ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 345

เหลิ่งชิงฮวนจึงพูดขึ้นว่า “งั้นพวกเราก็ขอพูดตามนี้นะเพคะ ตั้งแต่ที่หม่อมฉันแต่งให้กับบุตรชายของท่าน นอกจากในคืนวันแต่งงานที่หม่อมฉันหน้ามืดตามัวไปชั่วครู่จนทำให้ท่านเสียหน้าแล้ว ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้หม่อมฉันเคยทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อพระองค์ไหมเพคะ”

ฮุ่ยเฟยจิ๊ปาก ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าลูกสะใภ้คนนี้สะใภ้คนนี้น่าทึ่งมาก ใครๆต่างก็พากันชื่นชมนางและทำให้ลูกชายของนางได้หน้าได้ตา

“แต่เจ้าใจแคบ”

เหลิ่งชิงฮวนกระพริบตาปริบๆและรู้สึกว่าต้องสอนวิชาสุขอนามัยให้กับแม่สามีของเธอแล้ว

“ก่อนอื่นเลยหม่อมฉันต้องพูดว่าลูกชายท่านไม่ได้ชายตามองจิ่นอวี๋เลย ต่อให้เขาไม่แต่งกับหม่อมฉัน เขาเองก็ไม่มีทางแต่งกับจิ่นอวี๋เช่นกัน

อย่างที่สอง หม่อมฉันต้องขอบอกพระองค์อย่างจริงจังว่าการเป็นญาติใกล้ชิดกันไม่สามารถแต่งงานกันได้เพคะ เรื่องการห้ามแต่งงานกันในเครือญาติพระองค์เองก็เคยได้ยินมาบ้างใช่ไหมเพคะ หม่อมฉันไม่ได้สร้างเรื่องนี้ขึ้นมาหลอกพระองค์ ในตำราแพทย์เองก็มีบันทึกเรื่องการห้ามแต่งงานกันของคนแซ่เดียวกันเอาไว้อยู่ มู่หรงฉีนั้นเป็นญาติทางสายเลือดกับจิ่นอวี๋ หากทั้งสองคนแต่งงานกันในอนาคตมีโอกาสเป็นไปได้มากว่าจะให้กำเนิดลูกที่พิการหรือไม่ก็ปัญญาอ่อนออกมาเพคะ”

“เจ้าพูดมั่ว!” ฮุ่ยเฟยโกรธจัด “เป็นการเสริมสายเลือดให้เข้มข้นขึ้นมากกว่า เจ้าคงไม่ได้พูดเรื่อยเจื้อยแบบนี้ข้างหูฉีเอ๋อร์ทุกวันหรอกนะ”

ดื้อดึงชะมัด พูดไปก็เปล่าประโยชน์

เหลิ่งชิงฮวนถามอย่างสงสัยว่า “ทำไมพระองค์ถึงอยากให้จิ่นอวี๋เป็นลูกสะใภ้ของพระองค์นักเพคะ นางสามารถช่วยลูกชายของท่านจัดทัพได้หรือว่าทำประโยชน์อะไรให้ได้หรือเพคะ ต่อให้หม่อมฉันจะแย่แค่ไหนแต่ในช่วงเวลาสำคัญหม่อมฉันจะไม่ช่วยเหลือลูกชายของพระองค์หรือเพคะ”

คอของฮุ่ยเฟยแข็งงทื่อ “จิ่นอวี๋เป็นคนอ่อนโยนช่างเอาใจใส่ และดูแลคนอื่นเป็น!”

“จวนอ๋องฉีไม่ได้ขาดหญิงรับใช้คอยดูแลเพคะคนที่อ่อนโยนเอาใจใส่และดูแลคนอื่นไปมีถมถื่น อีกอย่างตอนนี้นางตาบอดอยู่ที่มู่หรงฉีไม่ดูแลนางนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว”

ฮุ่ยเฟยนึกหาเหตุผลอยู่นาน “จิ่นอวี๋ดีกับฉีเอ๋อร์ และจริงใจกับเขา”

“อ้อ” เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเสียงขึ้นจมูก “หม่อมฉันยกทั้งชีวิตให้กับลูกชายของพระองค์ได้ ยังจะมาเทียบเรื่องความจริงใจกับหม่อมฉันหรือเพคะ ถ้าหากว่านางดีกับมู่หรงฉีจริงๆ และเห็นวาพระองค์เป็นญาติผู้ใหญ่ นางควรแสดงตัวออกมาในเวลานี้และรับความผิดของยายหลิงเอาไว้ แต่ความจริงแล้วคนที่ทนลำบากมากับพระองค์คือหม่อมฉัน ส่วนนางก็ผลักความผิดทั้งหมดออกไปจนหมดและรอเสวยสุขในจวนอ๋อง นางเคยร้อนใจอะไรบ้างไหมเพคะ”

ฮุ่ยเฟยทนไม่ไหวกับการที่เหลิ่งชิงฮวนพูดถึงจิ่นอวี๋ในทางไม่ดี “ยายหลิงเป็นผู้บริสุทธิ์ เจ้าเอาหนอนกู่ไปใส่นาง นางถึงได้ไปลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้แบบนั้น เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับจิ่นอวี๋กัน เจ้าสิที่เป็นคนทำร้ายคนอื่น!”

บัณฑิตเมื่อได้พบกับทหารแล้ว ต่อให้คุยด้วยเหตุผลแค่ไหนทหารก็ไม่เข้าใจ

การเจรจาครั้งแรกไม่สำเร็จ เหลิ่งชิงฮวนยอมจำนวนและไม่อยากที่จะโต้เถียงต่อไปอีกไม่อย่างนั้นลูกในท้องของนางคงจะทนไม่ไหวแล้วลุกขึ้นมาถีบฮุ่ยเฟยแน่

ทั้งสองคนถกเถียงกันยอู่สองวันสองคืน ฮุ่ยเฟยไม่ปฏิเสธที่จะให้เหลิ่งชิงฮวนรักษาอาการป่วยให้กับพระนาง ไม่ปฏิเสธน้ำและของว่างจากเหลิ่งชิงฮวน แต่ปฏิเสธที่จะพูดคุยกับเธอ

สองวันผ่านไปเสบียงก็หมดลง ของที่เหลิ่งชิงฮวนซ่อนเอาไว้ก็ถูกกินไปจนหมดแล้ว ทั้งสองคนมองไปยังชามที่มีโคลนดำอยู่ในนั้นอีกทั้งยังมีก้อนขนมปังที่ทำจากรวงข้าวสาลีที่แห้งแข็ง พวกนางกลืนน้ำลายลงไปอย่างยากลำบาก ในท้องก็รู้สึกแสบขึ้นมา

“วันคืนเหล่านี้ให้ข้าทนอีกสักวันก็คงจะไม่ไหวแล้วจริงๆ” น้ำเสียงของฮุ่ยเฟยสั่นเครือเหมือนกับจะร้องไห้ออกมา “นี่มันของคนกินที่ไหนกัน”

เหลิ่งชิงฮวนเบ้ปาก “ไม่มีเนื้อสัตว์เลยสักนิด กินไม่ลงเลยจริงๆ ถ้าอย่างไรให้หม่อมฉันย่างหนูให้พระองค์เสวยดีไหมเพคะ”

ฮุ่ยเฟยถลึงตาใส่นาง “เจ้าไม่ใช่คนฉลาดหรือไง ไม่ใช่ว่าเจ้าเก่งนักหรือไง คิดได้แค่ว่าจะกินหนูเท่านั้นหรือไง ดีร้ายอย่างไรเจ้าก็ตวรที่จะเสกแมลงออกมาสักตัวแล้วส่งไปที่ห้องเครื่องให้ไปขโมย เป็ดข้าวเหนียว ไม่ก็ ไก่หอมหมื่นลี้ ออกมาแก้หิวสักหน่อย”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้สนใจเธอ ไม่อยากจะพูดอะไรให้เหนื่อยอีก

ผู้คุมเข้ามาแจกอาหารและเหลือบมองไปยังก้อนขมปังแป้งสาลีแข็งๆนั้นก็ส่ายหน้า “วันนี้เป็นวันนี้ก็เลยเอาอาหารที่ดีกว่าเดิมมาให้แต่ดูแล้วคงไม่ต้องแบ่งให้พวกเจ้าแล้ว จะได้ไม่เสียของ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา