บทที่ 694 ท่องเที่ยวรอบโลก
หลินชิงเหอและโจวชิงไป๋พาเจ้าสามและมี่มี่กลับปักกิ่ง ซึ่งทุกอย่างที่ปักกิ่งยังเป็นเหมือนปกติ
แต่ตอนเจ้าสามไปนั่งเล่นที่บ้านปู่ย่า เขาก็บอกข่าวที่ปีนี้พ่อแม่เขาจะรับลุงรองมาอยู่ปักกิ่งด้วย
ท่านพ่อโจวและท่านแม่โจวถึงกับตกตะลึง
“ลุงรองเธอมาทำอะไรที่นี่เหรอ?” ท่านพ่อโจวเอ่ย
ไม่เห็นหน้าลูกชายคนรองตั้งนาน ถึงแม้ตอนนี้ลูกชายคนรองก็เป็นปู่คนแล้วเหมือนกัน แต่ท่านพ่อโจวก็ยังคิดถึงอยู่
ลูกชายคนอื่นได้เจอหมด มีแต่ลูกชายคนรองที่ไม่ได้เจอ พอคนเราแก่ตัวลงใจก็อ่อน เป็นเรื่องปกติของคนทั่วไป
เพียงแต่เขาไม่ได้แสดงออกมา
เทียบกันแล้วท่านแม่โจวกลับแสดงความรู้สึกออกมาเต็มเปี่ยม
หลังคุยโทรศัพท์กันและเรียกพี่รองโจวมารับสาย ท่านแม่โจวเช็ดน้ำตาอยู่นาน พี่รองโจวอีกด้านก็สะอึกสะอื้น บอกว่าตัวเองอกตัญญู อีกหน่อยจะมาทดแทนบุญคุณของนางและพ่อที่ปักกิ่ง
ถึงจะร้องไห้ไปยกใหญ่ แต่ท่านแม่โจวก็อารมณ์ดีมาก ให้โจวชิงไป๋ขับรถส่งนางกลับบ้าน
“บ้านโจวของเราได้สะใภ้อย่างเมียแกถือเป็นบุญของตระกูล ชิงไป๋ แกห้ามทำเรื่องที่ผิดต่อเมียแกนะรู้ไหม ไม่อย่างนั้นพ่อกับแม่แกนี่แหละจะไม่ปล่อยแกไปคนแรก” พอถึงบ้าน ท่านแม่โจวก็พูดกับเขาทั้งที่ยังไม่ทันลงรถ
โจวชิงไป๋กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่ไปฟังมาจากไหนอีกครับเนี่ย”
ท่านแม่โจวจะไปฟังมาจากไหนอีกล่ะ เรื่องเล่าการหย่าร้างที่สวนสาธารณะมีตั้งมากมาย บ้านนู้นบ้านนี้ เดี๋ยวเรื่องนี้เข้ากันไม่ได้เรื่องนั้นตกลงไม่ได้ ไหนจะคนที่พอมีเงินแล้วก็ออกไปมีภรรยาน้อย ภรรยาที่บ้านรู้เข้าจึงหย่ากัน
ครอบครัวดี ๆ เล่นเอาบ้านแตกสาแหรกขาดกันหมด
ท่านแม่โจวจึงรู้สึกว่าจำเป็นต้องเตือนสติลูกชายตัวเอง
โจวชิงไป๋ทั้งขำทั้งอ่อนใจ “แม่ครับ แม่คิดมากเกินไปแล้ว”
“ฉันแค่คิดมากไปก็ดี” ท่านแม่โจวแค่นเสียง “ฉันกับพ่อแกอายุปูนนี้แล้วอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว ถ้าแกอยากให้พวกเราอยู่กันดี ๆ ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะว่าต้องทำยังไง”
ตอนที่กลับบ้านกับภรรยา เขาจึงเล่าเรื่องที่แม่เตือนเขาให้ฟัง
“แม่จะห่วงคุณไปทำไมกัน คนอย่างคุณถ้าขาดฉันไปก็เหมือนชีวิตที่ขาดพระอาทิตย์ ฉันสิ ต้องเจอสิ่งยั่วยวนตั้งมากตั้งมาย เด็กหนุ่มแต่ละคนข้างนอกนั่นเห็นแล้วใจเต้นสุด ๆ เลย” หลินชิงเหอเอ่ย
โจวชิงไป๋หน้าเสีย ตอนแรกเขาแค่อยากแซว คิดไม่ถึงว่าจะเอาความในใจของภรรยาเขาออกมา
“ผมก็ไม่แก่” โจวชิงไป๋แค่นเสียง
หลินชิงเหอหัวเราะ “อีกไม่กี่ปีก็จะห้าสิบแล้วยังจะมาบอกว่าไม่แก่อีก”
โจวชิงไป๋จึงพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าเขายังไม่แก่จริง ๆ
สุดท้ายหลินชิงเหอก็นอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของโจวชิงไป๋ ก็ได้ ๆ เขายังไม่แก่ คืนนี้ได้ตั้งหลายครั้ง
เช้าวันรุ่งขึ้น โจวชิงไป๋จึงรีบไปออกกำลังกาย
ภรรยาตัวเองทำให้เขารู้สึกมีความกังวลของชายวัยกลางคน มันไม่ใช่แรงกดดันจากครอบครัว แต่กดดันด้วยเรื่องที่จะยังดึงดูดใจภรรยาตนได้อยู่ไหม
หลินชิงเหอไม่สนใจเรื่องพวกนี้ของเขา กินข้าวเช้าเสร็จก็ไปห้องทำงานแปลเสียแล้ว
เรื่องหาทีมงานก่อสร้างนั้นปล่อยให้เจ้าสามจัดการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...