เขาอาจจะไม่กินหรือไม่เคยกินแบบนี้มาก่อน ลูกอมที่บ้านท่านลุงซื้อให้เขาล้วนมีไส้เหอเถา[1] หรือไม่ก็ซูถัง
ท่านย่าหม่ายิ้มให้เฉียนหมี่โซ่ว รู้ว่าเด็กคนนี้ชอบกินลูกอม พอได้กินก็จะเชื่อฟัง “นั่งนี่ ช่วยย่าเป่าลมหน่อย ต้มน้ำ”
“อือ”
“หมี่โซ่ว เจ้าว่าเจ้าโตขนาดนี้แล้ว ถ้าอนาคตดี เจ้าจะเลี้ยงดูท่านลุงหรือเปล่า เจ้าดูท่านลุงของเจ้าสิ ทั้งกอดทั้งหอมเจ้า”
“เลี้ยง” หมี่โซ่วเชิดหน้าขึ้น ก่อไฟพลางยิ้มพูดกับย่าหม่า
“พอถึงตอนนั้นข้าจะซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ ท่านลุง ท่านป้า พี่สาว ข้า อาศัยอยู่ด้วยกัน ข้ายังจะสระหัวขัดตัวให้ท่านลุงด้วย ท่านลุงบอกว่า เมื่อไรที่เขาไม่อยากเดินแล้ว ต้องให้ข้าแบกเขาออกไปเดิน ข้าก็ต้องแบกเขา”
พอสังเกตเห็นว่าย่าหม่าห่อเกี๊ยวไม่หยุดพลางมองเขา หมี่โซ่ววิเคราะห์สีหน้าแบบนั้นไม่ออกว่าหมายความอย่างไร ลังเลเล็กน้อย “และก็มีท่านย่าด้วย เสร็จแล้วท่านย่าก็มาอยู่ด้วยกันนะ”
ท่านย่าหม่าหลุดหัวเราะ คำพูดตอนแรกจริงเท็จไม่รู้ แต่ก็ยังดูน่าเชื่อกว่าหน่อย แต่พอบอกจะให้นางไปอยู่ด้วย แค่ฟังดูก็รู้ว่าจอมปลอม
คืนนี้เหล่าคนส่งขนมเข้านอนเร็วอีกแล้ว
ทว่าบรรดาคนทำขนมกลับยุ่งเป็นพิเศษ
ที่ห้องทำ ‘ขนมเค้กทั่วไป’ ทั้งหกคนต่างเป็นมือใหม่ ตอนนี้ซ่งฝูหลิงยังไม่แบ่งงานทางนั้นออกจากกัน เดิมทีพวกนางก็เงอะงะอยู่แล้ว ในหนึ่งวันแต่ละคนต้องอบให้ได้เกือบยี่สิบหม้อ วันนี้ถึงแม้เก่อเอ้อร์นิวจะขายขนมเค้กวันเกิดไม่ได้ แต่นางก็ได้ยอดขนมเค้กทั่วไปมาเพิ่มยี่สิบก้อน คืนนี้คงไม่ต้องนอนกันแล้วหรือเปล่า
เพิ่งจะกี่วันเอง แขนของเหอซื่อกับต้ายาบวมหมดแล้วเพราะการตีไข่
ยิ่งเป็นแบบนี้พวกนางก็ยิ่งรู้สึกนับถือซ่งฝูหลิงจากใจ คิดว่าพั่งยาเก่งจริงๆ ก่อนหน้านี้คนเดียวทำได้ยังไง
กัดฟันอดทน นั่นเด็กที่อายุน้อยสุดตอนนั้นยังอดทนมาได้ พวกนางจะมาบ่นไม่ได้
แต่พวกนางคงไม่รู้ว่า พวกนางตีไข่ครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงก็สู้เครื่องตีอัตโนมัติของซ่งฝูหลิงไม่ได้ ไม่กี่นาทีก็เสร็จ แถมนั่นยังต้องมีการใส่น้ำตาลหลายครั้งทำให้เสียเวลาอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นจะเร็วกว่านี้
แต่จะว่าไป ถึงแม้ซ่งฝูหลิงจะมีอาวุธวิเศษ แต่งานตกแต่งดอกไม้ก็เป็นงานที่ใช้ความละเอียดมาก
เฉียนเพ่ยอิ งท่านแม่ของนางลองทำดูสักพักก็บอกว่า “ไม่ไหว แม่มือสั่น แม่ช่วยเจ้านวดแป้งหรือคั้นน้ำก็แล้วกัน”
ส่วนพ่อ ซ่งฝูเซิง คนที่เห็นๆ อยู่ว่าใช้มีดแกะสลักหัวไชเท้าออกมาเป็นดอกไม้ได้ แต่พอให้บีบครีมตกแต่งเป็นดอกไม้ ไอ๊หยา ซ่งฝูหลิงวิจารณ์ไปหลายครั้ง “น่ากลุ้มใจจริงๆ ไม่เหลือเวลาให้ทำของเสียแล้วสิ”
อีกทั้งดอกไม้ที่ทำออกมา “ท่านพ่อ ดอกไม้แดงกับดอกไม้เขียวเหรอ แดงตัดเขียวเหรอ ท่านคิดว่ามันสวยเหรอ”
ซ่งฝูหลิงกุมขมับ นางทนดูไม่ได้แม้แต่นิดเดียว จะปาดออกก็ไม่ได้ เห็นทีจะต้องแก้จากรอบๆ เติมจุดรอบขนมเค้กแล้วกัน ทำเหมือนเป็นสร้อยไข่มุกล้อมรอบ ไม่อย่างนั้นจะน่าเกลียดเกินไป
ซ่งฝูเซิงไม่ยอม ไม่สวยตรงไหน สีสดใหม่ทั้งนั้น สดใสจะตาย
พอเห็นลูกสาวจะมาเติมแต่งเขาก็ไม่หลีก “เจ้าไม่ต้องแต่งเพิ่มแล้ว จะพิถีพิถันขนาดนั้นทำไม ทำแบบนี้ต่อไปคงได้เหนื่อยตายก่อน พวกเขาเคยกินเคยเห็นเหรอ ลำพังแค่นี้ในสายตาของคนโบราณพวกนั้น ก็เป็นของที่สวยงามเสียยิ่งกว่าสวยแล้ว ทำแบบไหนก็กินแบบนั้นไปนั่นแหละ”
“แต่นี่เป็นขนมเค้กที่ฉลองเด็กเกิดนะ ต้องทำให้สวยหน่อย”
“ไม่ว่ามันจะเป็นขนมเค้กอะไร สุดท้ายก็ต้องกินลงท้อง เอาไปวางเป็นของประดับไม่ได้ ทิ้งไว้นานจะบูด เจ้าก็ฟังพ่อเถอะน่า”
พูดจบซ่งฝูเซิงก็เขียนข้อความข้างล่างกอดอกไม้แดงเขียว “ฟ้าประทานบุตร”
มาจากคัมภีร์ซือจิง
ดูอักษรสี่ตัวนี้สิ ใครเขียนนะ
ซ่งฝูเซิงชื่นชม คิดในใจ ทำไมเราถึงได้เก่งขนาดนี้นะ ความรู้สูงส่งจริงๆ
เวลาตีหนึ่งกว่าเกือบตีสอง ซ่งฝูหลิงถึงกลับไปพัก
ซึ่งก่อนหน้านี้นางได้ไล่ให้ท่านพ่อกับท่านแม่กลับไปก่อนแล้ว
ส่วนห้องทำขนมอีกห้อง นางก็ได้ไปดูมาเหมือนกัน ยังขะมักเขม้นกันอยู่ ถามเล็กน้อยว่าเสร็จทันเวลาออกไปส่งใช่ไหม สตรีทั้งหกคนพยักหน้าพร้อมกัน วางใจได้
เวลาตีสามกว่า ท่านย่าหม่ากับบรรดาหญิงสูงวัยเดินเป่าไอหนาวมาพร้อมกัน
จัดการเอาขนมที่ห้องของซ่งฝูหลิงก่อน ของในห้องนี้แพง
ใช้กุญแจเปิดประตู เริ่มห่อ เตรียมเอาขึ้นรถ
ดูแค่เข่งใช้ใส่ขนมเค้กครีมที่วางอยู่บนโต๊ะกับเข่งที่ใช้ใส่ ‘ขนมเค้กทั่วไป’ ก็คนละเรื่องกันแล้ว
ส่วนล่างไม่มีก้นเข่ง ยังคงใช้ตอกไผ่สานเป็นถาดกลม
ทุกครั้งที่ซ่งฝูหลิงทำจะเอาตัวเนื้อเค้กวางลงบนถาดกลมที่สานด้วยตอกไผ่แล้วค่อยตกแต่งดอกไม้ แบบนี้ก็จะลดขั้นตอนที่ต้องย้ายมาอีกรอบ
พอเสร็จแล้วก็ค่อยทำการล้อมทีละด้านไล่ขึ้นไป อันที่จริงก็แนวเดียวกับกล่องขนมเค้กหลายชั้นของสมัยปัจจุบัน ด้านล่างเป็นถาดกลมทั้งนั้น จากนั้นก็ปิดรอบๆ ไล่ขึ้นไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...