กู้ฮวนเอ๋อร์ที่แอบฟังอยู่ด้านข้างหูตั้งขึ้นทันที แล้วเบนสายตาไปทางซ่งรั่วเจินทันที “ญาติผู้พี่ ท่านพบพิรุธอะไรหรือไม่?”
“พบแล้ว” ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “พี่สี่ของข้าผิดปกติยิ่งนัก!”
เมื่อก่อน พี่สี่เป็นคนลุ่มหลงในความรักจริง ๆ แต่หลังจากได้สติจากอาการลุ่มหลงนั้นแล้ว ก็กล่าวได้ว่าไม่สนใจโลกภายนอกเลย สตรีใดที่ท่านแม่แนะนำให้ ก็ไม่ชายตามองแม้แต่น้อย
เขากล่าวว่าบัดนี้เพียงอยากจัดการกิจการให้ดี รอได้พบสตรีที่ชอบเมื่อใดก็ค่อยว่ากันอีกที
นึกถึงก่อนหน้านี้ที่พบพี่สี่กับมู่เหยาอยู่ด้วยกันที่โรงน้ำชา ก็น่าแปลกอยู่บ้าง บัดนี้ดูท่าแล้ว เห็นได้ชัดว่าทั้งสองสนิทกันยิ่งกว่าที่พวกเขาคิดไว้
ในเวลาเดียวกัน ฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ ดวงตาแฝงไว้ด้วยความใคร่รู้
“เหตุใดเจ้าไปเมืองหยางโจว แม้แต่สัมภาระก็มิได้ตระเตรียมเลย? หรือว่าปกติแล้ว เจ้าออกจากจวนก็มีความเคยชินเช่นนี้?”
ซ่งจิ่งเซินเหลือบมองฉู่มู่เหยาอย่างจนปัญญาแวบหนึ่ง”กระหม่อมเพียงแค่มาส่งน้องหญิงสี่ขึ้นเรือ ย่อมมิได้เตรียมสัมภาระไว้”
เมื่อคำพูดนี้เอ่ยออกมา ฉู่มู่เหยาก็เบิกตากว้างขึ้นทันที “ฉะนั้นเจ้าก็มิได้คิดจะไปเมืองหยางโจวตั้งแต่แรก?”
“ใช่แล้ว” ซ่งจิ่งเซินพยักหน้า
ฉู่มู่เหยา “!!!”
“แล้วเหตุใดเจ้าถึงตามข้าขึ้นเรือมาด้วยกันเล่า?”
ซ่งจิ่งเซินยกมืออย่างไม่ใส่ใจ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววขบขัน “เห็นท่านทุกข์ใจเพราะเรื่องงานแต่งของเสิ่นหวยอัน หม่อมฉันมีเมตตายิ่ง จึงจะไปเป็นเพื่อนท่านสักครา”
“ข้ามิได้เสียใจเพราะเขา!” ฉู่มู่เหยากล่าว
ซ่งจิ่งเซินมองรอยคล้ำใต้เปลือกตาของนาง รวมถึงดวงตาที่บวมเล็กน้อย เห็นชัดว่ามิได้เชื่อเลยแม้แต่น้อย
“ท่านไม่ส่องกระจกดูหน่อยหรือ ว่าตัวเองตอนนี้มีสภาพเช่นไร?”
ฉู่มู่เหยาเข้าใจทันทีว่า ซ่งจิ่งเซินเข้าใจผิด รีบกล่าวว่า
“เจ้าอย่าพูดมั่ว เมื่อคืนข้าแค่คิดว่าพวกเสด็จพี่ออกไปเที่ยวกันแล้วไม่พาข้าไปด้วย แต่พอคิดว่าวันนี้ในที่สุดก็ได้ออกไปเที่ยว จึงตื่นเต้นจนหลับไม่สนิทเลยทั้งคืน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...