ทัณฑ์นางโลม นิยาย บท 22

“ติ๊ด ติ๊ด”

“ฮัลโหล...ธัญญ์ครับ”

“ธัญญ์ คุณอยู่ที่ไหนคะ” เสียงที่ส่งผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ทำให้คนรับชะงัก ปากหนาเม้มแน่น

“คุณสุ...มีธุระอะไร”

“ทำไมพูดไร้เยื่อใยขนาดนั้นคะ...สุคิดถึงคุณรู้ไหม” น้ำเสียงหวานจนเลี่ยนยังคงออดอ้อน ชายหนุ่มเบ้ปากอย่างสมเพช คนโทรมา

“ว่าธุระของคุณมา ก่อนที่ผมจะวางสาย”

“สุบอกแล้วไงคะ ว่าสุคิดถึงคุณ”

“ไร้สาระน่า”

“มาหาสุได้ไหมคะ...นะคะ แค่ได้เห็นหน้าคุณก็ยังดี” คิ้วหนาขมวดชนกันราวกับเจอปัญหาหนักใจ

“เสร็จแล้วค่ะคุณธัญญ์” พิยะตาส่งเสียงใสก่อนที่ตัวจะพ้นประตูหนา ทำให้คนหนุ่มถือโอกาสตัดสายสุรัตนาทิ้ง

“โฮ นี่คุณแต่งตัวช้ามาก ผมชวนไปดูหนังนะไม่ได้ไปออกเดท”

“แล้วสวยไหมล่ะ” พิยะตาเดินเข้ามาใกล้ร่างกำยำแล้วเกี่ยวแขนเขาแกลมหยอกล้อ

“สวยครับ”

“เต็มใจตอบหรือเปล่าเนี่ย”

“อ้าว ผมไม่โกหกคุณหรอกน่า”

“งั้นเมื่อกี้คุยโทรศัพท์กับใครคะ” สายตาที่ตกใจหันมองเรียวหน้าสวย แต่เธอกับยิ้มร่าเริง

“ว่าไงคะ...คุณธัญญ์เพิ่งบอกว่าไม่โกหกพิตต้า แล้วทำไมเงียบไป”

“ครับ...ผมคุยกับเพื่อนเก่า” หญิงสาวหุบยิ้มลง เพื่อนเก่าที่เขาเอ่ยถึงคงไม่ใช่เพื่อนชายเป็นแน่ เพราะเขารีบวางสายเมื่อเธอเข้ามา แต่ร่างบางก็ต้องทำเป็นไม่ใส่ใจ

“รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวจะอดดูหนัง”

“โอเคเลย...วันนี้ได้ควงคนสวย หนุ่มๆ คงอิจฉาผมแน่”

“เวอร์ไป”

“จริงๆ เหมือนได้ควงแพนเค้กเลยนะเนี่ย”

“แพนเค้กเหรอ งั้นพิตต้าก็สวยมากสินะ คริคริ” หญิงสาวทำท่าทางเดินล่องลอยชวนฝัน เมื่อชายหนุ่มเยินยอในความสวยของเธอ คนที่เดินตามหลังก็เอาแต่ขำขันแล้วรีบเดินตามไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวขึ้นไปนั่ง

รถยนต์คันงามแล่นออกจากคฤหาสน์สินสาโรจน์เกือบชั่วโมงแล้ว การจราจรบนท้องถนนไม่เอื้อต่อการเดินทางเลย เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ความเงียบครอบงำในรถตั้งแต่ทั้งคู่ก้าวเข้าไปนั่ง พิยะตารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มเงียบงันขนาดนี้ จนทำให้เธออึดอัด สายตาสาวแอบชำเลืองมองเขาเป็นระยะ บ่อยครั้งที่เธอเผยอปากจะเอ่ยถามแต่ความกังวลก็รั้งไว้เสมอมันยิ่งทำให้หญิงสาวอึดอัดใจจนต้องสลัดความคิดทุกอย่างเพื่อจะถามให้หายข้องใจ

“นี่คุณ...จะพาไปดูหนังหรือไปนั่งสมาธิกันแน่ เงียบเสียจนพิตต้าจะหลับอยู่แล้ว”

“...” คนถูกถามนิ่งเงียบราวกับไม่ได้ยินที่เธอพูด หญิงสาวเม้มปากอย่างขัดใจ

“คุณธัญญ์...คุณเป็นอะไรคะ” คราวนี้เธอเพิ่มน้ำหนักเสียงมากกว่าเดิม จนชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย

“อะ เอ่อ ก็ไม่รู้จะคุยอะไร”

“งั้นเหรอ...ที่บาร์เป็นยังไงบ้างล่ะ ไม่ได้เข้าไปสองวันแล้ว”

“ไม่มีอะไร ช่างกำลังติดกระจกผนัง แล้วก็ทำเพดานใหม่”

“เลือกสีที่พิตต้าชอบหรือเปล่าคะ”

“คงต้องเอาตามนั้น”

“แหม ไม่เต็มใจจะเปลี่ยนก็ได้” หญิงสาวน้อยใจที่เขาไม่สนใจเธอเลย

“งานใกล้จะเสร็จแล้วจะเปลี่ยนได้ยังไง” นี่ไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากจะบอกเธอ ชายหนุ่มนึกตำหนิตัวเองที่ไม่พูดออกไปว่าเขาเต็มทำตามที่หญิงสาวต้องการ

“ของที่สั่งจะมาเมื่อไหร่”

“เรือขนส่งจะเข้าเทียบท่า อีกสองอาทิตย์”

“พิตต้าอยากไปดูของด้วยตัวเองค่ะ”

“อย่าไปเลยงานนี้มันหน้าที่ผม แล้วมันก็ไม่เหมาะกับคุณหรอก”

“พิตต้าไม่ได้บอบบางขนาดนั้นนะ” น้ำเสียงปนความน้อยของหญิงสาว เรียกร้องให้คนขับหันมามองใบหน้าบึ้งตึง เรียวหน้าสาวตอนนี้ช่างน่าเข้าไปสัมผัสเสียจริง ยิ่งเธอสะบัดหน้าหนีเขาก็ยิ่งหน้าขำ ความสดใสน่ารักแบบนี้ที่ชายหนุ่มตราตรึงไว้ในหัวใจตลอดเวลา ส่วนใจดวงเล็กกลับเสียใจเธอคิดไปต่างๆนานาไม่รู้ว่าเสียงหยอกเหย้าขบขันของเขาหายไปไหน หรือเขาจะกลับไปอยู่โหมดอารมณ์เดิม คงจะกลายเป็นนายธัญญ์ปากร้ายที่ชอบดูถูกผู้หญิงอีกแล้ว แค่คิดหญิงสาวก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอต้องรีบเบือนหน้าไม่ให้เขาเห็น

“อืม ผมรู้แล้วครับ” น้ำเสียงที่นิ่งเรียบราวกับฝืนพูดคุยของเขาทำให้หญิงสาวอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เธอคิดไปต่างๆ นานา ว่เขาแสร้งทำดีด้วยเพื่อหวังอะไรบางอย่างแน่ๆ แต่อีกใจก็คิดว่าเขามีเรื่องกังวลถึงได้ดูเหม่อลอยขนาดนี้ หญิงสาวลอบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายสถานะการณ์ที่เป็นอยู่

ถ้าไม่อยากไปดูหนัง...ก็ให้พิตต้าลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ”

“เอ่อ มะ ไม่ใช่นะ ผมเป็นคนชวนคุณเองนี่นาจะทำแบบนั้นได้ยังไง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม