ฟ้ามืดแล้ว ทุกคนหยุดทำงานได้ สามารถมีเวลาอิสระของตัวเอง
ความหมายก็คือ ทุกคนไม่ต้องทำงานส่วนกลางแล้ว กลับบ้านไปทำงานที่ตัวเองอยากทำ อยากทำอะไรก็ทำได้
ท่านย่าหม่ากับซ่งฝูหลิงอยู่ต่อหน้าคนในบ้าน การแสดงออกแตกต่างไม่เหมือนกันอย่างเห็นได้ชัด
ซ่งฝูหลิงพูดถึงเรื่องลายละเอียดว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้างแล้ว ให้ท่านพ่อกับท่านแม่ฟัง ชี้แจงรายละเอียดว่าได้เงินไปเท่าไหร่ ใช้ไปเท่าไร ถูกจองขนมจำนวนเท่าไหร่และยังเจอกับใครบ้าง
และก็ไม่ได้ปิดบังซื่อจ้วงกับหนิวจั่งกุ้ย นางคิดอะไรก็พูดเช่นนั้น ไม่พูดเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่
นางเตรียมอาบน้ำสระผม ส่วนปากก็พูดไม่หยุดคุยกับคนในบ้าน
สุดท้าย ซ่งฝูหลิงสีหน้ามีความสุข บอกกับซ่งฝูเซิง เฉียนเพ่ยอิง เฉียนหมี่โซ่วว่า ท่านย่าซื้อยาฆ่าเหาให้นาง ราคาครึ่งตำลึง และซื้อจากร้านขายยาให้เองอีกด้วย
ปฏิกิริยาแรกของเฉียนเพ่ยอิงก็คือ ไม่ใช่จำนวนเงินเยอะหรือน้อย แต่ว่าลูกสาวออกจากบ้านไปแค่วันเดียวกลับมีเรื่องแปลกใหม่อีกแล้ว
แต่กลับเป็นซ่งฝูเซิงที่รู้สึกแปลกใจ “เงินครึ่งตำลึงเชียวนะ ท่านย่าซื้อให้เจ้าหรือ นางซื้อให้เจ้าเองใช่หรือไม่”
“อืม…ใช่แล้ว ข้าไม่ได้บอกนาง ท่านเอาเงินให้ข้าถือไว้แล้ว”
หลังจากนั้น ซ่งฝูหลิงก็ไปหยอกล้อเฉียนเพ่ยอิง “ท่านแม่ ท่านรีบเย็บผ้าโพกหัวลายดอกไม้ให้ข้ากับท่านย่าด้วยนะ ไม่อย่างนั้นข้าต้องหนาวจนหน้ากับหูจนแข็งเป็นน้ำแข็งแน่ พรุ่งนี้ต้องใช้งานแล้ว ข้ากับท่านย่าต้องไปส่งของข้างนอก อากาศหนาวมาก ท่านแบ่งผ้าฝ้ายออกมาบ้างได้ไม่ ทำเสื้อคลุมให้ข้ากับท่านย่า ให้นางใส่ป้องกันหัวใจและหน้าอกให้อบอุ่น ถ้าให้ดีทำหน้ากากผ้าฝ้ายกี่อันด้วยนะ…ท่านแม่”
คนจิตใจดีและถูกอ้อนได้ง่ายอย่างเฉียนเพ่ยอิงบอกว่า “ตกลง ถ้าทำตอนนี้ ในสองวันนี้ก็น่าจะเสร็จแล้ว”
ซ่งฝูหลิงลากหมี่โซ่วไปสระผม เอายาฆ่าเหาสระผมให้น้องชาย
ซ่งฝูเซิงถามขึ้น “เจ้าสระผมเสร็จแล้วจะเข้าไปนอนเลยหรือไม่”
“อืม…เมื่อวานข้ายังหลับได้ไม่ดีนัก ท่านย่าบอกให้ข้าเข้านอนแต่หัวค่ำ”
“ตกลง คงเป็นเพราะแม่ของข้าตั้งใจให้คนอื่นไปก่อเตาอบแต่ไม่ให้เจ้าทำงานอะไรอีก”
เฉียนหมี่โซ่วถูกพี่สาวกดหัวลงไปสระผมในอ่างล้างหน้า จึงถามขึ้นพี่สาวขึ้น “อะไรคือหอนางโลม หอนางโลมเป็นสถานที่อะไรหรือ หอนางโลมมีอะไรอยู่ข้างใน”
ในขณะเดียวกัน ทางด้านของท่านย่า
“ลูกใหญ่ พาภรรยาของเจ้ากับต้าหลังไปช่วยกันก่อเตาอบ ให้ใช้อิฐที่ข้าเอามาพวกนั้น”
“ตอนนี้หรือ”
“ใช่แล้ว จะก่อแบบไหนน้องสามของเจ้ารู้ดี พวกเขาน่าจะไปที่นั่นรอเจ้าแล้ว”
ซ่งฝูไฉรู้สึกสงสัยเรื่องที่ท่านแม่อยู่ดีๆ ก็จะไม่รับเงินกองกลาง จะไปทำเค้กอะไรกับหลานสาว เขาไม่คิดว่าจะเป็นเป็นงานการอะไรขนาดนี้ และไม่มีความคิดเห็นอะไรด้วย
ที่สำคัญคือ เขาเหนื่อย เหนื่อยจนไม่อยากจะพูด ไม่อยากจะถาม อยากจะนอนเท่านั้นแต่ท่านแม่กลับอยากให้เขาไปก่อเตาอีก และยังไม่รู้ว่าจะต้องก่ออีกกี่เตา จากนี้จนถึงสว่าง ไม่รู้ว่าจะทำเสร็จหรือไม่
“ลูกรองล่ะ”
ซ่งฝูสี่กำลังก้าวขาเข้ามาในบ้าน มือสองข้างเย็นจนเป็นน้ำแข็ง มือแตกจนเห็นเป็นแผลยาว เขาอยากแช่น้ำอุ่นสักพักแต่กลับพบว่าสายตาภรรยากำลังจ้องมาที่เขา พอเข้ามาถึงบ้าน ท่านแม่ก็ตะโกนเรียกทันที “ทำอะไรหรือ ท่านแม่”
“เจ้าไปทำโต๊ะให้แม่ได้หรือไม่ ข้าจะบอกเจ้าว่าให้ทำให้ยาวประมาณนี้” พร้อมทำมือประกอบ “นี่คือรูปที่พั่งยาวาดไว้ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องทำตามแบบ ให้เจ้าทำโต๊ะยาวสามตัว คืนนี้เจ้าทำออกมาให้ข้าได้หรือไม่ และยังมีแม่กุญแจ เจ้าเอาไปติดที่ประตูทางเข้าให้ด้วย ไปเถอะ ให้เมียเจ้าเอาไม้แผ่นตามไป”
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมข้าต้องไป ข้าเพิ่งกลับมา” “ไม่ใช่ ท่านแม่ พรุ่งนี้ข้ามีงาน…”
“ท่านแม่ พรุ่งนี้ท่านไม่รับเงินกองกลางแล้วไม่ใช่หรือ ตอนกลางวัน แค่งานพวกนั้นข้าก็ทำไม่ไหวแล้วและยังมีงานอื่นนอกจากนี้ที่ให้ข้าช่วยอีก
ถ้าเจ้าไม่อยากทำตอนกลางคืน แล้วจะทำตอนไหน อย่าพูดไร้สาระ”
ซ่งฝูสี่ทำได้แค่กัดฟันตัวเอง บิดขี้เกียจเดินจากไป
“ท่านพ่อ พ่อของเสียวเป่าหรือ” จูซื่อไม่กล้าพูดเสียงดัง บ้านทุกหลังติดกัน แม่ยายก็อยู่ในห้อง แค่มีกระดาษสากั้นอยู่ตรงกลาง ถ้าได้ยินเสียงก็ต้องถูกด่า จึงทำได้แค่ลากมือของสามีไว้ “เจ้าคิดว่าอิฐขาวพวกนั้น เป็นเงินใครซื้อกันหรือ”
ซ่งฝูสี่เห็นภรรยาพูดแบบนั้นก็รู้สึกไม่อยากสนใจ ตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องเงิน อยากแค่ยืดเส้นยืดสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...