ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 668

“พระชายา” นักพรตเต๋าเทียนอีเรียกเหลิ่งชิงฮวน

ชิงฮวนนับถือเขาเสมอมา นางหันหลังกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นักพรตมาหาข้าเพราะมีธุระใช่หรือไม่”

นักพรตเต๋าเทียนอีพยักหน้า “เมื่อครู่ไปจวนอ๋องเซวียนเจอพระราชโอรสองค์โต อาการปวดหัวของเขาค่อนข้างแปลกประหลาดจริงๆ แต่อาตมาดูสาเหตุภายในนั้นไม่ออก หากวันหลังพระชายาฉีมีเวลาว่าง ไปดูพระโอรสองค์โตหน่อยได้หรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนทราบดีว่า ฮ่องเต้ไม่อยากเปิดปากเอง ดังนั้นจึงสั่งการให้นักพรตเต๋าเทียนอีมาหา

นางไม่อยากเป็นคนดีจริงๆ อ๋องเซวียนจะเป็นอย่างไร เกี่ยวอะไรกับตนเองด้วย รักษาเขาหายดีแล้ว ค่อยแอบแทงตนเองหรือ

“หมอหลวงล้วนไร้หนทางรักษา อาตมากลัวว่าใจอยากทำแต่กำลังไม่พอ”

“เกรงว่าพระราชโอรสองค์โตไม่ได้เจ็บป่วยจริง และไม่ได้อ่อนเพลีย หากเขาโดนกู่พิษล่ะ”

“นักพรตเต๋าเทียนอีกำลังสงสัยน่าจาอี๋นั่วใช่หรือไม่”

“อ๋องเซวียนบอกมาตลอดว่า วันนั้นตนเองไม่ได้ออกจากห้องตำรา และไม่เคยทำร้ายรัชทายาทน้อย หากเขาเจตนาทำเช่นนี้จริง อุบายคงจะเหนือชั้นกว่านี้เล็กน้อย”

“สิ่งที่ท่านพูด ใช่ว่าข้าจะไม่เคยตรึกตรองมาก่อน แต่วันนั้นข้ามองอย่างรอบคอบ สติปัญญาของเขาปกติ ตอบคำถามอย่างราบรื่น ไม่เหมือนโดนกู่พิษเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อเสด็จพ่อสงสัยน่าจาอี๋นั่ว เหตุใดถึงไม่จับนางมาไต่สวนอย่างเข้มงวด แต่ปล่อยให้นางอยู่ในจวนอ๋องเซวียนอย่างอิสระ”

นักพรตเต๋าเทียนอีปิดบังความลับอย่างมิดชิด “พระชายาเองก็แปลกใจมากใช่หรือไม่ ว่าเหตุใดฝ่าบาทถึงเห็นด้วยกับการที่องค์หญิงน่าจาอี๋นั่วแต่งงานกับอ๋องเซวียน”

ไม่ใช่แค่แปลกใจเท่านั้น ถึงแม้ตัดใจทิ้งลูกไม่ลง ก็จับหมาป่าไม่ได้ ฮ่องเต้รู้ว่าภูเขามีเสือ แต่เดินทางไปยังภูเขาเสือ เขาตัดใจได้จริงๆ

ชิงฮวนพยักหน้า “ถูกต้อง พวกเรารู้ว่าอี๋นั่วจะทำผิดศีลธรรม อยากหลีกหนีคงจะสายเกินไป ไม่จำคุกนาง ถือว่าเกรงใจมากแล้ว”

“ในเมื่ออ๋องเซวียนถูกนางทำให้หลงใหล ตั้งใจขอแต่งภรรยา แต่ฝ่าบาทควรกังวลถึงจะถูก ตอนนี้ยิ่งทำให้คนเข้าใจยาก ในเมื่อสงสัยว่าเรื่องพวกนี้เกี่ยวข้องกับน่าจาอี๋นั่ว ส่งคนไปตรวจสอบให้ชัดเจนก็พอแล้วมิใช่หรือ ตัวประกันของแคว้นที่พ่ายแพ้สงคราม ต้องเกรงใจขนาดนี้เลยหรือ”

พักพรตเต๋าเทียนอีเอามือปั่นเคราและยิ้ม “พระชายาฉีจำได้ไหมว่าตอนที่ท่านกำลังรักษาโรคหัวใจให้องค์รัชทายาทหนานจ้าว อาตมาจุดตะเกียงเจ็ดดาราต่อชีวิต”

ชิงฮวนพยักหน้า “เสด็จพ่อกังวลทั่วทุกด้าน เลยให้ท่านช่วยข้าคุ้มครอง จะได้ไม่เกิดเหตุสุดวิสัย โชคดีที่ภารกิจสำเร็จอย่างราบรื่น”

นึกถึงตอนที่เทียนอีเป่าตะเกียง ปั้นเรื่องอย่างจริงจัง หยอกล้อคนหนานจ้าวจนตึงเครียด ยังคิดว่าน่าขำขัน

เทียนอียิ้มมีเลศนัย “ตะเกียงเจ็ดดารานั้นมีความพิถีพิถัน แต่ไม่ได้จุดเพื่อต่อชีวิตรัชทายาทหนานจ้าว แต่เป็นการใช้ตะเกียงเจ็ดอันนี้ทำนายชะตาของเขา”

ชิงฮวนแปลกใจเล็กน้อย “จากนั้นล่ะ”

เทียนอียิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง “บางคนทำเรื่องชั่วร้ายอำมหิตเกินไป กรรมย่อมตามสนอง ถึงแม้ท่านจะใช้ฝีมือทางการแพทย์ยืดชีวิตของเขาออกไป ก็เปล่าประโยชน์”

“ท่านหมายความว่าอย่างไร” ชิงฮวนถามอย่างสงสัย “หรือว่าน่าเยี่ยไป๋เขา…”

เทียนอีไม่พูดมาก แต่ยิ้มเล็กน้อย “น่าจาอี๋นั่วเดินหมากคราวนี้เป็นหมากที่เป็นภัยกับฝ่าบาท ทำแบบนี้แน่นอนว่ามีความมุ่งหมายกับฝ่าบาท วันนี้อาตมาบอกตามความจริง ต่อไปพระชายาฉีกระทำการอันใด ควรจะมีขีดจำกัด”

เรื่องนี้ ทำให้ชิงฮวนย่อยอาหารเป็นเวลานาน จนกระทั่งอาหารไม่ย่อย

ความหมายของนักพรตเทียนอี เหมือนกับว่าเขามองออกแล้วว่าน่าจาอี๋นั่วไม่ได้เป็นคนอายุยืน ชีวิตไม่ยืนยาวอย่างนั้นหรือ

จากนั้นหมากที่ถูกหนานจ้าวทิ้งไว้อย่างน่าจาอี๋นั่ว บางทีอาจจะมีประโยชน์ในอนาคต ดังนั้นฮ่องเต้เลยเตือนตนเองว่าสามารถเล่นงานน่าจาอี๋นั่วได้ แต่อย่าเล่นงานนางจนตายอย่างนั้นหรือ”

แต่มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่นางแต่งงานกับอ๋องเซวียนล่ะ

เห็นนักพรตเต๋าเทียนอียิ้มอย่างมีความหมายลึกซึ้ง ก็มีแสงสว่างแวบเข้ามาในสมองของชิงฮวน นางเข้าใจความคิดของฮ่องเต้ทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา