ไปจวนกั๋วกงครั้งนี้ เฉียนหมี่โซ่วได้ของขวัญมาหลายชิ้น
ชิ้นแรกย่อมมาจากลู่พั่น นั่นคือ หน้าไม้
ซุ่นจื่อเห็นคุณชายให้ของสิ่งนี้ก็รู้สึกประหลาดใจมาก แอบพูดอยู่ข้างๆ ไม่หยุด แน่นอนว่าพูดในใจ เขามีสิทธิ์เอ่ยปากที่ไหนกัน
เฉียนหมี่โซ่วเอ๋ยเฉียนหมี่โซ่ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าหน้าไม้อันนี้เป็นของใคร
นี่เป็นของที่ ‘พี่แม่ทัพเล็ก’ ตรงหน้าเจ้าพกติดตัวสมัยเด็กๆ
และยังเป็นหน้าไม้ที่นายท่านกั๋วกงทำให้คุณชายด้วยตัวเอง คล้องให้คุณชายตอนหกขวบด้วยตัวเอง
เจ้าเจ๋งยิ่งกว่า ห้าขวบก็ได้หน้าไม้อันนี้แล้ว นับจากนี้ไปใครกล้าหือก็จัดการสอยได้เลย
ลู่พั่นให้ของสิ่งนี้แก่เฉียนหมี่โซ่วเพราะคิดว่าเด็กผู้ชายต้องมีจิตวิญญาณของนักสู้ ยิ่งไปกว่านั้นเฉียนหมี่โซ่วได้ขอร้องไว้มิใช่หรือ ในใจมีความฝันอยู่อย่างหนึ่ง อยากเรียนวิทยายุทธ์กับเขา
สองมือของลู่พั่นจับบ่าน้อยๆ ของเฉียนหมี่โซ่ว
“วันข้างหน้า ข้าต้องการให้เจ้าเก่งทั้งบุ๋นและบู๊”
คำพูดนี้เล่นเอาซุ่นจื่อที่อยู่ข้างๆ ต้องเน้นย้ำ แอบพูดในใจไม่หยุด
ได้ยินหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ยินก็รีบมาฟัง ประเด็นสำคัญคือ ‘ข้าต้องการให้เจ้า’
ไอ๊หยาเจ้าหนู เจ้าเข้าใจคำพูดของคุณชายที่ว่า ‘ข้าต้องการให้เจ้า’ หรือเปล่า ขอเพียงแต่เจ้าไม่ทำตัวเกเร เขาก็จะปกป้องเจ้าไปตลอด เจ้ากลายเป็นคนกันเองของเขาแล้วนะ วันข้างหน้า ในอนาคต เขาจะผลักดันเจ้า
เด็กคนนี้ เด็กคนนี้วาสนาดีเหลือเกิน
แต่จะว่าไป พูดแค่ว่าวาสนาดีไม่ได้ ต้องบอกว่าเฉียนหมี่โซ่วฉลาดจริงๆ ขนาดเขายังชอบมอง มองเท่าไรก็ไม่เบื่อ สุดท้ายซุ่นจื่อพูดเสริมในใจ
ของชิ้นที่สองและสามที่เฉียนหมี่โซ่วได้รับ ได้ตอนถูกเรียกให้ไปพบท่านย่าและมารดาของลู่พั่นก่อนกลับ
ภายในหอหน่วนเก๋อเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เจือด้วยเสียงเด็กน้อยทำความเคารพ รวมไปถึงเสียงตอบเวลาที่ถูกถามและตั้งคำถาม
ท่านย่าของลู่พั่นมองกล่องที่ซุ่นจื่อถือด้วยสองมือ นางอดพูดไม่ได้
เพราะแค่นางเห็นกล่องก็รู้ว่าหลานชายมอบหน้าไม้ที่พกพาสมัยเด็กๆ ให้เด็กตรงหน้าคนนี้แล้ว กล่องใบนั้นนายท่านกั๋วกงยังได้สลักด้วยตัวเองอีกด้วย
พอเห็นของสิ่งนี้ก็ราวกับเห็นหลานชายหมินรุ่ยตอนหกขวบปรากฏตรงหน้า จากนั้นก็มองเฉียนหมี่โซ่วที่คุกเข่าอยู่ ท่านย่าของลู่พั่นยิ้มอย่างอ่อนโยนยิ่งกว่าเดิม
เรียกหมี่โซ่วเข้าไปใกล้ นางบอกว่าต้องการดูให้ชัดๆ
จากนั้นก็ไม่ได้ให้ของเล็กๆ น้อยๆ อย่างลูกปลาทองอย่างที่เคยให้เด็กๆ ในจวนเวลามาน้อมทักทาย แต่กลับให้เป็นสร้อยทอง
และเรื่องที่ทำให้ทุกคนตกใจยิ่งกว่าคือ เหล่าฮูหยินคล้องสร้อยให้หมี่โซ่วด้วยตัวเอง
ผู้อาวุโสมอบให้ อวยพรให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข
ซุ่นจื่อมองภาพตรงหน้าก็พูดในใจอีกรอบ
เจ้าหนูเอ๋ยเจ้าหนู เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครที่ให้สร้อยทองกับเจ้า
เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลายคนที่อยู่ข้างนอก มีฮูหยินตระกูลสูงศักดิ์ตั้งเท่าไรที่อยากให้เหล่าฮูหยินเอาสร้อยทองคล้องให้ลูกๆ ของพวกเขา เหล่าฮูหยินทำเช่นนี้ มีคนตั้งเท่าไรที่อิจฉา
นี่ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสให้ของผู้น้อยธรรมดาๆ ไม่ใช่คนทั่วไปอวยพรให้ชีวิตเจ้าร่มเย็นเป็นสุขนะ เฉียนหมี่โซ่ว
ส่วนมารดาของลู่พั่นมอบ ‘ปี่ติ้งหรูอี้’ ให้เฉียนหมี่โซ่ว
หล่อทองเป็นรูปอักษรหรูอี้ ด้านบนมีพู่กันทองหนึ่งด้าม เพื่อให้พ้องเสียงกับคำว่า ‘ต้องสมปรารถนา’
มารดาของลู่พั่นเองก็อดเอ่ยไม่ได้เช่นกันตอนที่เห็นลู่พั่นมอบหน้าไม้ที่พกพาตอนเด็กให้เฉียนหมี่โซ่ว
ทว่านางไม่ได้เหมือนแม่สามีที่พูดเรื่องวันเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นางฟังหมี่โซ่วเล่า ลู่พั่นกำชับด้วยตัวเองว่าหน้าไม้อันนี้เป็นอาวุธที่มีพลังทำลายล้าง
เนื่องจากตอนนั้นพ่อสามีทำให้บุตรชายของนางโดยเฉพาะ ดังนั้นหน้าไม้อันนี้ แค่ใส่ลูกดอกเข้าไปแล้วกดปุ่มมันก็จะพุ่งออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...