ปู้ฟางเดินโซเซกลับเข้ามาในครัว เขาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ กลิ่นสุรากระจายออกจากปาก
หลังจากที่ดื่มสุราเข้าไปสองจอก ปู้ฟางก็รู้สึกมึนเหมือนตัวลอย ต้องยอมรับว่าสุราชนิดใหม่นี้แรงกว่าสุราหัวใจหยกเยือกแข็งอยู่มากโข
ชายหนุ่มนำเหยือกที่เหลือไปเก็บ เหลือไว้เพียงเหยือกหยกสีขาวสามเหยือกที่มีสุราชนิดใหม่บรรจุอยู่เท่านั้น ซึ่งก็เป็นสุราที่ส่งกลิ่นหอมกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งนครนั่นเอง
เขาปิดฝาเหยือกหยกสีขาวทั้งสามอย่างแน่นหนา เพื่อกันไม่ให้กลิ่นสุราในเหยือกกระจายออกไปอีก ปู้ฟางตบเหยือกเบาๆ ก่อนจะเลียริมฝีปากตนเองตามสัญชาตญาณ กลิ่นสุราลอยออกจากปากเขาอีกครา
ปู้ฟางมองเหยือกสุราทั้งสามตรงหน้า สมองกำลังครุ่นคิดหาชื่อที่เหมาะสมสำหรับสุราชนิดใหม่นี้…
สุราพลังปราณที่หมักจากสมุนไพรพลังปราณระดับเจ็ดสามชนิด… จะเรียกมันว่า สุราสามขุมทรัพย์ดีไหมนะ ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ชื่อนั้นดูไร้รสนิยมสิ้นดี รังแต่จะทำให้คุณค่าของสุราชั้นยอดลดลงเสียมากกว่า
“จิบเดียวก็ทำให้ปากร้อนรุ่มเหมือนเพลิงเผา พอกลืนลงท้องกลับเย็นเยียบเหมือนกริชน้ำแข็ง… หรือว่าจะชื่อสุราเพลิงน้ำแข็งดี ไม่สิ ยังไม่ลึกซึ้งพอ หรือจะเป็นสุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็ง อืม… เอาเป็นสุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งก็แล้วกัน”
ชายหนุ่มลูบคางพร้อมคิดทบทวนดูอีกครั้ง แต่ในหัวใจก็ตัดสินใจเป็นแม่นมั่นไปเสียแล้ว สุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งนั้นยอดเยี่ยมกว่าสุราหัวใจหยกเยือกแข็งชนิดไม่เห็นฝุ่น เขาสงสัยเหลือเกินว่ามันจะเทียบชั้นลมหายใจมังกรได้หรือไม่
ความรู้ที่เขามีเกี่ยวกับลมหายใจมังกรนั้นมาจากคำอธิบายของหนี่หยันทั้งสิ้น เขาไม่เคยดื่มสุราชนิดนั้นมาก่อน จึงยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าสุราใหม่ของตนดีกว่าจริงหรือไม่
“ระบบ เป็นไปได้ไหมถ้าข้าจะลองทดสอบดูว่าสุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งหรือสุราลมหายใจมังกรดีกว่ากัน” ชายหนุ่มเอ่ยถามระบบด้วยความคาดหวัง
แต่ระบบกลับเงียบไปสักพักก่อนเอ่ยตอบ “การตัดสินเทียบเคียงนั้นต้องกระทำโดยผู้ที่เคยดื่มสุราลมหายใจมังกรมาก่อน ด้วยเหตุนี้นายท่านจึงยังไม่สามารถทำภารกิจนี้ให้สำเร็จได้ในตอนนี้ ขอให้นายท่านพยายามต่อไป แต่ระบบได้บันทึกสุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มคำนวณหาราคาที่เหมาะสมแล้วเช่นกัน…”
คำตอบของระบบเหนือความคาดหมายของปู้ฟางจนทำให้เขางงเล็กน้อย
ต้องให้ผู้ที่เคยชิมลมหายใจมังกรเป็นคนตัดสินเช่นนั้นรึ เรื่องนี้ทำให้ปู้ฟางขมวดคิ้วทันที
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็คลายปมคิ้ว แล้วยกยิ้มมุมปาก ในนครหลวงนี้มีคนผู้หนึ่งที่เคยดื่มลมหายใจมังกรมาก่อน ซึ่งก็คือหนี่หยันนั่นเอง นั่นแปลว่าการตัดสินจะเกิดขึ้นได้เมื่อนางมาลองชิมสุราตื่นรู้เพลิงน้ำแข็งในวันพรุ่งนี้
ระบบยังคงคำนวณราคาที่เหมาะสมไม่เสร็จ ปู้ฟางเองก็ไม่รู้ว่าราคาจะออกมาเท่าไร แต่เขามั่นใจอยู่อย่างหนึ่งว่ามันต้องไม่ถูกอย่างแน่นอน
ด้วยความที่ผลยังไม่ออกมา แต่ชายหนุ่มเริ่มง่วงงุนจากฤทธิ์เหล้าแล้ว เขาจึงอ้าปากหาวหวอดก่อนเดินออกจากครัวไปเตรียมตัวเก็บร้านเพื่อเข้านอน
…
เจ้าขาวยืนอยู่นอกร้านเหมือนภูเขาทะมึน แสงสีแดงกะพริบอย่างต่อเนื่องในดวงตา
ห่าฝนกระบี่ตกลงตรงหน้าเทียนสวีจื่อ ฝนอันตรายนี้เกิดจากกระบี่ในมือของเขาแผลงฤทธิ์นั่นเอง
ใบหน้าของเทียนสวีจื่อเครียดขึง เลือดสีแดงเข้มไหลออกจากจมูกมาเปราะเปื้อนเคราขาว…
“ไอ้หุ่นเชิดเวรนี่จงหัวขาดไปเสีย!”
เขาคำรามเบาๆ จากนั้นก็เพ่งสมาธิไปที่การปล่อยพลังปราณเที่ยงแท้ออกจากร่างกาย เคร้งๆ เงากระบี่พุ่งเข้าใส่เจ้าขาวทันที
เงานั้นปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า เกือบจะกลายสภาพเป็นห่าฝนกระบี่ที่หนักหนามากเสียจนทำให้ใครที่ได้เห็นต้องพากันขนลุกซู่ หัวใจสั่นสะท้านด้วยความกลัว
ใจกลางของห่าฝนกระบี่นั้นมีพลังงานกระบี่ของเทียนสวีจื่อสถิตอยู่ มันเป็นพลังงานกระบี่ของผู้ฝึกตนระดับเจ็ดขั้นนักพรตยุทธการที่ทั้งแข็งแกร่ง ยิ่งใหญ่ และหาได้ยากยิ่ง มันสาดลงมาบนพื้นด้วยกำลังแรงเสียจนแทบทำให้ประตูเมืองพังทลาย ผู้ฝึกตนขั้นนักพรตยุทธการทั่วไปคงไม่แม้แต่จะกล้าต่อกรกับกระบวนท่านี้อย่างแน่นอน
วิชานี้… น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
คนที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ใกล้ๆ ต่างตกอยู่ในสภาวะตื่นตะลึง ทุกคนตระหนักแล้วว่าเทียนสวีจื่อนั้นแข็งแกร่งเพียงใด
ร่างอ้วนกลมของเจ้าขาวดูเล็กกระจ้อยร่อยท่ามกลางฝนกระบี่ที่รายล้อม เหมือนเรือลำน้อยในมหาสมุทรกว้างใหญ่ ทำได้แค่เฝ้ารอให้กระแสน้ำพัดให้เรือคว่ำ
เสียงจักรกลดังผ่านอากาศ ดวงตาของเจ้าขาวเหลือบขึ้นมองข้างบน แล้วปล่อยแสงสีแดงเข้าใส่ห่าฝนกระบี่
ตอนนั้นเองพายุกระบี่จากฟากฟ้าก็ล้อมตัวมันเอาไว้มิด
“ฮ่าๆๆ! ตายโหงตายห่าไปเสียเถิด!” เทียนสวีจื่อระเบิดเสียงหัวเราะลั่น เขาเช็ดเลือดที่หยดออก หน้าตาดูมีความสุขเหลือล้น
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะสาแก่ใจของชายชราก็พลันหยุดชะงัก
นั่นก็เพราะตรงหน้าเขาตอนนี้ ห่าฝนกระบี่กำลังถูกกลืนเข้าหุบเหวไร้ก้นบึ้งแล้วเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆ
ไม่นานนักก็เหลือกระบี่อยู่ไม่กี่เล่มเท่านั้น
พลังที่แก่กล้าน่ากลัวเหมือนจะกลืนกินทุกสิ่ง กลับเหลือเพียงกระบี่เล่มเล็กน่าเวทนา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD