ขณะที่เด็กหญิงกำลังนอนสบาย บรรดาผู้ใหญ่ต่างอยู่ในอาการตกใจ
“ครั้งนี้พี่กลัวแทบตายแน่ะ สาวน้อยคนนี้ไม่ได้พูดอะไรเลยเวลารู้สึกไม่สบาย พี่กับสามีร้อนใจแทบบ้าอย่างกับแมลงวันหัวขาด” สะใภ้สามดึงตัวหลินชิงเหอเข้ามาใกล้ขณะเอ่ยอย่างซาบซึ้ง
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะ คืนนี้อู่นีคงจะหลับสบายแล้ว ฉันยังพอมียานี้เหลืออยู่อีกนิดหน่อย เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะให้เจ้าใหญ่เอามาให้นะคะ” หลินชิงเหอเอ่ยปลอบ
เธอไม่ได้อยู่นานนัก จากนั้นก็กลับบ้านไปพร้อมกับโจวชิงไป๋
ท่านพ่อโจว ท่านแม่โจว สะใภ้ใหญ่ พี่ชายใหญ่ และคนอื่น ๆ ต่างร้อนใจกับเรื่องนี้จนนอนไม่หลับเหมือนกัน แต่เมื่อเห็นสถานการณ์กลับมาเป็นปกติพวกเขาทั้งหมดก็โล่งใจ
“ต้องขอบคุณแม่เจ้าใหญ่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วใครจะรู้ว่าในครั้งนี้อู่นีจะทรมานขนาดไหน เธอมีพลังใจแข็งกล้าเหลือเกินที่ทนต่อความเจ็บป่วยและไม่ร้องเลยสักแอะ” สะใภ้ใหญ่ถอนหายใจ
“ครั้งนี้อู่นีได้ยาอะไรไปน่ะคะ? ถึงได้เห็นผลเร็วขนาดนี้?” สะใภ้รองถาม
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นยาอะไร แต่ราคามันคงไม่ถูกแน่” พี่ชายสามส่ายหน้า
“งั้นเราควรให้เงินกับแม่เจ้าใหญ่ดีไหมคะ? ฉันเกรงว่าหล่อนจะซื้อมันด้วยความยากลำบากไว้เผื่อใช้ในยามฉุกเฉินน่ะค่ะ” สะใภ้ใหญ่หันไปถามท่านแม่โจว
“ให้เงินอะไรกันคะ?” สะใภ้รองแย้งก่อนที่ท่านแม่โจวจะได้พูด “เราเป็นครอบครัวเดียวกัน พูดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ตอนช่วยเหลือกันแบบนี้มันไม่ต่างจากทำกับหล่อนเหมือนเป็นคนนอกเหรอคะ?”
“คุณแม่คะ ยานี้สะใภ้สี่ไม่ได้หาซื้อมาง่าย ๆ เลยนะคะ พรุ่งนี้เช้าฉันก็จะต้องรับไว้อีก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องคืนเงินให้หล่อน เพราะตอนนี้พวกเขาแยกตัวจากเราแล้ว ยิ่งกว่านั้นก็คือฉันรู้สึกซาบซึ้งใจที่สะใภ้สี่เต็มใจให้ยาช่วยเหลืออู่นีในครั้งนี้น่ะค่ะ” สะใภ้สามยังคงยืนกราน
สะใภ้รองเม้มปากก่อนจะมองแม่สามี ท่านแม่โจวโบกมือและเอ่ยตอบ “ถามหล่อนแล้วกันว่าต้องการเท่าไหร่แล้วก็ให้หล่อนซะ”
“วันนี้ทุกคนเหนื่อยกันมากแล้ว รีบกลับไปนอนซะ พรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้า” ท่านพ่อโจวเอ่ยเสริม
พวกเขาทั้งหมดจึงแยกย้ายกันเข้านอน
ส่วนทางฝั่งบ้านสะใภ้สี่ หลินชิงเหอก็อธิบายเรื่องนี้กับโจวชิงไป๋ “โชคดีที่ฉันตะลอนไปทั่วตลาดมืดแล้วเจอยานี้เข้าพอดีน่ะค่ะ คนขายบอกว่าเป็นยาสูตรลับที่ขายให้ฉันเท่านั้น ฉันลองดมดูแล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นยาดี ก็เลยซื้อมาเผื่อว่าคุณกับลูก ๆ เป็นอะไรไป แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้งานจริงในครั้งนี้”
โจวชิงไป๋พยักหน้า และก็เป็นอย่างที่คิด ชายหนุ่มไม่ได้ซักถามเกี่ยวกับเรื่องนี้มากกว่านั้น
เช้าวันต่อมา หลินชิงเหอก็ใช้ให้เจ้าใหญ่นำยาไปให้กับทางบ้านใหญ่ตระกูลโจว
เมื่อเด็กชายกลับมา เขาก็ถามผู้เป็นแม่ “แม่ครับ ป้าสะใภ้สามถามแม่ด้วยแหละว่ายานี้ราคาเท่าไหร่”
หลินชิงเหอที่กำลังผัดแตงกวากับไข่อยู่ก็เอ่ยตอบ “ลูกบอกป้าสะใภ้สามไปว่ายานี้ให้อู่นีพี่สาวของลูก ไม่ต้องคิดเงินหรอก แต่ถ้าอยากให้ค่าตอบแทนก็แค่ให้อู่นีมาช่วยทำงานบ้านให้แม่ตอนที่เธอว่างแล้วก็พอ”
เรื่องนี้ถือว่าเป็นสินน้ำใจอย่างหนึ่ง เนื่องจากในบ้านเธอมีงานบ้านที่ต้องทำไม่มากนัก
สะใภ้สามเข้าใจว่าเธอหมายความว่าอย่างไรแล้วก็เอ่ยขึ้นมา “พี่จะจำบุญคุณของเธอไว้นะสะใภ้สี่”
สะใภ้ใหญ่ยังไม่ได้ออกไปทำงาน เพราะพวกผู้ชายออกกันไปก่อน ส่วนผู้หญิงจะออกไปทีหลังก็ไม่เป็นปัญหา ในตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลาหกโมงเช้าเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่นับว่าสายมาก
“ยานี้ให้ผลชะงัดดีจริง ๆ” สะใภ้ใหญ่ประเมินดูจากสรรพคุณยาแล้วก็รู้สึกว่ายาชนิดนี้ไม่ได้ถูกเลย
สะใภ้สามเห็นด้วย ขณะที่สะใภ้รองเอ่ยขึ้น “หล่อนไม่ได้ร้อนเงินมากนักหรอกค่ะ ดังนั้นไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ตอนนี้ได้เวลาแล้วนะคะ เตรียมตัวไปทำงานกันเถอะค่ะ วันนี้มีหลายอย่างต้องทำเลย”
“งั้นเธอก็ดูแลอู่นีอยู่ที่บ้านไปนะ” สะใภ้ใหญ่บอกสะใภ้สาม
เพราะว่าอู่นีเป็นลมแดด สะใภ้สามจึงอยู่บ้านดูแลลูกสาวของหล่อนกับจัดการหุงหาอาหารและงานบ้านอื่น ๆ
สะใภ้ใหญ่ ท่านแม่โจว และสะใภ้รองพาบรรดาเด็ก ๆ ในบ้านรวมทั้งเจ้าใหญ่กับเจ้ารองไปที่ทุ่งนา
“พี่ต้องบอกเลยว่าปีนี้เจ้าใหญ่เติบโตขึ้นเยอะมากจริง ๆ” สะใภ้ใหญ่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
สะใภ้รองเหลือบมองและเอ่ยอย่างอิจฉา “พี่สะใภ้ใหญ่ก็ดูอาหารที่พี่น้องสองคนนี้กินทุกวันสิคะ กินแบบนี้ก็ควรจะสูงขึ้นอยู่หรอกค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม
ทำไมเปิดอ่านไม่ได่...
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ...