ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม นิยาย บท 91

ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม – บทที่ 91 การแยกครอบครัวเป็นความคิดที่ดีแล้ว
บทที่ 91 การแยกครอบครัวเป็นความคิดที่ดีแล้ว
โดย
EnjoyBook
บทที่ 91 การแยกครอบครัวเป็นความคิดที่ดีแล้ว

“กินหมั่นโถวทอดเสียด้วย พวกเขาช่างรู้จักการหาความสุขจริง ๆ”

เด็ก ๆ ต่างคุยกันอย่างมีความสุขตรงตำแหน่งไกลออกไป ในขณะที่ผู้ใหญ่นั่งฟังอยู่ในบริเวณนี้ สะใภ้รองได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ต้องโพล่งออกมา

ท่านแม่โจวตัดสินใจแบบนั้นเพราะคิดว่าการมีนางคอยควบคุมกำกับสิ่งต่าง ๆ มากเกินไปมันทำให้บรรดาสะใภ้ไม่พอใจ เมื่อใดที่แต่ละครอบครัวแยกบ้านออกไปแล้ว นางก็ไม่คิดที่จะควบคุมอะไรอีก

สะใภ้ใหญ่ครุ่นคิดในใจว่าหล่อนจะทำอะไรอร่อย ๆ ให้เด็ก ๆ ทานดีหากว่าวันหนึ่งได้แยกครอบครัวออกไปแล้ว

ส่วนหลินชิงเหอที่อยู่บ้านก็ทราบมาว่าสะใภ้สามกำลังอยู่เฝ้าบ้าน เธอจึงมาเยี่ยมในทันทีที่งานบ้านเสร็จเรียบร้อย

แม้อู่นีจะยังดูเหน็ดเหนื่อยและไม่สบาย แต่สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นมากกว่าเมื่อคืน

หลังแน่ใจว่าเด็กหญิงสบายดีแล้ว เธอก็คุยกับสะใภ้สามจากนั้นก็ปล่อยให้เจ้าสามเล่นกับต้งต้งและถูโต้วลูกชายคนโตของสะใภ้ใหญ่ เนื่องจากเขายังไม่มีชื่อจริง ตอนนี้เด็กชายก็เลยมีแค่ชื่อเล่นว่าถูโต้ว

เจ้าใหญ่กับเจ้ารองไม่ได้อวดแต่อย่างใด เพราะหลินชิงเหอให้สัญญาว่าพวกเขาจะได้ทานหมั่นโถวทอดเมื่อสองพี่น้องถามว่าเธอจะทำอะไรเป็นอาหารกลางวัน

เธอหั่นหมั่นโถวแล้วเอาไปชุบไข่ผสมกับเกลือและงา จากนั้นก็ทอดจนกระทั่งทุกด้านเป็นสีทอง ซึ่งรสชาติของมันถือว่าอร่อยสุดยอด

หลินชิงเหอทำหมั่นโถวทอดไว้จำนวนมากและใช้น้ำมันถั่วลิสงที่เธอซื้อมาในการทอด

หญิงสาวใช้น้ำมันถั่วลิสงไปเพียงหนึ่งขวดจากน้ำมันทั้งหมดห้าขวดที่เก็บอยู่ในมิติมาแสนนาน เนื่องจากปกติเธอใช้แต่มันหมู ดังนั้นมันจึงเหลือน้ำมันถั่วลิสงอยู่สี่ขวด

เธอจึงใช้สอยอย่างประหยัดและใช้น้ำมันนี้ในการทอดหมั่นโถว

นอกจากหมั่นโถวทอดแล้วก็ยังมีถั่วเขียวต้ม ซึ่งเป็นถั่วเขียวล้วนไม่ใส่น้ำตาล เนื่องจากมันทานคู่กับหมั่นโถวทอดได้อย่างลงตัวที่สุด

เท่านี้ก็น่าจะพอทานสำหรับทั้งครอบครัวแล้ว จากนั้นหลินชิงเหอก็เริ่มต้มน้ำเฉาก๊วยเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย ซึ่งมันมีสรรพคุณเฉพาะในการช่วยลดความร้อนในร่างกาย

เมื่อถึงเวลาส่งอาหารตอนกลางวัน หญิงสาวก็แวะมาหาสะใภ้สามแล้วก็ขนอาหารส่วนของตระกูลโจวไป แต่เธอไม่ได้พาเจ้าสามไปด้วย กลับปล่อยไว้ที่บ้านตระกูลโจวเพื่อให้สะใภ้สามคอยดูแล

แน่นอนว่าเธอได้แบ่งหมั่นโถวทอดกับถั่วเขียวต้มไว้ให้เจ้าสาม อู่นี และต้งต้งด้วย

อากาศวันนี้ช่างร้อนอบอ้าวจนหลินชิงเหอรู้สึกไม่สบายตัวยามมาส่งอาหาร ดังนั้นหากพวกเขาต้องการให้เธอมาทำงานก็อย่าแม้แต่จะคิดเลย เธอรับไม่ได้หรอก

เมื่อเห็นโจวชิงไป๋ หญิงสาวก็รู้สึกเป็นห่วงอย่างมากขึ้นมาทันที

“ในความคิดของฉัน หมั่นโถวทอดกับถั่วเขียวต้มมันทำให้ทานแล้วรู้สึกร้อน ดังนั้นฉันเลยเตรียมชาสมุนไพรนี้มาให้พ่อกับลูก ๆ เป็นพิเศษน่ะค่ะ อย่าลืมดื่มนะคะเข้าใจไหม?” หลินชิงเหอกระตุ้น

เห็นว่าภรรยาของตนจู้จี้ขนาดไหน ดวงตาของโจวชิงไป๋ก็อ่อนลง “คุณทานมากกว่านี้สิ”

“ฉันทานมาจากบ้านแล้วค่ะ” หลินชิงเหอโบกมือ แต่โจวชิงไป๋ก็ยังกดดันเธออยู่ เธอจึงทานหมั่นโถวทอดอีกชิ้น

เจ้าใหญ่กับเจ้ารองรู้สึกพอใจกับอาหารมื้อนี้มาก

หมั่นโถวทอดมีสีเหลืองทองทั้งสองด้านและมีไข่กับงาดำอยู่ด้านบน มันให้รสเค็มปะแล่มและกรุบกรอบ ช่างอร่อยล้ำเมื่อทานคู่กับถั่วเขียวต้ม

หลินชิงเหอเองก็ส่งอาหารให้บ้านตระกูลโจวด้วยเหมือนกัน แต่เธอส่งมันให้กับสะใภ้ใหญ่และไม่ได้สนใจอะไรอีก

สะใภ้รองได้มองมาทางครอบครัวของสะใภ้สี่ และเห็นว่ามันเป็นหมั่นโถวทอดอย่างที่คิดไว้จริง ๆ ขณะทานแป้งจี่ที่สะใภ้สามทำ หล่อนก็เปรยขึ้นมา “แล้วมันยังเคลือบไข่กับเมล็ดงาด้วย”

กลิ่นหอมชวนรับประทานของหมั่นโถวทอดลอยมาตามลมจนถึงตรงที่หล่อนนั่งอยู่

“ช่างรู้จักดื่มด่ำกันจริง ๆ” พี่ชายรองโพล่งออกมาขณะเคี้ยวแป้งจี่

วันนี้นับว่าเป็นเรื่องดีที่ได้ทานแป้งจี่ขนาดใหญ่สองเท่าของปกติเป็นอาหารกลางวัน แต่ถ้าเทียบกับหมั่นโถวทอดของสะใภ้สี่แล้วมันก็เทียบกันไม่ติด

พี่ชายใหญ่ส่ายหน้าขณะเอ่ยความเห็น “พวกเขากินอยู่กันแบบนี้ได้ยังไงกัน? กินแบบนี้แล้วต้องใช้ของเยอะขนาดไหน?”

สะใภ้ใหญ่ได้ยินแล้วก็คิดในใจ ‘อยู่กินแบบนี้แล้วมันผิดตรงไหนกันคะ? ดูเจ้าใหญ่ เจ้ารอง และเจ้าสามสิว่ามีชีวิตดีกว่าเดิมขนาดไหน?’

แต่ตัวหล่อนเองก็ไม่กล้ากินอยู่แบบนี้เหมือนกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นชาวสวนแม่ลูกสาม