกิจการร้านของตัวเองให้ดีเถอะ ตอนนี้การค้านับวันมีแต่จะยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ” สวี่เชิ่งเหม่ยพูด
2 ปีมานี้หล่อนมีรายได้เข้ามาไม่น้อย กระทั่งสามารถขยายร้านสาขาที่สองได้แล้วด้วย ตอนนี้หล่อนมีกิจการสองร้าน รายได้ต่อเดือนถึง 1,000 กว่าหยวนนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้สบายมาก
“ผมจะตั้งใจทำให้ดี แต่อย่างไรก็ควรไปหาคุณตาคุณยายด้วยจะดีกว่า” สวี่เชิ่งเฉียงพูด
วันถัดมาเขาก็เดินไปเยี่ยมแล้ว ตอนที่เขามาถึง ท่านแม่โจวกำลังพูดบอกแม่บ้านคนใหม่ให้ทำเจียนปิ่งกั๋วจือ[1]ให้กิน
อย่ามองว่าในตอนนี้นางอายุมากแล้ว นางนั้นเจริญอาหารดีเชียว ร่างกายก็แข็งแรงมากเช่นกัน
แม่บ้านคนนี้เป็นคนละแวกใกล้ ๆ บ้าน เป็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยทำงานให้พนักงานในรัฐวิสาหกิจ ตอนนี้ตกงานแล้ว พอเจ้ารองโจวเฉวี่ยนได้ยินข่าวก็ไปเชิญให้หล่อนมาทำงาน
หน้าที่มีเพียงทำอาหารให้ครบสามมื้อต่อวัน หลังจากนั้นก็แค่ล้างจาน กวาดพื้นถูพื้น และซักผ้าเท่านั้น
แถมตอนซักผ้ายังมีเครื่องซักผ้าให้อีกด้วย เรียกว่าเป็นงานสบายงานหนึ่งเลยก็ว่าได้ และเขาให้รายได้ต่อเดือน 130 หยวน นั่นทำให้หล่อนเต็มใจรับทำงานนี้
ปกติหล่อนก็จะถามท่านพ่อท่านแม่โจว และผู้เฒ่าหวังว่าอยากกินอะไร หลังจากนั้นจึงจะทำให้กิน ฝีมือหล่อนทั้งดีทั้งสะอาดและยังขยันมากด้วย ดังนั้นท่านแม่โจวจึงพอใจหล่อนมาก
ในตอนแรกนางยังคิดว่าให้เงินเดือนมากเกินไปหน่อย ตอนสมัยพวกนางทำไร่ไถ่นาต้นปีจนสิ้นปี ก็ยังไม่สามารถเก็บเงินได้สัก 100 หยวนเลย
แต่ตอนนี้ชีวิตนางกลับต่างออกไป นางไม่ต้องไปซื้อกับข้าวทำกับข้าวเองแล้ว แถมยังมีเวลาว่างมากขึ้นไปสวนสาธารณะหาเพื่อนสนิทมิตรสหายเล่นร้องงิ้วด้วยกัน ชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ผ่านไปอย่างมีความสุขมากจริง ๆ
หลังจากบอกว่าวันนี้จะกินอะไร ท่านแม่โจวก็เตรียมตัวออกนอกบ้าน และนั่นก็ทำให้นางได้เห็นหลานชายอกตัญญูคนนี้
ท่านแม่โจวนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหลุดปากพูดออกไป “เฉียงจือ เธอออกมาแล้วเหรอ?”
“คุณยาย ผมออกมาแล้วครับ” เฉียงจือพยักหน้าพูด
ท่านแม่โจวสีหน้าเปลี่ยนไป “ไม่ใช่ว่าออกปลายปีนี้เหรอ เธอจะหนีออกมาแบบนี้ไม่ได้นะ!”
สวี่เชิ่งเฉียงส่ายหน้าพูด “คุณยายครับ ผมถูกปล่อยตัวออกมาครับ” เขาอธิบายให้เข้าใจถึงสาเหตุ คุณยายของเขาจึงไม่ได้ใช้สายตาโกรธ ๆ มองเขาอีก
ท่านแม่โจวถอนใจอย่างโล่งอก นี่ถ้าหนีออกมา บ้านตระกูลโจวของนางนี่แหละที่จะเป็นคนส่งกลับเข้าไปเอง !
“ครั้งก่อนแม่ของเธอมาหาฉัน มาตัดความสัมพันธ์กับฉันแล้วก็ตาของเธอด้วย และหล่อนก็จะไม่มาที่นี่อีกแล้วเช่นกัน” แม้ว่าท่านแม่โจวจะพาเขาเข้ามาในบ้าน แต่ก็ยังคงพูดเสียงฮึดฮัด
ตอนนั้นนางโกรธจนแทบทนไม่ไหว เกือบจะหายใจไม่ออก ก่อนหน้านี้นางไม่คิดว่าลูกสาวตัวเองมีปัญหาอะไร ตอนนี้เห็นทีว่าตัวหล่อนนั้นแหละที่ผิดปกติ!
ทำให้หลานชายของนางมีสภาพเป็นอย่างนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเพราะหล่อน ถ้าไม่ใช่หล่อนอบรมสั่งสอนเขาให้ดี เขาจะบุ่มบ่ามถึงเพียงนี้หรือ!
อบรมสั่งสอนลูกเหมือนกัน แต่ทำไมบ้านสี่ถึงสามารถเลี้ยงดูเด็ก ๆ ให้กลายเป็นคนยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้ได้!
“คุณยายก็รู้ว่าแม่รักผมมากมาโดยตลอด พอเกิดเรื่องอย่างนั้นขึ้นกับผม แม่ก็น่าจะตกใจ จึงได้หลุดพูดออกไปแบบนั้น คุณยายอย่าทะเลาะกับแม่เลยครับ” สวี่เชิ่งเฉียงพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...