ซ่งฝูเซิงออกไปครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไปซื้อวัวนม
เขายังได้เดินทางเลยถัดจากหมู่บ้านที่ขายวัวนมไปอีกและอยู่ที่นั่นสองวัน
ไปทำอะไรน่ะหรือ
ไปซื้อของใช้ในครัวเรือน
เพราะฟังคนในหมู่บ้านขายวัวนมบอกว่า ถัดไปข้างหน้าอีกหน่อยจะมีเมืองเล็กๆ ก็ไม่รู้ว่าแถวเมืองนั้นมีแร่เหล็กหรืออะไร ทุกสามปีจะมีแรงงานใหม่ๆ ของทางการถูกส่งไปทำงานที่นั่น ซึ่งจะต้องผ่านที่นี่ ได้ยินว่าคนพวกนั้นไปทำงานในหุบเขาลึกของเมืองนั้น มีทหารจำนวนมากไปเฝ้าดู
อีกทั้งราคาเหล็กของที่นั่นก็ถูกกว่าที่อื่น คนในหมู่บ้านพวกเขาไปซื้อหม้อใบใหญ่ซื้อขวานมาจากที่นั่นทั้งนั้น ร้านตีเหล็กก็เยอะมากเหมือนกัน
ซ่งฝูเซิงได้ฟังก็มองกัวคนโตกับต้าหลัง พลางพูด “ไป ในบ้านขาดของใช้พอดี ไปหาซื้อที่นั่นให้ครบ”
เมื่อไปถึงก็หนาวเสียจนมีน้ำแข็งจับที่หนวดเครา
ช่างตีเหล็กถาม “อยากได้ของใช้อะไรรึ”
ซ่งฝูเซิงบอก “เอาคราดสามสิบอัน จอบยี่สิบอัน” และยังทำท่าอธิบายต่อ ทำของใช้สำหรับลูกสาวของเขา แท่งเหล็กที่คล้ายกับน็อต เสียบเข้าไปในโต๊ะได้ จากนั้นก็ขันน็อตให้แน่น ด้านบนมีถาดเหล็กกลมที่หมุนไปหมุนมาได้
ยังไม่ทันที่จะอธิบายจบช่างตีเหล็กก็รีบบอกให้หยุด “เดี๋ยวก่อน”
วางงานในมือลง มองซ่งฝูเซิง กัวคนโต และต้าหลังด้วยสายตาสงสัย “พวกเจ้าซื้อของพวกนี้ไปทำอะไร”
“ใช้ทำสวนของครอบครัว”
“บ้านใครมีคนเยอะขนาดนั้น ต่อให้มีก็ต้องตัดเด็กกับผู้หญิงทิ้ง อย่างมากก็ซื้อแค่เก้าอันสิบอัน”
ซ่งฝูเซิงบอก “ได้ๆๆ แบบนั้นที่นี่ขายได้มากสุดเท่าไร”
นึกไม่ถึงว่าจะซื้อของก็มีจำกัดจำนวนด้วย จ่ายเงินทั้งทียังเหนื่อย
ช่างตีเหล็กบอกว่าทางการมีข้อกำหนด ครอบครัวใหญ่ที่อยากซื้อของใช้ที่ทำจากเหล็กจำนวนมากๆต้องมีหนังสือแจ้ง (หนังสือขออนุญาต) ถ้าเป็นคนของเมืองข้างล่าง ก็ต้องให้เซียงเซินกับหลี่เจิ้งรับรอง
ซ่งฝูเซิงกับกัวคนโตมองหน้ากัน กัวคนโตยังไม่เข้าใจ กลับเป็นต้าหลังที่เข้าใจขึ้นมาก่อน ความหมายของอาสามก็คือ เช่นนั้นพวกเราก็แยกซื้อเป็นสามร้านสิ มากันตั้งสามคน
สรุปคือ สุดท้ายซ่งฝูเซิงซื้อของไปเยอะมากจากร้านขายเหล็กสามร้าน
ของมันถูกนี่ เหล็กของที่นี่ถูกกว่าถงเหยาเจิ้นเป็นเท่าตัว
เขายังได้ซื้อหม้อให้บ้านตัวเองกับบ้านท่านย่าหม่าอีกด้วย
ตอนนี้บ้านตัวเองมีหม้อเหล็กใช้แค่ใบเดียว หม้อที่ซื่อจ้วงกับหนิวจั่งกุ้ยใช้เป็นหม้อดิน
ซื้อหม้อดำใบใหญ่ให้บ้านท่านแม่ บ้านนั้นคนเยอะ จะได้ไม่ต้องใช้หม้อใบเดียวทำอาหาร อยากกินข้าวเร็วๆ ยังต้องรอคดข้าวออกมาก่อน ถึงจะเอาหม้อไปทำกับข้าวได้
น่าจะซื้อครบหมดแล้วนะ
ซ่งฝูเซิงซื้อของให้ท่านย่าหม่า แต่ไหนแต่ไรเขาไม่คิดจะเอาเงิน ให้ฟรีๆ อีกทั้งเขาเป็นฝ่ายเสนอให้ก่อน ไม่เคยเสียดาย ในใจรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ถ้าใครแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งหรือบอกเป็นนัยๆ ว่าอยากได้ของ เขาจะรู้สึกไม่ดี เขาเป็นคนแบบนี้มาตลอด
กัวคนโตก็มาบอกกล่าวกับซ่งฝูเซิงว่าอยากได้เงินสักหน่อย จะไปซื้อหม้อให้ที่บ้าน
ต่อมาก็ไม่รู้ว่าคิดอะไร ผู้ชายทั้งสามยืนปรึกษากันบนถนน ลำบากลำบนกว่าจะได้มาทั้งที ซื้อหม้อไปเลยสิบใบ เกิดว่าบ้านอื่นก็ต้องการล่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วซื้อกลับไปเลยดีกว่า ไม่มีเหลือแน่นอน
สุดท้ายทั้งสามคนก็แยกกลับไปที่ร้านขายเหล็กทั้งสามร้าน สั่งทำของอีกรอบ บอกให้ช่างตีเหล็กทำ ‘แหลมๆ’ ยื่นม่านฟางให้ดู ความหมายคือ ให้ทำเหล็กปลายแหลมๆ แบบที่ว่า พอกลับไปก็จะเอาเหล็กแหลมพวกนั้นปูให้เต็มม่านฟาง
ช่างดูเอาแล้วกันว่าม่านหนึ่งอันต้องใช้เหล็กแหลมๆ เท่าไร ไม่ต้องประหยัด พวกเรามีเงิน เอาแบบถี่ๆ เลยนะ
ซ่งฝูเซิงต้องการซื้อของสิ่งนี้เพราะตรงประตูใหญ่ของบ้านจะเอาแต่ขุดหลุมก็ไม่ได้หรือเปล่า แบบนั้นเข็นรถไปมาจะทำอย่างไร คนเดินไปเดินมายิ่งแล้วใหญ่
แต่ไม่ว่าจะมองประตูอย่างไรก็รู้สึกว่าตรงนั้นมีช่องโหว่ใหญ่
วันดีคืนดีเดี๋ยวได้มีสัตว์ใหญ่เดินทะเล่อทะล่าเข้าประตูมา โดยเฉพาะประตูห้องของพวกเขาที่อยู่ตรงกับประตูใหญ่พอดี
ดึกๆ ดื่นๆ กำลังนอนหลับสบาย ไม่ได้ยินเสียงอะไร สัตว์ใหญ่ปีนขึ้นมาถึงเตียง คาบฝูหลิงกับเสี่ยวหมี่โซ่วไป จากนั้นก็แทะกินภรรยาของเขา เมื่อถึงตอนนั้นเขาปกป้องไม่ได้สักคน สู้ก็สู้ไม่ไหว ไม่ดีแน่
ต้องทราบก่อนว่าคนเราใช้ชีวิต ทำงานหาเงินเอาเป็นเอาตายก็เพื่อให้กินอิ่ม มีเสื้อผ้าอุ่นๆ มีชีวิตที่ดี
ในความคิดของซ่งฝูเซิง เพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน เขายอมจ่ายเงินจำนวนมาก ยอมทิ้งเงินไปเปล่าๆ แม้จะทำแล้วไม่ได้ใช้ก็ตาม ยังไงเขาก็ต้องระวัง ห้ามประมาทเด็ดขาด
สรุปคือ ของที่ทั้งสามคนซื้อเพิ่มมีถาดเหล็กกลม หม้อดำใบใหญ่สิบใบ รวมถึงเหล็กแหลมที่ใส่อยู่ในถุงขนาดใหญ่สามใบ ใช้เงินในตัวซ่งฝูเซิงหมดเกลี้ยง กระเป๋าสะอาดยิ่งกว่าใบหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...