ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 22

เหลิ่งชิงหลางพยักหน้า “แม้ว่าจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเรื่องราวเป็นเช่นไร แต่เป็นครั้งนั้นไม่มีผิด”

“เด็กโง่ เช่นนั้นเจ้าจะยังปกปิดความลับของนางไปเพื่อกระไร แค่เอ่ยปากเพียงนิดเดียวทั่วเมืองหลวงต่างก็รู้กันหมด ดูสิว่านางจะยังมีหน้าอยู่อีกหรือ”

“อย่าทำถ้าไม่จำเป็นเลยนะเพคะ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงเรียงนามของท่านอ๋อง หากท่านอ๋องโกรธจนสืบสาวไปถึงลูก เช่นนั้นจะทำเยี่ยงไร?”

จินซื่อยกยิ้มเย็น “ง่ายดายมาก มีเงินจะทำอันใดก็ย่อมได้ รอแม่หาเงินได้อีกสักหน่อยให้อันธพาลสองคนนั้นออกมาเปิดโปงนาง เรื่องเช่นนี้นางไม่มีทางปฏิเสธได้ เราจะทำลายชื่อเสียงนางได้แน่นอน”

“ท่านแม่เลอะเลือนแล้ว จะอย่างไรตอนนี้เหลิ่งชิงฮวนก็เป็นถึงพระชายา ต่อให้ท่านให้เงินอีกมากเท่าไร ใครเล่าจะไม่รักตัวกลัวตาย? อีกอย่างเหลิ่งชิงฮวนปากคอเราะราย หากนางอยากจะอวดฉลาดยกเรื่องเก่ามาพูด ลูกจะไม่ตกที่นั่งลำบากไปด้วยหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นหากเรื่องถูกแพร่งพรายออกไปชื่อเสียงของลูกก็จะถูกทำลายย่อยยับ วันหน้าก็อาจจะถูกผู้คนในวังนินทาลับหลังเป็นได้”

“แต่ท่านอ๋องเองก็รู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เขารักความสะอาดมากๆ สตรีที่สูญเสียพรหมจรรย์อย่างเหลิ่งชิงฮวนไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็คงจะหย่ากัน เพียงแต่ว่าหญิงชราที่จวนอันกั๋วกงยังไม่ตาย ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ยอมลดละ เอาแต่รักและเอ็นดูเหลิ่งชิงฮวน”

จินซื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อย่างไรเสียเหลิ่งชิงฮวนก็ช่วยชีวิตเหล่าไท่จวินไว้ อีกทั้งยังทำให้นางพอใจทุกวันอย่างขยันขันแข็ง ก็สมควรที่เหล่าไท่จวินจะเชื่อคำโอดครวญและเข้าข้างนาง”

“แม่ว่าเจ้าจะอยู่เฉยไม่ได้ ใช้ข้ออ้างไปเยี่ยมเหล่าไท่จวินบ่อยๆ จวนอ๋องมีกิจการมากมายเช่นนั้นเจ้าอย่าลังเลที่จะต้องใช้เงิน อะไรแพงเจ้าก็นำสิ่งนั้นไปมอบให้นาง เมื่อเหล่าไท่จวินเห็นว่าเจ้ากตัญญู อีกทั้งยังรับของเจ้ามาแล้ว ก็อาจจะออกปากให้อ๋องฉีหย่ากับนางก็ได้”

เหลิ่งชิงหลางตาเป็นประกาย “ท่านแม่เก่งที่สุด พรุ่งนี้ลูกจะเตรียมของขวัญไปเยี่ยมหญิงชรา”

ทั้งสองลดเสียงกระซิบลงเมื่อด้านนอกมีเสียงรายงานว่ามู่หรงฉีจะกลับจวนแล้ว จินซื่อรีบห่อรองเท้าหยกให้เรียบร้อยก่อนจะส่งให้เหลิ่งชิงหลางนำกลับไป

เหลิ่งชิงหลางรู้สึกราวกับว่ามีกระต่ายตัวน้อยอยู่ในอ้อมแขน นางรู้สึกตื่นกลัวเมื่อเห็นมู่หรงฉีที่น่าเกรงขามนางก็ยิ่งรู้สึกฟุ้งซ่านอยากจะให้พลบค่ำมาถึงโดยเร็ว

หลังจากกลับจวนและตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาหนึ่งวัน มู่หรงฉีก็ไม่ได้เข้าไปเหยียบเรือนจื่อเถิงเลย

เหลิ่งชิงหลางที่รอไม่ไหวก็ไปอาบน้ำในอ่าง ทั่วร่างประโคมไปด้วยเครื่องหอม โดยเฉพาะเท้าดอกบัวที่แช่น้ำดอกเทียนบ้าน ก่อนจะพยายามยัดเท้าของนางเข้าไปในรองเท้าหยกโดยไม่สวมถุงเท้า

รองเท้าค่อนข้างแน่นจนหลังเท้านางนูนขึ้นมา แต่นั่นยิ่งทำให้เท้าเล็กๆ ของเธอดูงดงามยิ่งขึ้น เนื่องจากรองเท้าไม่สามารถระบายอากาศได้ เมื่อผ่านไประยะเวลาหนึ่งพอเหงื่อออกก็จะอุ่นและมีกลิ่นหอม

นางทดลองหย่อนเท้าลงกับพื้น พื้นรองเท้าที่ฝังทองคำเมื่อกระทบกับพื้นก็เกิดเสียงแต่ไม่ทำความเสียหายกับตัวหยก เมื่อลองเดินปีของผีเสื้อก็ขยับ ระฆังทองก็ส่งเสียงทำให้ผู้คนต่างต้องหันไปมอง

จือชิวเอ่ยชื่นชมครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยิ่งทำให้หัวใจของเหลิ่งชิงหลางพลุ่งพล่าน นางจะทนรอถึงพลบค่ำได้อย่างไร? เมื่อเห็นพระอาทิตย์ตกพลบค่ำจือชิวจึงประคองนางเดินไปที่ห้องหนังสือ

เนื่องจากรองเท้าไม่พอดีทำให้นางเดินอย่างงุ่มง่าม จนต้องพยายามจับจือชิวแล้วเดินด้วยท่าทางสง่างามราวต้นหลิวลู่ลม

เมื่อเดินพ้นประตูจันทราที่เรือนด้านหลังมาก็พบกับสวนที่มีกลิ่นอายเจียงหนาน มีศาลาและทางเดินคดเคี้ยว ก้อนหินและสายน้ำจำลอง ดอกไม้และต้นไม้แปลกตา รวมถึงนกกระเรียนและนกยวนยางที่ประดับอยู่

มู่หรงฉีอยู่ในห้องหนังสือตลอดช่วงหลายวันนี้ ตอนกลางคืนเขามักจะนอนไม่ค่อยหลับ ไม่ใช่เพราะสิ่งอื่นใด แต่เพราะเขาโกรธเหลิ่งชิงฮวนจนได้แต่นอนจิตใจว้าวุ่นอยู่ในกระโจม

แต่มีบางสิ่งที่ประหลาดยิ่งกว่าคือฝูงกบที่ส่งเสียงร้องอื้ออึงอยู่ในศาลาริมน้ำ หลังฝนตกกบตัวผู้ก็ส่งเสียงร้องไม่หยุดหย่อน

มู่หรงฉีเปิดหน้าต่างเสียงก็ดังเข้ามาทำให้เขาโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนรับใช้ในจวนไปทำความสะอาดพืชน้ำและตะกอนในบ่อ และฆ่ากบพวกนั้นให้หมด

ขณะที่กำลังจัดการกับฝูงกบ คนรับใช้กลุ่มหนึ่งไม่มีประสบการณ์มากนักใช้แหมาจับอย่างเงอะงะ ก่อนจะโยนเข้าไปในถังข้างๆ เพื่อนำกลับไปฆ่า

เหลิ่งชิงหลางเดินมาจากไกลๆ ด้วยความสง่างาม หยกห้อยกระทบกัน ระฆังน้อยบนรองเท้าส่งเสียง คนรับใช้ในจวนต่างพากันลอบมองจนไม่เป็นอันทำการทำงาน

จือชิวกระซิบข้างหูของเหลิ่งชิงหลางอย่างขำๆ “พระนาง ดูบ่าวพวกนี้สิเจ้าคะ เอาแต่จ้องมองท่านอยู่ได้”

เหลิ่งชิงหลางได้ยินแล้วก็รู้สึกพอใจ ก่อนจะบิดเอวอ่อนมากกว่าเดิม

มีกบหนึ่งตัวหลุดออกมาจากแหก่อนจะกระโดดหนีอย่างตื่นตระหนกและบังเอิญไปโดนเท้าของเหลิ่งชิงหลาง เหลิ่งชิงหลางที่มองแต่ดอกไม้ตรงหน้ารู้สึกถึงความเย็นที่หลังเท้าแต่ไม่รู้ว่าคืออะไร นางก้มศีรษะลงไปมอง จู่ๆ ก็ตกใจกรีดร้องสติแตกจนแทบจะกระโดดหนี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา