ตอนที่ 81 ภัยแล้ง
มองออกไปไม่ไกลราวร้อยเมตร มีรถม้าจอดอยู่ริมทาง
รถม้าคันนี้ ตอนที่ซ่งฝูเซิงยังไม่ได้ออกเดินทาง พวกเขาได้ปีนขึ้นบนเนินดินใช้กล้องส่องทางไกลส่องมอง
เพราะตั้งแต่เริ่มหลบหนีลี้ภัยมาจนถึงตอนนี้ ก็ไม่พบเห็นรถม้าบนถนนอีกเลย ดังนั้นจึงจับตามองมันเป็นพิเศษอยู่หลายครั้ง
แต่ที่เกาเถี่ยโถวถามมามันก็ใช่ พวกเขาทั้งต้มน้ำทั้งทำอาหารและยังใช้เวลาในการเดินทางมา โดยรวมแล้วเสียเวลาไปมาก แต่รถม้าคันนี้กลับไม่เคลื่อนไหวไปไหนเลย คนพวกนี้ไม่รีบร้อนเดินทางหรอกหรือ?
เมื่อพวกซ่งฝูเซิงเดินเข้าไปใกล้อีกนิด โอ้ สวรรค์ พวกผู้ชายที่อยู่แถวหน้าหลายคนถึงกับหน้าถอดสี
รถม้าอะไรกัน ม้าที่ลากรถนอนหมอบตายไปแล้ว มิน่าถึงไม่กระดุกกระดิก
คนสี่คนที่อยู่ในรถม้า ทั้งคนแก่และเด็กก็ตายกันหมดแล้ว เด็กอายุแค่ขวบกว่า สภาพอากาศร้อนแบบนี้ทำให้เน่าเปื่อย มีกลิ่นเหม็นโชยปะทะหน้าเข้ามา
ซ่งฝูเซิงใช้มือปิดจมูก มีความรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เขาหันหน้าไปกำชับภรรยากับบุตรสาว “สวมหน้ากาก หาที่ปิดจมูก หาอะไรก็ได้ที่สามารถปิดจมูกได้ หมี่โซ่ว ใช้ผ้าขนหนูคลุมไว้ ถ้าข้าไม่ได้เรียก เจ้าไม่ต้องออกมา” หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าตะโกนบอกทุกคน “รีบหาสิ่งของมาปิดจมูกไว้เร็ว!”
แต่ละคนก็บอกต่อๆ กันไป ไม่คิดว่าคำแนะนำของซ่งฝูหลิงก่อนออกเดินทางจะสามารถนำออกมาใช้ประโยชน์ได้ในตอนนี้
คนที่อยู่ด้านหลัง ถึงแม้จะไม่ค่อยรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก แต่ก็รับผ้าคลุมหัวที่ตัดเย็บเสร็จเรียบร้อยจากภรรยาของพวกเขามาคลุมหัวตัวเองและคลุมให้เด็กเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด
มีคนใจกล้าเสนอบางอย่างกับซ่งฝูเซิง “รถม้าของพวกเขาเป็นไม้เกวียนอย่างดี พวกเราทิ้งพวกเขาไว้ แล้วนำรถม้ามาใช้เถอะ มันบรรทุกของได้เยอะเลยนะ”
ซ่งฝูเซิงร้องบอก “เจ้าเลิกล้มความคิดนี้เสียเถอะ…
…ดูไม่มีบาดแผลอะไรเลย แต่ทั้งม้าทั้งคนเสียชีวิต เจ้ารู้ว่าพวกเขาตายอย่างไรหรือ? ขอบอกพวกเจ้าไว้ก่อน ทั้งหมดนี้ห้ามแตะต้องเป็นอันขาด”
จากนั้นหันไปตะโกนสั่งการต้าถังเกอ “ส่งสัญญาณให้พวกเขาเร่งเดินผ่านเส้นทางนี้ไปให้เร็วที่สุด”
พวกหญิงสูงวัยที่อยู่ในรถต่างก็ตะโกนออกมา “ช้าหน่อยๆ วิ่งช้าๆ หน่อย น้ำกระฉอกออกมาหมดแล้ว”
เดินทางไปข้างหน้าอีกหลายลี้ พวกผู้หญิงที่โต้เถียงกับซ่งฝูเซิงก่อนออกเดินทางเพราะไม่อยากทิ้งสัมภาระ ตอนนี้พวกนางก็รู้สึกหวาดกลัว
เพราะยิ่งเดินทางไปข้างหน้า หญ้าข้างทางก็ยิ่งแห้งเหี่ยว
ยิ่งเดินไปข้างหน้า ยิ่งร้อนอบอ้าว ยิ่งเจอแต่คนตาย
ตอนแรกใช้กล้องส่องทางไกลส่องดู มองเห็นเป็นรูปร่างคน นั่นไม่ใช่ว่าพวกเขากำลังนอนพักผ่อน หากแต่เป็นร่างของผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่ไร้ลมหายใจ
ส่วนสิบกว่าคนที่เหลือที่ยังมีลมหายใจอยู่นั้น พวกเขานั่งอยู่ในวงล้อมที่มีแต่คนตาย พวกเขากำลังถอนหญ้า ขุดดินยัดใส่ปากกิน เพื่อหาน้ำที่อยู่ในหญ้ากับดินโคลนเหล่านั้น
มีหญิงชราคนหนึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ริมถนน ทุกคนต่างคิดว่านางเสียชีวิตแล้ว จึงหลีกเลี่ยงไม่ไปเตะหรือเหยียบโดน พวกเขาเดินอ้อมร่างของนางผ่านไป ถือว่าเป็นการให้เกียรติผู้เสียชีวิตอย่างหนึ่ง
ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณยายท่านนั้นจะมีลมหายใจเฮือกสุดท้าย ทันใดนั้นเอง นางใช้แรงสุดท้ายที่มีทั้งหมดจับขาซ่งฝูหลิง “ขอน้ำ ขอน้ำหน่อย!” ตะโกนประโยคเสร็จนี้ก็สิ้นใจ
ซ่งฝูหลิงตกใจจนตะโกนร้องออกมา พอดีกับที่ซ่งฝูไฉอยู่บริเวณใกล้เคียง เขาไม่สนใจรถเข็นน้ำ รีบส่งต่อคันบังคับรถให้กับบุตรชายคนโตแล้วรีบเดินไป ก่อนถีบเข้าไปสองที มือคุณยายที่จับข้อเท้าซ่งฝูหลิงไว้แน่นถึงได้หลุดอออก
เมื่อเห็นหลานสาวตัวสั่น ซ่งฝูไฉก็รีบดึงซ่งฝูหลิงมาอยู่ข้างกาย “พั่งยา เป็นอย่างไรบ้าง?”
ส่วนซ่งฝูเซิงเป็นกังวลมาก เขาวิ่งมาทั้งที่แบกเฉียนหมี่โซ่วอยู่ในตะกร้า “ลูกสาว ลูกสาว? ไม่เป็นไรนะ พ่ออยู่นี่นะ เจ้าไม่ต้องกลัวแล้ว”
เฉียนหมี่โซ่วที่อยู่ในตะกร้าก็รีบยื่นมือเล็กๆ ออกมา “พี่สาว ไม่ต้องกลัว ข้าเป่าให้ท่านเอง”
เฉียนเพ่ยอิงที่สวมผ้าปิดปากเกาะอยู่ตรงขอบหน้าต่างรถลากก็ร้อนใจจนน้ำตาจะไหลออกมา “ฝูหลิง เจ้าขึ้นมาบนรถเร็ว ข้าจะลงไปเอง เร็วสิ!
ตอนที่ 82 มีแฟนคลับแล้ว
ภายใต้หน้ากาก ซ่งฝูหลิงน้ำตาไหลพราก ร้องไห้จนน้ำมูกไหลออกมา
นี่มันเป็นการทะลุมิติบ้าบออะไรกันเนี่ย
ดวงซวยแท้ๆ
ครอบครัวของนางสามคนก็ไม่เคยทำเรื่องชั่วช้าอะไร เพราะเหตุใดถึงทำให้พวกเขาต้องมาประสบพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติทั้งครอบครัว
น่าสนุกจัง...