ทะลุมิติทั้งครอบครัว นิยาย บท 38

สรุปบท ตอนที่ 38 เรื่องของซ่งฝูเซิง: ทะลุมิติทั้งครอบครัว

ตอนที่ 38 เรื่องของซ่งฝูเซิง – ตอนที่ต้องอ่านของ ทะลุมิติทั้งครอบครัว

ตอนนี้ของ ทะลุมิติทั้งครอบครัว โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายจีนโบราณทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 38 เรื่องของซ่งฝูเซิง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ทะลุมิติทั้งครอบครัว ตอนที่ 38 เรื่องของซ่งฝูเซิง
ตอนที่ 38 เรื่องของซ่งฝูเซิง

เฉียนเพ่ยอิงจูงซ่งฝูหลิง ซ่งฝูหลิงจูงเฉียนหมี่โซ่ว พวกเขาทั้งสามคนอยู่ท้ายขบวนด้านหลัง โดยอยู่ด้านหลังซ่งหลี่เจิ้งกับซ่งฝูเซิงอีกที

หนึ่งคือ ต้องการเดินช้าๆ เพราะถ้าบนภูเขามีเหตุการณ์ผิดปกติ พวกนางเดินช้าๆ จะได้สามารถหันหน้าวิ่งหนีออกไปก่อนได้

สองคือ เพราะซ่งฝูหลิงดึงเฉียนเพ่ยอิง นางดึงกระโปรงของแม่ที่สวมอยู่จนขาด

มันถูกฉีกกว้างถึงยี่สิบเซนติเมตรและยาวประมาณเมตรกว่า ด้านหนึ่งรอยฉีกเรียบ แต่อีกด้านถูกฉีกรุ่ยจนเป็นเชือกผ้าสองเส้น

ตอนนี้กระโปรงสีฟ้าหายไปในพริบตา ทำให้เห็นกางเกงออกกำลังกายสีดำของเฉียนเพ่ยอิง

ซ่งฝูหลิงนั่งยองๆ ตรงหน้านาง ใช้เชือกผ้าที่ฉีกมาจากกระโปรงมาพันขาเฉียนเพ่ยอิงให้เป็นชั้นทั้งสองข้าง

พันแบบไหนกันน่ะ เฉียนเพ่ยอิงคิด นี่เป็นการแต่งกายเหมือนกองกำลังทหารสู้รบในอดีตสองหมื่นห้าพันลี้ฉังเจิง

ซ่งฝูหลิงพันไปก็ถามแม่ของนางไปด้วย “แน่นไหม?”

“ไม่แน่น”

“หลวมไหม?”

“พอได้อยู่”

ซ่งฝูหลิงปาดเหงื่อบนหน้าผาก “ท่านลองเดินสองก้าว ดูสิว่างอขาได้ไหม ถ้าแน่นเกินไปจะเดินไม่สะดวก หลวมไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพื่อป้องกันเส้นเลือดขอด มัดขาไว้แบบนี้ เวลาเดินนานๆ ก็จะได้ไม่ปวดเมื่อย ต่อไปท่านก็พันแบบนี้ให้พ่อของข้า”

เฉียนเพ่ยอิงเดินไปสองเก้า “ได้ กำลังพอดี เจ้ารีบลุกขึ้นมา ข้าจะพันให้เจ้าและปิดช่องรองเท้า พวกมดและแมลงต่างๆ จะได้ไม่ไต่กางเกงคลานเข้าไปดูดเลือดเจ้า”

เฉียนหมี่โซ่วฟังแล้วเกิดความไม่สบายใจ โดยเฉพาะท่านย่าหม่าที่ด่าพวกเขาอยู่ด้านหน้าว่าชักช้าอืดอาด เขาใช้มือเล็กสอดผสานเข้ากับมือของซ่งฝูหลิงและเงยหน้าพูด “พี่สาว รีบหาเวลาพันให้ข้าด้วยนะ”

“สบายใจได้ ข้าไม่มีทางลืมเจ้าแน่นอน”

เฉียนเพ่ยอิงก็พูดออกมา “เจ้าทำไมไม่เตือนข้าก่อน”

สักพักก็ให้ลูกสะใภ้คนโตรีบนำเสื่อกับสัมภาระไป สักพักก็ด่าทอลูกสะใภ้คนรองว่ามัวมองอะไรอยู่ นางเอ็ดลูกสาวสองคนที่มัวคลำหาอะไรไม่รู้ ให้รีบไปเก็บหญ้าแห้งมา นางร้อนรนจนด่าบุตรสาวของตนเอง ด่าว่าไม่มีลูกกะตา ไม่รู้จักมองหาของ ต้องคอยดูอย่าให้คนอื่นหยิบฉวยสิ่งของไป

ยุ่งวุ่นวายกับการบ่นพึมพำ ในสายตาของซ่งฝูหลิง ท่าทางท่านย่าของนางดูเหมือนคนที่ชอบแย่งชิงที่นอนบนรถไฟในยุคปัจจุบันก็ไม่ปาน

แต่ทำไมซ่งฝูหลิงกับเฉียนเพ่ยอิงถึงไม่โดนด่า เพราะข้างกายพวกเธอมีซ่งฝูเซิงซึ่งเปรียบเสมือน “ป้ายทองอภัยโทษ” นั่นเอง

ซ่งฝูเซิงเริ่มการอบรมกับภรรยาและบุตรสาว “ข้าขอบอกพวกเจ้าไว้ อยู่ในถ้ำ ถ้าง่วงก็นอนพักสักครู่หนึ่ง รอให้พวกเขากางเต็นท์เสร็จแล้วพวกเจ้าก็รีบเข้าไปอยู่ข้างในเต็นท์ ปูแผ่นกันความชื้นของพวกเราไว้ด้านล่าง หลังจากนั้นก็นอนเสีย ข้าจะคอยเฝ้าพวกเจ้าเอง”

“ไปอยู่ในถ้ำไม่ได้หรือ?”

“ตอนข้าเข้าไป ข้ารู้สึกแปลกๆ กระดูกสันหลังเย็นวาบจนขนลุก เจ้าดูกำแพงหินพวกนั้นสิ ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าไปและยังมีตะไคร่น้ำขึ้นปกคลุม ด้านในก็มืดมิด หากนอนเป็นแถวเรียงกันแล้วเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้ากับแม่เจ้าสองคนอยู่ตรงไหน มิเช่นนั้นข้าอาจจะเข้าไปช่วยผิดคน ข้าไม่วางใจ ทนเอาหน่อย เถียนสี่ฟามีฝีมือดีในการทำเต็นท์ รอสักครู่หนึ่งก็เสร็จแล้ว”

Related

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว