ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 454

คำพูดนี้เหมือนดั่งฟ้าร้อง ศรปักลงกลางใจ เหลิ่งชิงหลางเข้าใจในทันทีว่า อะไรคือการยอมตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ต่อ

“ไม่เพคะ ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ท่านจะไร้หัวใจกับชิงหลางอย่างนี้ไม่ได้นะเพคะ”

สายตาของมู่หรงฉีเย็นยะเยือกจนเข้ากระดูก ทำให้คนตัวสั่นเป็นลูกนก “ทหาร มาพาตัวนางไป!”

เสนาบดีเหลิ่งทนไม่ได้ เบือนหน้าหนีไป กัดฟันแน่น

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะหาเรื่องใส่ตัว ตัวเองยังจะมีหน้าไปขอร้องมู่หรงฉีได้ยังไงล่ะ?

ตอนแรกที่เหลิ่งชิงหลางลงมือทำร้ายสองชีวิตนี้ มู่หรงฉีแสดงออกทอดทิ้งอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ แต่ตัวเองกลับยกโทษให้นางอย่างง่ายดาย ออกมาขัดขวางทุกวิถีทาง ช่วยชีวิตนางจากน้ำมือของมู่หรงฉี บัดนี้ถึงได้แบกรับกับผลกรรมตัวเอง

ความผิด อยู่ที่ตนเอง

เหลิ่งชิงหลางดิ้นรนอย่างไร้เรี่ยวแรง กรีดร้อง ใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายอย่างสุดความสามารถ

ทหารอารักขาลากแขนนนางอย่างรุนแรง เหมือนกับลากหมูที่ดิ้นรนใกล้จะตาย ทิ้งรอยเลือดที่คดเคี้ยวไปตลอดทางเดิน

มู่หรงฉีเหมือนกับคนที่ถูกดึงจิตวิญญาณไป มองเหลิ่งชิงเฮ่ออย่างซึมกระทือ “ขอโทษนะ ข้ามันเลว ข้าขอโทษนะชิงฮวน”

หลังจากที่เหลิ่งชิงเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมดแล้ว แม้ว่าในใจเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและโกรธแค้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิเขาต่อว่าอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ในหลายวันที่ผ่านมานี้ มู่หรงฉีปฎิบัติกับชิงฮวนอย่างไร เขาก็ได้ประจักษ์ชัดแจ้งต่อสายตาของทุกคนแล้ว

เขากำมือแน่น สูดหายใจเข้าลึกๆ “ที่ข้ามาในวันนี้ ก็เพื่อที่จะมาพาตัวชิงฮวนกลับจวน”

“ไม่ ไม่ได้!” มู่หรงฉีพูดอย่างเด็ดขาด “ใครหน้าไหนก็อย่าหวังที่จะพาตัวนางไป!”

“นี่คือปรารถนาสุดท้ายของชิงฮวน มู่หรงฉี ข้าไม่โทษท่าน แต่ก็ไม่สามารถให้อภัยได้ ท่านฆ่านางแล้ว ยังต้องการให้นางตายตาไม่หลับอีกงั้นเหรอ?”

“ข้าไม่สน! ใครจะพาตัวชิงฮวนไป ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”

“รู้ว่าเป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรก ก็คงไม่ทำ! ท่านก็รู้ดีว่าเหลิ่งชิงหลางและจิ่นอวี๋ ทั้งสองเป็นภัยต่อชิงฮวน แต่ท่านเคยทำอะไรบ้าง? ตั้งแต่ต้นจนจบ ล้วนเป็นชิงฮวนที่พยายามด้วยตัวเอง ปกป้องท่าน ปกป้องจวนอ๋อง ขอเพียงท่านไม่ไร้หัวใจสักนิด ก็คงไม่เปิดโอกาสให้พวกนาง ทำร้ายชิงฮวน!”

เหลิ่งชิงเฮ่อประณามด้วยความโกรธ ไร้ซึ่งความปราณี แทงมู่หรงฉีจนเลือดอาบ

มู่หรงฉีกัดฟันแน่น “ข้ามันโง่เขลาเอง ข้าไม่ดีเอง มันเป็นความผิดของข้า เจ้าจะตีข้ายังไงก็ได้ ตำหนิต่อว่าข้าก็ได้ แต่่่ว่า พวกท่านไม่มีใครสามารถพานางไปได้! ข้าจะอยู่กับนาง!”

เหลิ่งชิงเฮ่อมองเขาด้วยความโกรธ จ้องมองมู่หรงฉีด้วยนัยต์ตาแดงก่ำ ไอน้ำยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆรวมกลุ่มกัน รื้นอยู่ที่ข้างในตาอย่างสั่นไหว สุดท้ายก็รับน้ำหนักไว้ไม่ไหว จากนั้นไหลล้นออกมาจากหางตา

สามารถทำให้บุรุษที่แข็งแกร่งประดุจเหล็กน้ำตาร่วงได้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก ว่าเป็นของปลอม

มู่หรงฉีรักทนุถนอมเหลิ่งชิงฮวน เพราะงั้น ตอนนี้คนที่เศร้าที่สุด เจ็บปวดใจที่สุด และรู้สึกผิดที่สุด ก็คือเขา

มู่หรงฉีค่อยๆก้มหน้าลง เหมือนกับซากศพที่เดินได้ ว่างเปล่าไร้ซึ่งวิญญาณ คนในบ้านเห็นเพียงแต่เขาที่พยายามอดกลั้น ไหล่ทั้งสองข้างสั่นเทา แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะสั่นไหวได้ ความเหงาและความเศร้าโศกที่ติดอยู่นั้น ใจดุจเถ้าที่ดับมอดไป

ภายในห้องนั้นเงียบเหงาวังเวง ไม่มีใครมีเรี่ยวแรงที่จะทำลายบรรยากาศที่เงียบเหงานี้

มู่หรงฉีกอดเหลิ่งชิงฮวนอย่างเหม่อลอยตลอดเวลา ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว

เหลิ่งชิงเฮ่อเองก็ทนไม่ไหว หันไปต่อยเข้ากับเสาอย่างแรง ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

รถม้าจากวังหลวงรีบวิ่งมาที่หน้าประตูจวนฉีอ๋อง

ฮ่องเต้ พระสนมฮุ่ยเฟยและคนอื่นๆต่างวิ่งเข้ามาข้างในอย่างตื่นตระหนก ตาแดงออกมา หลานรักที่พวกนางตั้งตารอคอยไม่มีแล้ว ลูกสะใภ้ที่ภาคภูมิใจก็ไม่มีแล้วเช่นกัน

ในใจของใครจะสามารถรับได้กันล่ะ?

สิ่งที่พวกเขากังวลยิ่งกว่าก็คือมู่หรงฉี ไม่กินไม่ดื่ม ไม่หลับไม่นอน กอดเหลิ่งชิงฮวนตลอด ไม่ให้ใครแตะต้อง หรือให้บรรจุศพ ทุกคนต่างพูดกันเยอะแยะมากมาย แต่ก็ไม่สนใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา