เตาอบจากอิฐขาวหกเตา ถูกก่อให้เป็นเตาอบติดกับด้านหนึ่งของกำแพง เป็นรูปครึ่งวงกลม ซึ่งซ่งฝูหลิงเริ่มต้นจะทำเตาอบดินปั้นตรงนั้น แสดงออกถึงไม่ความลงตัวตามแผนเท่าที่ควร
ในกลางห้องมีโต๊ะสี่ตัว โต๊ะสี่ตัวถูกวางเป็นวงกลม
จะมองเห็นโต๊ะเป็นสองแถวที่มีความยาวเท่ากัน ด้านซ้ายด้านขวาเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยม ทางฝั่งด้านขวามือโต๊ะจะสั้นกว่าทางด้านซ้าย ซึ่งตั้งใจเหลือไว้ให้สั้นกว่า ซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเพื่อให้เดินเข้าเดินออกไปได้
และเมื่อซ่งฝูหลิงเดินเข้ามา นางจะถูกล้อมด้วยโต๊ะทั้งด้านหน้า ด้านหลัง ขังเธอไว้อยู่ข้างใน
จัดเป็นแบบนี้ ทำให้สะดวกกับการหยิบจับของใช้ ไม่ว่าจะหันหน้า หันหลัง หันซ้าย หันขวาก็สะดวก เพียงแค่ต้องการนมวัว ยื่นมือไปก็หยิบกลับมาได้ ถ้าต้องการไข่ไก่ แค่เอื้อมมือออกไปก็หยิบได้
นี่เป็นงานที่นางออกแบบเอง
แต่นี่เป็นงานที่ทำด้วยเวลากระชั้นชิด ถ้าไม่อย่างนั้นนางจะให้ท่านลุงรองช่วยทำโต๊ะอ่านหนังสือที่มีลิ้นชักด้วย จะยิ่งสะดวกขึ้นไปอีก
ถึงตอนนี้ ซ่งฝูหลิงกินอิ่มนอนหลับอย่างที่พึงพอใจแล้ว เรื่องแรกที่จะทำต่อไปก็คือจุดไฟเตาอบ ทำให้เตาอบเตาแรกร้อนเข้าไว้
แค่เห็นไฟค่อยๆ ลุกโชน นางก็ถอดเสื้อคลุมออก เหลือบมองไปที่นาฬิกาเพื่อจับเวลา หลังจากนั้นจึงเดินเข้ามาข้างในตรงกลางโต๊ะ
เริ่มนวดแป้ง นางนวดแป้งไปด้วยหัวใจกระยิ้มหย่อง
เริ่มต้น นางกลัวว่าถาดที่ปั้นจากดินเหนียวจะแตกง่าย จึงปั้นและเผาไฟไว้หลายๆ อัน เผื่อการใช้งาน
ท่านวดแป้งขอนางดูมั่นใจ เพราะเคยใช้ท่าทางจากการปั้นดินเหนียว ของใช้คุณภาพไม่ดีมักจะถูกนำมาใช้ไปก่อน ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย พวกเขาปั้นอ่างดินเหนียวและเผาไฟไปได้หลายชิ้นเหมือนกัน
นี่คือสิ่งที่นางต้องคิดวิเคราะห์ กลัวว่าเข้าหน้าหนาวแล้วดินจะกลายเป็นน้ำแข็ง หากถึงตอนนั้น ดินตามฝั่งแม่น้ำคงกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด หากเราอยากจะขุดดินเหนียวคงจะลำบากไม่น้อย ก็ต้องใช้ทุกวิธีที่จะทำให้ทุกอย่างสะดวกและสบายใจขึ้น และต้องอบขนมให้ออกมาสวยงามหลายๆ หม้อ แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญอย่างไรก็ไม่รู้ ขนมเค้กโบราณ ขนาดสิบหกชุ่นหม้อใหญ่นั้น นางอบครั้งเดียวได้เจ็ดหม้อพอดี
เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถที่จะคิดให้ละเอียดได้ บางอย่างต้องอาศัยสวรรค์มาโปรด
อือออ…นางก็ไม่รู้ว่าที่เผาเครื่องปั้นเป็นชามออกมาสี่ใบ ก็เพราะความบังเอิญจากสวรรค์ด้วยหรือไม่
แน่นอน ตอนนี้ พรจากสวรรค์คงไม่สามารถช่วยให้ทำงานได้สำเร็จทุกครั้ง
สมองของซ่งฝูหลิงกำลังครุ่นคิดว่า อะไรที่มีแล้ว หรืออะไรที่ยังไม่มีบ้าง แต่มือก็ไม่หยุดที่จะทำงานไปด้วย ครั้งนี้นางไม่รู้สึกตื่นเต้นแล้ว
เมื่อถึงเวลาต้องใส่นม ก็เทนมใส่ เมื่อถึงตอนที่จะตีไข่ ก็ตีไข่ และเมื่อต้องใช้เครื่องตีไข่ที่มีความเร็วสูง ก็ใช้ความเร็วสูง เมื่อจำเป็นต้องใช้ความเร็วต่ำ ก็จะใช้ความเร็วต่ำ จึงทำให้เกิดฟองขึ้นมากมาย เมื่อเกิดฟองก็ใส่น้ำตาลลงไป โดยน้ำตาลต้องแบ่งใส่ลงไปเป็นสามครั้ง ตั้งแต่เริ่มจากการนวดแป้ง เราจะต้องกำหนดความเหมาะสมของการใส่น้ำ เกลือและน้ำส้มสายชู ทำด้วยความมั่นใจ ใช้มือนวดแป้งอย่างชำนาญ
การทำขนมเค้ก หากใช้คำพูดของซ่งฝูเซิงก็คืองานที่ถนัดที่สุดในตอนนี้ เขาทำขนมเค้กที่ลูกสาวของเขาเพิ่งสอนเมื่อวาน ตอนที่เขาทำอาจทำให้ตรงกลางของขนมมีความฟู
สิ่งเหล่านี้น่าจะเพราะการถ่ายทอดกันมาตามพันธุกรรม
ไม่เพียงเท่านี้ ครอบครัวตระกูลเถียนบวกกับซ่งฝูเซิงที่สามารถทำอาหารได้ พอถึงเวลาที่ซ่งฝูหลิงมีพัฒนาด้านการทำอาหาร ฝีมือนางก็ดีขึ้นมาก
ถึงซ่งฝูหลิงไม่ค่อยเก่งเรื่องทำอาหารจีน นางชอบทำอาหารฝรั่งที่มีความยากและซับซ้อน และยังชอบชงกาแฟ ทำแซนด์วิช แกงกะหรี่ รวมทั้งพิซซ่า อาหารประเภทเหล่านี้ โดยรวมๆ ในสายตาของพ่อนางจึงไม่สนใจว่าจะกินอิ่มหรือทำอาหารหลักเก่ง เพราะนางก็ทำได้ทั้งหมด
อย่างแรก ถาดขนมเค้กถูกนำไปอบแล้ว ที่เป่าไฟที่นางทำขึ้นกำลังส่องไปที่เตาและวางอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอเจาะ
หากจำเป็นต้องใช้ไฟแรง ก็แค่นั่งบนเก้าอี้ ดึงมือปั่นไปมา เครื่องเป่าไฟที่มีลมก็จะเป่าลมไปที่เตาไฟ ไฟก็จะลุกโชนขึ้น
นางกำลังครุ่นคิดว่า พรุ่งนี้ถ้านางใช้เครื่องเป่าไฟควบคุมเปลวไฟ จะต้องดูความเหมาะสมและต้องเปลี่ยนจังหวะเพลงและเนื้อเพลง ต้องดูว่าจะใช้เพลงคึกคักเหมือนเวลาออกรบหรือใช้เพลงที่มีจังหวะช้าๆ โรแมนติก ถึงจะเหมาะกับไฟของเค้กชนิดนี้มากกว่ากัน
ซ่งฝูหลิงถลกแขนเสื้อขึ้น หันไปดูเวลาอีกครั้ง นางคาดคะเนเวลาที่เตาอบจะเริ่มร้อน เวลาที่นางนวดแป้งเสร็จก็ส่งเข้าเตาอบ เมื่อถึงเวลาเอาเค้กออกจากเตาอบ เมื่อนั้นจะดูได้ว่าไฟที่ใช้ในการอบเค้กเบาหรือแรงไปหรือไม่
อืม ตอนนี้กำลังเตรียมถาดที่สอง
ถาดที่สองที่กำลังเตรียม จะใช้เตาอบใหม่และจะใช้พร้อมกับเตาอบที่ทำจากดินเหนียวเมื่อวานนี้ เพราะถาดแรกทดลองแล้วแต่ผลยังไม่ออก จะต้องดูประสิทธิผลของถาดต่อไป และจะยิ่งปลอดภัยเมื่อลองใช้เตาอบใหม่อบสักถาดหนึ่ง ขนมเค้กก็จะสุกตามต้องการ
เมื่อเค้กถาดแรกใกล้จะถึงเวลาออกจากเตาอบ ซ่งฝูหลิงอยู่ในห้องที่ถูกล็อคประตูอยู่ด้านใน จึงไม่รู้เลยว่าข้างนอกประตูเต็มไปด้วยเด็กๆ รายล้อมอยู่
แม้แต่เด็กน้อยที่ใส่หมวกลายสีสายรุ้ง คือหมี่โซ่ว นั่นก็มารอแล้วเช่นกัน
ในมือของหมี่โซ่วถือฟืนแห้งๆ ยืนอยู่หน้าประตู สายตาจ้องไปที่ประตูที่ปิดสนิทอยู่ และควบคุมตัวเองไม่ได้ที่จะใช้จมูกสูดดมกลิ่นหอมที่ลอยมาเป็นระยะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...