เข้าสู่ระบบผ่าน

ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง นิยาย บท 1069

ซ่งรั่วเจินไม่ค่อยรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเมืองอื่นๆ สักเท่าไร แต่ก่อนนี้ได้ยินคนพูดกันว่าเมืองหยางโจวงดงามมาก

โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ทัศนียภาพที่ร้อยบุปผาเบ่งบานชวนให้คนหลงใหลจนไม่อยากจากลา

ความจริง เทียบกับความศิวิไลซ์ในเมือง นางชอบความงามของธรรมชาติมากกว่า สถานที่ที่อยากไปท่องเที่ยวชมธรรมชาติจึงอยากไปดูทิวทัศน์ที่มีเอกลักษณ์สักหน่อย

ฉู่จวินถิงได้ยินคำพูดของนางแล้วก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ

ก่อนนี้ตอนล่องเรือไปเมืองผิงหยาง เขาก็พบว่าแม่นางผู้นี้ชมภูเขาสองฝั่งน้ำพลางทอดถอนใจชมเชยอยู่หลายที

ครั้นพบว่าเทือกเขาเหมือนอะไรก็จะมาบอกเขาโดยเฉพาะ ยิ้มถามว่าเหมือนหรือไม่เหมือน และก็เพราะว่ามีนาง เขาจึงไม่รู้สึกว่าการเดินทางคราวนั้นยาวนาน

“เจ้าอยากไป พวกเราก็ไปกันเถอะ!”

ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มออกมา นางกอดฉู่จวินถิงจุมพิตไปหนึ่งที

“เยี่ยมไปเลยเพคะ!”

ทอดมองหญิงสาวที่งดงามจับตา ดวงตาคู่นั้นราวกับว่ามีเพียงเงาของตนเองเท่านั้น แววตาฉู่จวินถิงก็เข้มขึ้นหลายส่วน “แค่นี้ยังไม่พอหรอกนะ...”

จนกระทั่งซ่งรั่วเจินรู้สึกว่าริมฝีปากของตนเองถูกจูบจนบวมเจ่อไปหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงปล่อยนางอย่างพึงพอใจ

เห็นปากจิ้มลิ้มสีผลอิงเถานั่นแล้ว เขาควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่เลยจริงๆ

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะออกเดินทางเมื่อไรดีเพคะ?”

ดวงตาพราวระยับของซ่งรั่วเจินสะท้อนความตื่นเต้นยินดี ในหัวเริ่มคิดว่าจะนำอาภรณ์ชุดไหนไปเมืองหยางโจว

“ไปเมื่อใดก็ได้ทั้งนั้น แต่ก่อนไปควรไปบอกกล่าวพ่อตาแม่ยายเสียหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เตรียมของกันตอนนี้เลย? อีกประเดี๋ยวค่อยไปบอกท่านพ่อท่านแม่ พร้อมกันนั้นจะได้ฝากฝังเรื่องร้านค้าไว้ด้วย หม่อมฉันยังต้องแวะไปหาพี่สี่สักหน่อย”

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง