ซุนปั๋วเฉิงกับซุนจื่อเชียนต่างตกตะลึง ต่างคิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป
แต่ซูเสี่ยวลู่นั่งลงบนที่นั่งที่ตาเฒ่าอู๋ยกให้แล้ว ยื่นมือน้อยๆ ออกไปจับชีพจรให้ซุนเป่าซ่าน
ไม่นาน ตาเฒ่าอู๋ก็ถามซูเสี่ยวลู่ด้วยน้ำเสียงหนักอึ้งว่า "รักษาได้หรือไม่? ดูให้ดีๆ ดูให้ชัดเจนก่อนแล้วค่อยพูด"
เขาเคยจับชีพจรมาแล้ว อาการของซุนเป่าซ่านนี้รักษายากมาก และต้องใช้เวลานาน อีกทั้งร่างกายของพวกเขาอ่อนแอเกินไป ทนฤทธิ์ยาหลายขนานไม่ไหว หากไม่ระวังเพียงเล็กน้อยก็อาจเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ถ้าแค่รักษาชีวิตไว้ได้ช่วงหนึ่งก็ไม่มีปัญหา
ถ้าซูเสี่ยวลู่จะใช้เรื่องนี้มาเดิมพัน ความเสี่ยงก็คงจะสูงเกินไป
หากวันหนึ่งซุนเป่าซ่านเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จวนตระกูลซุนอาจจะโกรธแค้นตระกูลซู
จริงๆ แล้วเขาไม่แนะนำให้ซูเสี่ยวลู่รักษา ดังนั้นน้ำเสียงของเขาจึงหนักหน่วงขึ้นมาบ้าง
ซูเสี่ยวลู่ยิ้มให้ตาเฒ่าอู๋ แล้วนางก็พยักหน้าพูดว่า "รักษาได้เจ้าค่ะ แต่จะหายในเร็ววันคงไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องสามปีห้าปี"
นางตัดสินใจที่จะรักษา อาการของซุนเป่าซ่านแย่มาก แต่ถ้าดูแลให้ดีก็สามารถรักษาให้หายได้ ตอนที่จับชีพจร นางก็กำลังคิดว่าจะรักษาอย่างไร
ใช้ยาและการฝังเข็มเสริม อีกทั้งใช้น้ำพุวิญญาณบำรุงร่างกายให้เขา ก็จะสามารถฟื้นตัวได้
ตาเฒ่าอู๋เห็นว่าซูเสี่ยวลู่เข้าใจแล้ว เขาจึงไม่พูดอะไรอีก
ซูเสี่ยวลู่ชักมือกลับ แล้วขยิบตาให้ซุนเป่าซ่านที่กำลังงงๆ อยู่
ซุนเป่าซ่านได้สติกลับมา หลุบตาลงอย่างเขินอาย เขารู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวขึ้นมา
เขารู้สึกว่าซูเสี่ยวลู่สวยมาก เหมือนกับนางฟ้าที่กล่าวถึงในตำราเลย รอยยิ้มของนางทำให้ซุนเป่าซ่านรู้สึกแปลกๆ ในใจ ราวกับมีบางสิ่งบินเข้าไปในหัวใจของเขาในทันที
ซุนปั๋วเฉิงกับซุนจื่อเชียนได้ยินคำพูดนั้น ก็ควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นของตัวเองไม่ได้แล้ว
ซุนปั๋วเฉิงตื่นเต้นจนดวงตาแดงก่ำ มองไปที่ตาเฒ่าอู๋แล้วพูดอย่างกระตือรือร้นว่า "ท่านอาจารย์ ขอร้องท่านช่วยชีวิตหลานชายของข้าด้วย จวนตระกูลซุนของเรายินดีจ่ายทุกอย่างเพื่อแลกกับสิ่งนี้"
ซุนจื่อเชียนก็แสดงความจริงใจเช่นกัน "ท่านอาจารย์ ท่านมีข้อเรียกร้องอะไรก็บอกมาได้เลย ถึงแม้ข้าจะทำไม่ได้ ข้าก็จะหาทางทำให้ได้ ขอร้องท่านช่วยชีวิตบุตรชายบุตรสาวของข้าด้วย"
ตาเฒ่าอู๋ไม่ได้มองซุนปั๋วเฉิงกับซุนจื่อเชียน แต่หันไปพูดกับซูเสี่ยวลู่ว่า "นังหนู เจ้าเป็นคนเสนอเงื่อนไขเอง เดี๋ยวอาจารย์จะเสริมให้"
ซูเสี่ยวลู่รู้ว่าตาเฒ่าอู๋ทำเช่นนี้เพื่อประโยชน์ของนาง นางจึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วมองซุนปั๋วเฉิงกับซุนจื่อเชียนอย่างจริงจังพลางพูดว่า "ข้าสามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ ข้อเรียกร้องของข้าคือเงินหมื่นตำลึง จัดการเรื่องเข้าเรียนในเมืองให้พี่ใหญ่พี่รองของข้าเสียให้เรียบร้อย และรับรองว่าตราบใดที่จวนตระกูลซุนยังอยู่ในเมืองหยางเจี่ยว ก็ต้องคุ้มครองครอบครัวของข้าตลอดไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติไปเป็นสาวน้อยนำโชคของครอบครัวชาวนา