ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 591

ฝีเท้าของมู่หรงฉีที่กำลังจะเดินไปชะงัก แต่มิได้หันกลับมา

“ความชอบ มิสามารถใช้เป็นเหตุผลให้นางฆ่าคนได้ นางมิสามารถกระทำเรื่องโหดร้ายอย่างทรงเกียรติเพราะความรักได้ ถ้านางต้องแต่งงานเข้าจวนอ๋องฉี ก็จะสามารถทำร้ายชิงฮวนและมาแทนที่นางได้อีกครา? ตอนที่นางถูกเพิกเฉย เป็นไปได้หรือไม่ที่นางจะสมคบคิดกับฟังผิ่นจือแล้วฆ่าคนไปมากมาย?

ข้ามีความผิด ผิดที่ตาบอด มิรู้ว่านางปลอมตัวมาในตอนแรก ทำให้นางได้แต่งงานเข้าจวนอ๋องฉีสมปราถนา ประจวบเหมาะกับสาเหตุนี้ที่ข้าให้อภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า คืนอิสระให้นาง นางจึงสามารถโบยบินไปกับฟังผิ่นจือได้อย่างสมบูรณ์

หากมิใช่เพราะความมิรู้จักพอและแผนมุ่งร้ายของนางที่มีต่อข้า และยังแอบอ้างอุ้มท้องลูกของฟังผิ่นจือกลับจวนอ๋องฉี เหตุใดนางจึงต้องทำลายอนาคตของตัวนางเองด้วย? ฉะนั้นก็พูดได้ว่า สิ่งที่ทำลายนาง ก็คือความละโมบโลภมากของนางเอง มิใช่เพราะเรา! ตั้งแต่ต้นจนจบ คนที่บริสุทธิ์ที่สุดก็คือเหลิ่งชิงฮวน พี่สาวคนโตของเจ้า หากผู้ใดกล้าแตะต้องนางแม้แต่ปลายนิ้ว ข้าจะทำให้มันตายโดยมิมีที่ฝังเป็นแน่!”

คำพูดของมู่หรงฉีมิได้มีความสุภาพเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับค้อนหนักๆ ที่เคาะหัวใจของเหลิ่งชิงเจียว เขาถูกตอกกลับจนเงียบกริบ พูดอะไรมิออก นอกจากนี้ ประโยคสุดท้ายของมู่หรงฉีช่างเยือกเย็นกดดัน แฝงไปด้วยจิตสังหารที่สั่นสะท้าน ทำให้เขากลายเป็นวันสันหลังหวะ และเกรงกลัวจนก้าวถอยหลังไปอย่างควบคุมมิได้

มู่หรงฉีเดินเชิดหน้าออกไปจากหอฝูเซิง

สารถีที่อยู่ตรงทางเข้ารายงานเสียงกระซิบ “คนที่ท่านส่งไปตามข่าวเมื่อครู่นี้กลับมาแล้วขอรับ บอกว่าเจอคนที่เรียกว่าคนวิเศษพูดซี้ซั้วอยู่ในจวนมหาเสนาบดี เขาพูดว่า ความจริงแล้วมีเด็กรับใช้คนหนึ่งไปหาเขาล่วงหน้า และให้เงินกับเขา เพื่อให้เขาไปคุยโวที่จวนมหาเสนาบดีขอรับ”

อย่างนี้นี่เอง

ก็พูดได้ว่าในตอนแรกคนผู้นี้แสร้งเป็นผีแสร้งเป็นเทพ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจพุ่งเป้าไปที่ชิงฮวน ดูๆ แล้วการคาดเดาของชิงฮวนจะเป็นจริง เรื่องราวเหล่านั้นคงจะเกี่ยวข้องและมิพ้นเหลิ่งชิงเจียว

“รองแม่ทัพอวี๋ล่ะ? ยังจัดการธุระมิเสร็จรึ?”

สารถีหดคอ “กำลังจะกลับมารายงานกับท่านอ๋องขอรับ เมื่อครู่นี้ ตั้งแต่พระชายาบังเอิญผ่านมาเห็นรถม้าของเรา ก็พารองแม่ทัพอวี๋ไปด้วยขอรับ”

มู่หรงฉีชะงักครู่หนึ่ง มิต้องถามเลยว่ารองแม่ทัพอวี๋ สุนัขทรยศนั่น มิต้องให้ชิงฮวนถาม ก็อธิบายได้ชัดเจนครบถ้วน

“พวกเขาไปทำกระไร?”

“พระชายากล่าวว่าท่านทำเรื่องซับซ้อนยุ่งยาก และก็เปลืองแรงไปมากขนาดนั้น หากมิขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปๆ มาๆ ก็คงขาดทุนเล็กน้อย”

มู่หรงฉีกลัดกลุ้มเล็กน้อย กลัดกลุ้มแทนผู้อื่น เขารู้ว่าต้องมีใครประสบเคราะห์ร้ายเป็นแน่

ตนจึงออกคำสั่งให้รองแม่ทัพอวี๋มุ่งหน้าไปที่จวนรองเสนาบดี ใช้โอกาสจากเรื่องนี้เพื่อตอกกลับจินเอ้อร์ ดูเหมือนว่าพระชายาของตนจะมิชอบที่ตัวเองโหดเหี้ยมมิพอ

เขาส่ายหน้าอย่างช่วยมิได้ และออกคำสั่งกับสารถี “เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะลองไปดูเสียหน่อย”

ความจริงแล้วเหลิ่งชิงฮวนอยู่กับรองแม่ทัพอวี๋

รองแม่ทัพอวี๋กล่าวว่า เขาจะไปจวนสกุลจินเพื่อไปข่มขู่จินเอ้อร์

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่า “ข่มขู่” สองคำนี้มิดีเลยในตอนนั้น ถ้าจินเอ้อร์เป็นแค่เด็กล่ะ?

แม้ว่าจินเอ้อร์จะหวาดกลัวอำนาจในจวนอ๋องฉีของนาง ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ก็มิเคยทำร้ายตนแบบโจ่งแจ้งเลย แต่เบื้องลึกเบื้องหลัง คิดมิดีมิร้ายมิน้อยเลย

รวมถึงยาพิษที่เป็นภัยต่อเหลิ่งชิงเฮ่อในตอนนั้น และธูปกระถินในตอนที่เหลิ่งชิงหลางไปสักการะยังสำนักแม่ชีหนานซาน จินเอ้อร์ผู้นี้เป็นคนเลวคนหนึ่ง ที่มีชีวิตอยู่ก็เปลืองอากาศ ตายไปก็เปลืองที่ดิน

ตนควรจะจัดการเขาในนามของพระจันทร์ตั้งนานแล้ว

ดังนั้น เมื่อได้ยินรองแม่ทัพอวี๋พูดเช่นนั้น ก็เลิกทำธุระของตนแล้วออกไปกับรองแม่ทัพอวี๋

เมื่อมาถึงจวนสกุลจิน รองแม่ทัพอวี๋ก็ประกาศตัวตน เพื่อให้ทหารอารักขาหน้าประตูเชิญเขาเข้าไป “ข้าเพิ่งมาจากหอฝูเซิง มีเรื่องสำคัญที่จะต้องขอพบจินซ่างซูกับคุณชายรองที่จวน ได้โปรดให้น้องผู้นี้ผ่านเข้าไปด้วย”

เสียงของรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดค่อนข้างดัง มิเพียงแต่ทหารอารักหน้าประตูเท่านั้นที่ได้ยิน เสียงนี้นั้นดังไปถึงข้างใน

ฆาตกรรม? ยังเป็นเรื่องเล็กน้อยอีกรึ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา