ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 24

“หม่อมฉันไม่ต้องการ!” เหลิ่งชิงหลางร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ เห็นได้ชัดว่ามู่หรงฉีไม่สนใจว่าเหลิ่งชิงฮวนจะเหน็บแนมเธอเช่นนี้ แล้วจะให้เธอกล้ายื่นเท้าไปตรงหน้าเขาได้อย่างไร “ท่านอ๋องควรหลีกเลี่ยงไปสักระยะหนึ่งจะดีกว่านะ เรื่องแบบนี้ให้จือชิวกับแม่จ้าวจัดการเถอะเพคะ”

พูดแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบแล้วไม่ใช่หรือ? ยังจะดื้อดึงให้ถึงที่สุดทำไม

เหลิ่งชิงฮวนเก็บเครื่องมืออย่างคล่องแคล่วก่อนจะยกกล่องอาหารขึ้น “ท่านอ๋อง บุญคุณของหม่อมฉันก็คงจะถือว่าชำระแล้วใช่หรือไม่? เช่นนั้นหม่อมฉันก็ขอตัว”

“ไม่!” มู่หรงฉีเอ่ยเสียงเย็น “เจ้ายังติดค้างข้า”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เอาจริงเอาจัง เธอเอ่ยอย่างสบายๆ ว่า “เช่นนั้นก็ดี อีกประเดี๋ยวแม่นมเตียวย่างกบเสร็จหม่อมฉันจะสั่งให้โตวโตวทำมาให้ท่านอ๋องกับน้องสาวลองชิม แค่นี้ก็คงพอใช่ไหม”

กลิ่นเปรี้ยวตีรื้นขึ้นมาในคอของเหลิ่งชิงหลาง เธออยากจะลงจากเตียงไปฉีกปากของเหลิ่งชิงฮวนเสียจริง

มู่หรงฉีกระแอมเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องของเหลิ่งชิงหลางไปโดยไม่พูดอะไร

เหลิ่งชิงฮวนหันกลับไปกำชับกับเหลิ่งชิงหลางอย่างมีน้ำใจ “ก่อนจะไปก็ขอเตือนน้องสาวหน่อยนะ ตอนนี้ร่างกายเจ้าบาดเจ็บ อะไรที่คุมได้ก็ให้คุมไว้ อย่าทำอะไรที่มันดุเดือดรุนแรงล่ะ”

“เจ้า!” เหลิ่งชิงหลางไม่กล้าด่านาง จึงทำได้แค่ปาหมอนออกไป

เหลิ่งชิงฮวนยกยิ้มอย่างยั่วยุ ก่อนจะเดินตัวลอยออกจากเรือนจื่อเถิงไป

ส่วนมู่หรงฉีนั้นยังไม่ไปไหน เขายืนอยู่ใต้กระถางดอกจื่อเถิง เงยหน้ามองมันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

เหลิ่งชิงฮวนลดฝีเท้าลง เธอคิดว่าจะจากไปเงียบๆ อย่างไรเสียการเผชิญหน้ากับบุรุษผู้นี้คงไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีเท่าไร

แม้มู่หรงฉีจะไม่ได้หันหน้ากลับมามองแต่เหมือนจะรู้ทุกการเคลื่อนไหว เขารอให้นางเดินมาตรงถึงด้านหน้าจึงเอ่ยเสียงเย็น “สตรีเช่นเจ้าเหมือนกับก้อนหินที่อยู่ในส้วม ทั้งแข็งทั้งเหม็น จะมีชายใดมาชอบเจ้าได้?”

ก็รู้อยู่แล้วว่าปากของบุรุษผู้นี้นั้นเหม็นเน่ามาก

เหลิ่งชิงฮวนไม่โกรธแต่เพียงถอนหายใจ “สตรีอย่างเหลิ่งชิงหลางน่ะ ก็เหมือนกับก้อนหินในหลุมปัสสาวะ เอาแต่ยั่วยวน อีกทั้งบุรุษยังยกย่องนางเป็นสมบัติล้ำค่า โลกใบนี้ก็ยังมีคนที่ตาบอดเช่นนั้นเสมอ”

มู่หรงฉีรู้ดีว่านางกำลังตีวัวกระทบคราดจึงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “นางก็ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่าคนชั่วร้ายที่รังแกน้องสาวตนเองเช่นเจ้า”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะ “แสดงว่าท่านตาบอดไงเพคะ”

มู่หรงฉีหันกลับมามองด้วยความโมโห แต่เหลิ่งชิงฮวนกลับใช้มือหนึ่งจับชายกระโปรง มือหนึ่งถือกล่องอาหาร กระโดดโลดเต้นราวกับกระต่ายออกไปแล้ว

มู่หรงฉีกัดฟันกรอด “บุรุษที่ไหนจะชอบสตรีเช่นนี้!”

ตกดึกเหลิ่งชิงฮวนไม่ทำตามคำพูด เธอไม่ได้สั่งให้คนนำกบดองพริกไปมอบให้มู่หรงฉี

เพราะว่าขากบนั้นอร่อยมาก นอกเหนือจากแม่หวังที่ทำใจกินไม่ลงแล้ว แม่นมเตียว โตวโตวและเธอต่างก็กินกันจนหมดไปครึ่งหม้อ เหลือไว้ให้หลิงกวนเอ๋อร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลิงกวนเอ๋อร์ไม่สะดวกที่จะเข้าออกเรือนหลังจึงได้แต่อยู่กินอาหารกับคนในจวน มีคำกล่าวที่ว่ามีเงินจะปลุกผีขึ้นมาโม่แป้งให้ก็ย่อมได้ แค่ใช้เงินนิดๆ หน่อยก็ทำให้พวกเขาฉลาดขึ้นมาได้ พวกข้าหลวงชั้นน้อยๆ ก็ล้วนมีท่าทีอ่อนโยนและคอยดูแลเขา

ก่อนมู่หรงฉีจะนอน เขายังแกล้งทำเป็นไม่สบายใจและถามทหารอารักขาที่อยู่หน้าประตูห้องหนังสือ “เจ้าเคยกินกบหรือไม่ รสชาติเป็นอย่างไร”

ทหารอารักขาสองคนได้ยินพลันดวงตาก็เป็นประกาย “ที่ทุ่งนาในบ้านเกิดของพวกกระหม่อมมีสิ่งนี้เยอะมาก พอฤดูร้อนก็จับมันมาถลกหนังยัดไส้ด้วยกระเทียม ขาหลังของมันนุ่มเหมือน…”

คิดอยู่นานก็คิดไม่คิดสิ่งเปรียบเทียบที่เหมาะสมไม่ออก รู้สึกว่าสิ่งที่คิดนั้นออกจะหยาบคายไปหน่อย

“หากท่านอ๋องอยากลองชิม พรุ่งนี้ข้าน้อยจะไปจับมาให้ ที่จับมาวันนี้ได้ยินว่าฮูหยินเอาไปหมดแล้ว กลิ่นหอมที่ตลบอบอวลไปทั่วทั้งเรือนหลังช่างดึงดูดเสียจริง”

มู่หรงฉีไม่สามารถพูดได้ว่าเขาอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นเขาจึงล้มตัวนอนด้วยใบหน้ามึนตึง ทั้งยังพึมพำก่อนจะหลับ “ไม่กลัวจุกตายหรือไง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา