ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 322

เหลิ่งชิงฮวนลูบท้องของเธอ มุมปากปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยัน

“เหลิ่งชิงหลาง เจ้าใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้อยู่ในจวนท่านอ๋องต่อโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วท่านอ๋องจะต้องยอมรับความน่าขยะแขยงนี้หรือ? โดนหมูทำอนาจารยังดีกว่าต้องหลับนอนกับเจ้า ข้าล่ะเห็นใจเขาจริงๆ ที่ต้องยอมทนกับอะไรแบบนี้”

“แต่ว่าอนาคตยังอีกยาวไกล เจ้าคิดว่าแค่มีลูกให้มู่หรงฉีก็สามารถจับเขาได้อยู่หมัดงั้นหรือ? คิดว่าจะไล่ข้าออกจากจวนได้หรือ? ลูกไม้ของเจ้าข้ารู้หมด ดังนั้นมารอดูกันว่าท้ายที่สุดแล้วใครที่จะชนะ”

เหลิ่งชิงฮวนที่ถูกความเย่อหยิ่งของเหลิ่งชิงหลางกระตุ้นเข้าก็กลับสู่สภาพเดิม ปากของเธอราวกับปืนกลที่รัวกระสุนใส่เหลิ่งชิงหลาง

เธอหันกลับมาและเอ่ยกับเหลิ่งชิงเหยาที่อยู่ข้างๆ “งงอะไร ไปกันเถอะ!”

เหลิ่งชิงเหยาทำหน้าตลกใส่เหลิ่งชิงหลางก่อนจะเดินตามออกไป

“เพราะอำนาจของท่านพี่ แค่พูดไม่กี่คำก็ทำให้นางมีสภาพเหมือนกินมูลสัตว์เข้าไปได้”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจเบาๆ ตอนนี้หัวใจของเธอรู้สึกแย่ยิ่งกว่ากินมูลสัตว์อีก แต่ใครเล่าจะรู้?

“อย่าไปยั่วโมโหนางอีก ตอนนี้นางบ้าไปแล้ว”

ผู้หญิงที่สามารถฆ่าได้ทุกวิถีทางคนนี้เสียสติไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะรักษาระยะห่างกับนาง

“ข้าเห็นนางเอาแต่ด่าทอคนอื่นไปทั่วจะบ้าได้อย่างไร? อีกอย่างเมื่อกี้ข้าเห็นสาวใช้ของนางก็รู้สึกว่าคุ้นหน้าอย่างบอกไม่ถูกจึงอยากตามไปดูให้แน่ชัดแต่นางกลับหลบไปได้อย่างรวดเร็ว”

“ท่านพี่ไม่รู้หรอกว่าสายตาของเหลิ่งชิงหลางในตอนนั้นอวดเบ่งแค่ไหนนับว่านางมีคุณธรรมสูงแค่มองก็โกรธ ข้าสงสัยว่าท่านพี่ก็จัดการกับนางได้ตลอดไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมครั้งนี้ถึงได้ให้พื้นที่พวกนางทั้งสองง่ายๆ เช่นนี้เล่า”

เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “ข้าไม่ไปแล้ว ข้าจะอยู่”

“ไม่ไปจริงๆ เหรอ” เหลิ่งชิงเหยาถามอย่างดีใจ

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า “ข้าคิดดีแล้ว”

พระพุทธเจ้ารับธูปที่คนแย่งกันจุดขอพร แล้วทำไมเธอต้องทำตามสิ่งที่พวกนางหวังด้วยล่ะ?

เหลิ่งชิงเหยาปรบมืออย่างมีความสุข นางยิ้มกริ่ม “งั้นข้าจะกลับบ้านไปขอรางวัลกับท่านพ่อ”

เหลิ่งชิงฮวนกะพริบตา “มีคนบอกให้เจ้ามายั่วยุเหลิ่งชิงหลางเพื่อกระตุ้นข้า?”

เหลิ่งชิงเหยาชะงักไปชั่วขณะและฝืนยิ้มเล็กน้อย “จงใจยั่วยุนางน่ะเป็นเรื่องจริง แต่ข้าจะกระตุ้นท่านไปทำไมกัน?”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้พูดอะไรแต่เพียงแค่ยิ้มอีกครั้ง “บอกมาสิว่าเป็นมู่หรงฉีหรือพี่ใหญ่?”

เหลิ่งชิงเหยาแลบลิ้นออกมาอย่างเขินอาย “ท่านเดาถูกหมดแล้ว ความคิดนี้เป็นของพี่ใหญ่ หากท่านจะคิดบัญชีก็ไปหาเขาเถอะ อีกอย่างพวกเราก็ต่างทำเพื่อท่าน ข้าทนเห็นเหลิ่งชิงหลางได้ใจแบบนี้ไม่ได้หรอก”

มิน่าเธอถึงได้บังเอิญเจอเหลิ่งชิงเหยาที่จะไม่ค่อยออกไปไหนบนถนนที่พลุกพล่าน

พี่ใหญ่ทำไปเพราะหวังดีเหลิ่งชิงฮวนจึงไม่ถือโทษอะไร แต่ไม่รู้ว่ามู่หรงฉีมีเสน่ห์อะไร ทั้งๆ ที่เป็นความผิดของเขาแต่คนพวกนี้กลับไม่ตำหนิซ้ำยังโยนความผิดมาให้เธอ

หลังจากส่งเหลิ่งชิงเหยาออกไปแล้ว เธอก็สั่งให้คนไปที่กระท่อมบนภูเขาเพื่อพาเหลิ่งชิงฮว่ากลับมา ชิงฮว่าจากจวนรองมหาเสนาบดีไปนานแล้วก็คงจะคิดถึงบ้านมาก

ในช่วงบ่ายเมื่อมู่หรงฉีกลับมาแล้วได้ยินว่าเหลิ่งชิงฮวนไม่กลับไปที่กระท่อมบนภูเขาแล้วก็ดีใจ เขาโยนแส้ในมือทิ้งก่อนจะรีบวิ่งไปที่ตำหนักฉาวเทียนทันที

เขาได้ยินเสียงหัวเราะดังออกมาจากตำหนักฉาวเทียนตั้งแต่ๆ ไกล

เมื่อเขาก้าวขาเข้าไปก็เห็นพวกนางนั่งล้อมวงพูดคุยกัน

แม่นมเตียวและแม่หวังร่วมกันยกเครื่องชั่งขนาดใหญ่โดยมีตะกร้าตื้นๆ ห้อยลงมาจากตะขอของตาชั่ง เหลิงชิงฮวนนั่งอยู่ในนั้น ขาของเธอห้อยออกมาข้างนอก มือจับเชือกที่ห้อยลงมาจากตะกร้าแน่น ตะกร้าค่อยๆ ลอยออกจากพื้น

“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนู เครื่องชั่งนี้เปิดไม่ได้ คุณหนูหนักเกินไป”

โตวโตวลากตุ้มน้ำหนักและเช็ดบนตาชั่งที่ปลายแท่ง “อีกทั้งยังดูห่างอีกมาโข บ่าวว่าอย่างน้อยต้องร้อยยี่สิบชั่งนะเจ้าคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา