ตึกสูงระฟ้าตรงหน้าทำให้ปรางค์รวีต้องรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากยิ่งขึ้น อีกสิบห้านาทีเธอจะต้องเข้าไปรายงานตัวกับแผนกบุคคล เป็นนักศึกษาฝึกงานคนแรกของบริษัททีทีอาร์ กรุ๊ป เธอถูกคัดเลือกจากหนึ่งในร้อยของนักศึกษาที่ยื่นความจำนงขอฝึกงานด้วย
“ทำไมมาช้าจังยัยปรางค์ นี่ได้เวลาแล้วนะ” ภัทราหันมาต่อว่าเพื่อนสนิท ที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในตัวอาคาร
“รถติดมากเลย นี่ก็รีบสุดๆ แล้วนะ” ปรางค์รวีพูดเสียงปนเหนื่อยหอบ
“ไปเถอะ กว่าจะรอลิฟต์อีกเดี๋ยวสายกันพอดี”
ภัทราบ่นอุบ วันนี้ทั้งสองสาวต้องมารายงานตัวเป็นนักศึกษาฝึกงานที่นี่ หากแต่คนละบริษัท ภัทราฝึกงานในบริษัทประกันชีวิต ที่เช่าสำนักงานในอาคารแห่งนี้ ส่วนปรางค์รวีโชคดีได้ฝึกงานกับบริษัทเจ้าของตึก เพื่อนรักทั้งสองจึงนัดหมายเจอกันที่นี่
สองสาวยืนรอลิฟต์อยู่เกือบห้านาที หากแต่ลิฟต์ยังไม่เดินทางมาถึงชั้นล่าง ปรางค์รวีก้มมองดูนาฬิกาข้อมือหลายครั้ง ด้วยความกระวนกระวายใจ เหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้นก้จะถึงเวลานัดหมายเข้ารายงานตัว เวลาที่เหลือน้อยนิด เธอจึงภาวนาขอให้ลิฟต์มาจอดถึงชั้นล่างเร็วๆ
ขณะเดียวกันประธานหนุ่มไฟแรงของบริษัททีทีอาร์ กรุ๊ป บุรุษที่มากด้วยเสน่ห์และเจ้าชู้อย่างร้ายกาจ เดินมายังลิฟต์โดยสารของอาคาร โดยมีลูกน้องคนสนิทที่เป็นทั้งคนไทยและอิตาลี เดินขนาบเจ้านายหนุ่ม ก่อนที่ทั้งหมดจะมาหยุดยืนหน้าลิฟต์สำหรับเจ้าของบริษัทดังกล่าวใช้งานได้เพียงคนเดียว
รังสรรค์เสียบการ์ดลงไปในช่องหน้าลิฟต์ ก่อนจะกดปุ่มเปิดลิฟต์ เมื่อลิฟต์เปิดออกทั้งหมดก็ก้าวเข้าไปภายใน ในช่วงจังหวะนั้นเอง ภัทราหันมามองทางด้านหลังเมื่อเห็นว่าลิฟต์อีกตัวเปิดอยู่ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ยืนอยู่ภายใน เธอจับข้อมือของเพื่อนสาว ลากเดินเข้าไปในลิฟต์ ไม่ทันได้อ่านป้ายที่เขียนว่า “สำหรับผู้บริหารเท่านั้น” คนที่อยู่ภายในลิฟต์จะบอกก็บอกไม่ทัน เพราะประตูลิฟต์ปิดเสียก่อน
“โชคดีนะเนี่ยที่ลิฟต์ตัวนี้มาเสียก่อน ไม่งั้นไม่ทันแน่เลย”
ภัทราบ่นอีกตามเคย เอื้อมมือไปกดปุ่มชั้นที่เธอต้องการ หากแต่ไม่มีตัวเลขชั้นที่เธอต้องการ เพราะมีอยู่สามหมายเลขเท่านั้นคือ 46, 47, 48
“อ้าวแล้วเธอจะไปชั้นที่ยี่สิบสองได้ยังไงล่ะ มันไม่มีหมายเลขชั้นนั้นนี่” ปรางค์รวีเอ่ยถามเพื่อนรัก เมื่อนิ้วเรียวยาวเอื้อมมือไปกดปุ่มหมายเลขชั้นที่ต้องการ แต่ไม่มีหมายเลขชั้นที่ภัทราฝึกงานอยู่
“สงสัยเมื่อกี้รีบร้อนเลยเข้าลิฟต์ผิด ไม่เป็นไร.ถือว่าภัทรมาส่งปรางค์ก็แล้วกัน” ภัทราพูดด้วยรอยยิ้ม ลิฟต์บางอาคารแยกเป็นสัดส่วนชั้นคี่กับชั้นคู่ เธอจึงไม่ติดใจอะไรกับลิฟต์ตัวนี้
ปรางค์รวีมองไปรอบๆ ตัวลิฟต์ บุคคลที่อยู่ในลิฟต์ตัวนี้ดูน่าเกรงขาม แต่ละคนใบหน้านิ่งราวกับเป็นหุ่นยนต์ มีจุดเด่นอยู่คนเดียว ใบหน้าของเขาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล หล่อเหลาผิวขาว เส้นผมของเขาสีน้ำตาลประกายทองถูกจัดแต่งทรงอย่างสวยงาม หนวดเคราขึ้นบางๆ ที่สันแก้มทั้งสองข้าง โดดเด่นมากที่สุดคงเป็นดวงตาสีเขียว
เขาช่างหล่อบาดใจเธอยิ่งนัก หัวใจของปรางค์รวีเต้นรัวเมื่อได้ที่สบสายตาแสนเสน่ห์นั้น เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาล ยิ่งมองยิ่งร้อนวูบวาบ จนเธอต้องเบนหน้าหนีก่อนที่ร่างกายของเธอจะละลาย สติของเธอถูกดึงกลับมาเมื่อเพื่อนสาวเอ่ยถามคำถามบางอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย