ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 219

เหลิ่งชิงหลางอาศัยอยู่ในตำหนักเจียนเจียด้วยความรู้สึกไม่สบายใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้ยินว่าพระสนมฮุ่ยเฟยออกจากวังไปยังจวนอ๋องฉี

มู่หรงฉีตักเตือนนางอยู่หลายครั้งว่าอย่าสร้างปัญหาให้กับเหลิ่งชิงฮวนอีก หากพระสนมฮุ่ยเฟย และจิ่นอวี๋สร้างปัญหาอีกครั้ง มู่หรงฉีอาจเกลียดนางเข้ากระดูกทำให้ยากที่จะแก้ตัว

เดิมทีนางตกลงกับจิ่นอวี๋ว่าทั้งสองจะร่วมมือกันจัดการเหลิ่งชิงฮวน ทว่าจิ่นอวี๋กลับเล่นอุบายลับหลังโดยไม่คาดคิด

นางไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป สั่งให้แม่จ้าวถือสร้อยข้อมือทองคำไปหาคนรับใช้ในวังของพระสนมฮุ่ยเฟย เพื่อสืบหาสาเหตุที่พระสนมฮุ่ยเฟยออกจากวัง

หลังจากนั้นไม่นาน แม่จ้าวก็กลับมาและเล่าทุกอย่างให้ฟัง

คนรับใช้ในวังคนนี้ไม่ได้รับใช้พระสนมฮุ่ยเฟยเป็นการส่วนตัว ดังนั้นนางจึงไม่รู้อะไรมากนัก แต่สิ่งที่นางเห็นและได้ยินก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เหลิ่งชิงหลางโกรธ

ความตั้งใจของพระสนมฮุ่ยเฟยที่ไปจวนอ๋องฉีนั้นชัดเจนมาก การไปหาเหลิ่งชิงฮวนเพื่อกล่าวโทษเป็นแค่ฉากบังหน้า ทว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคือแต่งงานเอาจิ่นอวี๋เข้าจวนอ๋องฉี

และสาเหตุของการกล่าวโทษนั้นดูออกได้อย่างชัดเจน!ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องคิดว่านางเป็นคนไปฟ้อง

ยิ่งคิดเรื่องนี้นางก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เมื่อได้ยินว่าจิ่นอวี๋แยกตัวจากพระสนมฮุ่ยเฟยไปที่สวนอวี้ฮวา นางจึงตั้งใจไปหาอีกฝ่ายทันที

จิ่นอวี๋และยายหลิงกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ในสวนอวี้ฮวา ด้วยความศาลาอยู่บนที่สูงจึงทำให้มองเห็นสวนอวี้ฮวาครึ่งหนึ่ง

จิ่นอวี๋หรี่ตายิ้มอย่างเย็นชาพลางหันหน้าไปกระซิบกับยายหลิง “ปลามาแล้ว”

ยายหลิงตอบรับเสียงต่ำ “จวิ้นจู่โปรดระวังด้วยนะเจ้าคะ”

เหลิ่งชิงหลางเดินขึ้นบันไดหินและยืนนิ่งอยู่หน้าจิ่นอวี๋

จิ่นอวี๋เงยหน้าขึ้นจ้องมองนางราวกับว่าอารมณ์ไม่ดีและไม่ต้องการพูดอะไรทั้งนั้น ก่อนจะหันหน้าหนีอีกครั้ง

“เจ้าเป็นคนเผยแพร่ข่าวลือเกี่ยวกับเหลิ่งชิงฮวนใช่หรือไม่” เหลิ่งชิงหลางถามอย่างตรงประเด็น

จิ่นอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่มีหลักฐาน ข้าคิดว่าเจ้าไม่ควรพูดจาเหลวไหลเช่นนี้”

เหลิ่งชิงหลางยิ้มและพูดต่อว่า “วิธีนี้ช่างร้ายกาจจริงๆ เจ้าให้ผู้คนกระจายข่าวลือไปทุกที่ คนแรกที่ท่านอ๋องสงสัยย่อมเป็นข้า เจ้าได้ทำลายชื่อเสียงของเหลิ่งชิงฮวนและภาพลักษณ์ของข้าในใจของท่านอ๋องด้วย ส่วนเจ้าก็อยู่เฉยๆ คอยรับผลประโยชน์ใช่หรือไม่”

จิ่นอวี๋หัวเสียเต็มทน นางโกรธมากขึ้นเมื่อถูกต้อนเช่นนั้นจึงหมดความอดทน “ท่านอ๋องจะคิดอย่างไรกับท่านนั่นเป็นเรื่องปัญหาในอดีต ไม่อย่างนั้นทำไมท่านอ๋องจึงไม่สงสัยคนอื่น”

คำถามเชิงโวหารนี้ทำให้เหลิ่งชิงหลางโกรธมากยิ่งขึ้น

“ข้าไม่เคยเห็นคนน่ารังเกียจและไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน!ไม่แปลกใจเลยที่ท่านอ๋องไม่ยอมพบหน้าเจ้า ตอนแรกเขาก็แต่งงานกับเหลิ่งชิงฮวนมากกว่าจะแต่งงานกับเจ้า ตอนนี้ต่อให้เจ้าใช้เล่ห์เพทุบายจนหมดแล้วจะมีประโยชน์อะไร พยายามปีนป่ายขึ้นไปอย่างหน้าด้านๆ จนลดคุณค่าในตัวเองไปหมดสิ้น”

จิ่นอวี๋ไม่เคยถูกผู้อื่นเยาะเย้ยถากถางแบบนี้มาก่อน นางลุกขึ้นก่อนจะแสยะยิ้ม

“แล้วเจ้ามีดีตรงไหนกัน ท่านพี่ของข้ามัวแต่ใช้เวลากับเหลิ่งชิงฮวน ส่วนเจ้ามีชีวิตอยู่ในจวนต่างจากวังเย็นอย่างไร เจ้าทำได้เพียงเล่นกลอุบายน่ารังเกียจลับหลัง ข้าน่ะยังสงสัยว่าผู้ที่ลอบสังหารเหลิ่งชิงฮวนในครั้งนี้อาจเป็นเจ้าก็ได้!”

จิ่นอวี๋โพล่งออกมาในช่วงเวลาที่หมดความอดทนอย่างถึงขีดสุด

เหลิ่งชิงหลางจิตใจไม่บริสุทธิ์ เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด นางก็รู้สึกกลัวพลางยื่นมือออกไปผลัก “เจ้าพูดจากเหลวไหล!”

เดิมทีเป็นเพียงการผลักเบาๆ โดยไม่ออกแรงมากนัก แต่ใครจะรู้...จิ่นอวี๋ยืนไม่มั่นคงทำให้เซถอยหลังไปสองก้าว ล้มลงนั่งบนเก้าอี้หินยาว นางส่งเสียงกรีดร้อง มือสองข้างไม่สามารถจับได้อย่างมั่นคง ละล้มหัวฟาดพื้นบนศาลาอย่างแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา