“รางวัลจากระบบ: ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุง และเสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ”
เสียงเคร่งขรึมดังขึ้นเพื่อประกาศรางวัลที่ปู้ฟางได้รับ
หลังจากที่ได้ยินประกาศนั้น สีหน้าของชายหนุ่มก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากตื่นเต้นไปเป็นไร้อารมณ์ดังเดิม
“ข้าวผัดไข่อีกแล้วรึ มันจะมีอะไรดีขึ้นเท่าไหร่กันเชียว” ปู้ฟางรู้สึกผิดหวัง เขาคิดว่าตนเองจะได้รับรายการอาหารใหม่ แต่กลับกลายเป็นข้าวผัดไข่เหมือนเดิมไปได้เสียนี่ ต่อให้เป็นสูตรที่ดีขึ้น… ข้าวผัดไข่ก็ยังเป็นข้าวผัดไข่อยู่วันยังค่ำ!
“ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงนี้เหนือกว่าข้าวผัดไข่สูตรธรรมดาและใช้วัตถุดิบแตกต่างกัน ผู้ฝึกตนที่มีพลังปราณต่ำกว่าระดับสามขั้นคลั่งยุทรการไม่สามารถสั่งรายการนี้ได้”
ระบบอธิบายความแตกต่างระหว่างข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงและข้าวผัดไข่สูตรธรรมดาให้ชายหนุ่มฟังด้วยน้ำเสียงจริงจัง ปู้ฟางแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย ในเมื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นสูตรปรับปรุง มันก็ย่อมต้องดีกว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนั่นละ
“แล้วเสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพคืออะไร”
“เสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ: หากนายท่านสะสมได้ครบทุกชิ้น นายท่านสามารถนำไปแลกเป็นชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพได้ เครื่องครัวที่ท่านใช้อยู่ในตอนนี้มีคุณภาพธรรมดาเท่านั้น”
“ไอ้ชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพนี่ดูทรงพลังมากเสียจริง!” ปู้ฟางกะพริบตาปริบด้วยความประหลาดใจ ก่อนรอยยิ้มจะเข้ามาแทนที่ใบหน้าเฉยเมยเมื่อครู่
รายการอาหารใหม่ปรากฏขึ้นบนป้ายของร้านเล็กๆ แห่งนี้ ข้างๆ ชื่ออาหารนั้นมีราคาติดอยู่
ข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุง ราคาสิบผลึก
“ในฐานะชายหนุ่มที่หมายมั่นปั้นมือว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นพ่อครัวเทพ นายท่านจะต้องมีเป้าหมายระยะสั้นไว้ให้พุ่งชน ภารกิจจากระบบ: โปรดทำกำไรให้ได้อย่างน้อยร้อยผลึกและพันเหรียญทองภายในหนึ่งสัปดาห์”
ระบบมอบภารกิจใหม่ให้ปู้ฟางด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง
การจะทำกำไรให้ได้ร้อยผลึกภายในหนึ่งสัปดาห์ ปู้ฟางต้องขายข้าวผัดไข่สูตรธรรมดาให้ได้ร้อยชาม หรือไม่ก็ขายข้าวผัดไข่สูตรปรับปรุงให้ได้สิบชาม ส่วนกำไรที่เหลืออีกพันเหรียญทองนั้น เขาต้องขายผัดผักหรือบะหมี่แห้งคลุกให้ได้สิบจาน…
“ระบบ นี่มันไม่ยากเกินไปรึ! ข้าขายข้าวผัดไข่ได้แค่ชามเดียวเองนะวันนี้ เจ้าดันมาบอกให้ข้าขายเพิ่มอีกร้อยชามภายในเจ็ดวันเนี่ยนะ… ทำไมไม่ฆ่าข้าให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยเล่า!” ปู้ฟางบ่นออดกับระบบด้วยความหดหู่
แต่ระบบก็ยังคงเดินหน้าให้กำลังใจเขาด้วยน้ำเสียงนิ่งขึงต่อไป “การที่จะก้าวขึ้นมาเป็นพ่อครัวเทพนั้น นายท่านจะต้องไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ปัญหาทั้งปวงที่นายท่านต้องเผชิญเป็นเพียงขั้นบันไดให้นายท่านเหยียบขึ้นไปสู่เป้าหมายสูงสุดเท่านั้น!”
ทว่าปู้ฟางยังคงมีสีหน้าไร้ความรู้สึก การให้กำลังใจของระบบนั้นไม่ได้มีผลอะไรกับเขาแม้แต่น้อย หากระบบไม่ได้ใช้น้ำเสียงขึงขัง ชายหนุ่มอาจจะรู้สึกคล้อยตามบ้าง
ปู้ฟางนอนลงบนเตียงพร้อมหลับตาลง ก่อนถอนหายใจออกมา
……
เซียวเสี่ยวหลงกลับมาถึงจวนแม่ทัพซึ่งเป็นบ้านของเขา แต่ชายหนุ่มดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก พลังปราณเที่ยงแท้ที่ยังคงปั่นป่วนอยู่ในร่างกายทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังฝันไป
“ข้าฝ่าทางตันมาได้แค่เพราะกินข้าวผัดไข่เข้าไปหนึ่งชาม เรื่องนี้มัน… ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ” เซียวเสี่ยวหลงนึกย้อนไปถึงรสชาติของข้าวผัดไข่ จิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับภาพของตนเองที่กำลังล่องลอยแหวกว่ายในทะเลกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหล
จวนแม่ทัพนั้นมีขนาดใหญ่โต เซียวเสี่ยวหลงเดินผ่านข้ารับใช้หลายคนระหว่างทาง เมื่อข้ารับใช้สาวเห็นสีหน้าของชายหนุ่มก็อดป้องปากด้วยความตกใจไม่ได้
“นายน้อยเซียวเป็นอะไรไปน่ะ”
“เหตุใดจึงทำหน้าตาท่าทางน่าขนลุกเช่นนั้น!”
“ให้ตายสิ! น่ากลัวเป็นบ้า! ภาพอันแสนสวยงามที่ข้ามีต่อนายน้อยเซียวพังป่นปี้หมดแล้ว หมดกัน รักแรกของข้า!”
……
เสียงซุบซิบของเหล่าข้ารับใช้ทำให้เซียวเสี่ยวหลงกลับมาได้สติอีกครั้ง เมื่อเห็นคนเหล่านั้นกำลังมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ ชายหนุ่มก็รีบเดินหนีให้พ้นจากระยะสายตาพวกเขาทันที
เซียวเสี่ยวหลงนั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่ในห้องที่ดูเรียบง่าย พลังปราณเที่ยงแท้ในกายเขายังคงหมุนวนไหลเวียนไปมา ผิวของชายหนุ่มส่องแสงเรืองรองเปล่งประกาย ส่งให้ตัวเขาดูราวกับเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ปาน
กระแสพลังระเบิดออกจากแก่นพลังในกายชายหนุ่ม ก่อนหลั่งไหลเข้าไปในอวัยวะส่วนต่างๆ รวมถึงจุดตันเถียนบนร่างกาย พลังปราณเที่ยงแท้นั้นอ่อนโยนเหมือนสายธารไหลซึ่งเข้าหล่อเลี้ยงทุกสิ่งที่พัดผ่าน ราวกับเป็นมืออันอ่อนนุ่มของหญิงสาวที่คอยนวดคลึงให้ผ่อนคลาย
เวลาผ่านไปราวหนึ่งเค่อ ใบหน้าของเซียวเสี่ยวหลงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดวงตาของชายหนุ่มพลันเปิดขึ้นอย่างฉับพลัน พลังงานที่ปล่อยออกจากร่างกายของเขาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอ นัยน์ตาของชายหนุ่มสว่างเจิดจ้า ก่อนเจ้าตัวจะเปิดปากเพื่อปล่อยพลังงานที่ปั่นป่วนจำนวนหนึ่งออกจากร่างกาย
เมื่อพลังจากร่างกายของเซียวเสี่ยงหลงขึ้นสู่จุดสูงสุด มันกลับไหลย้อนเข้าไปในร่างราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน เสียงกระดูกกระทบกันดังกังวานไปทั่วสรรพางค์กาย เขายกมือขึ้น ทันใดนั้น ก้อนพลังปราณเที่ยงแท้เข้มข้นก็พลันปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ
“ฮ่าๆ ! ทักษะการก่อพลังปราณเที่ยงแท้! ข้าบรรลุปราณระดับสามขั้นคลั่งยุทธการแล้วจริงๆ ด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเปิดร้านอาหารอยู่ต่างโลก : GOURMET OF ANOTHER WORLD