บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2
ทว่าก่อนที่จะได้อ้าปากกล่าวคำใด ท้องฟ้าเหนือลานประลอง พลันปรากฏร่างสีเงินมหึมาของราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน ยืนตระหง่านบดบังแสงอาทิตย์ บนหลังของมันมีเด็กหนุ่มรูปโฉมงดงามอย่างร้ายกาจนั่งอยู่ ด้านหลังของเด็กหนุ่มมีองครักษ์ระดับหยวนอิงสามคนคอยคุ้มกัน พร้อมด้วยองครักษ์ระดับเจี๋ยตันขั้นปลายอีกห้านายขี่กระบี่ติดตาม
"องค์ไทจื่อ ฮั่วเฮ่อฉี เชิญพะย่ะค่ะ" เจ้าสำนักกระบี่จันทราประสานมือค้อมเอวเล็กน้อยขณะกล่าวเชิญ
ฮั่วเฮ่อฉีปรายตามองอีกฝ่าย พยักหน้าเล็กน้อยก่อนแวบหายไปจากตรงนั้น และปรากฏกายอยู่บนเฉลียงที่ไม่มีธงสัญลักษณ์
ครั้นเห็นว่าผู้มาใหม่นั่งลงเรียบร้อยเจ้าสำนักกระบี่จันทราจึงกล่าวเปิดงาน
รวี่เยว่นั่งมุมปากกระตุกยิกๆ คาดไม่ถึงว่าพี่ชายคนงามจะมาปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ มิใช่ว่าคนตำหนักเทพอนันต์ ไม่ชอบสุงสิงกับผู้อื่นหรอกหรือ
"แม่นมคิดว่าที่องค์ไท่จื่อมา เพราะคงใกล้ถึงงานประมูลโอสถทิพย์ที่กำลังจะมาถึงเจ้าค่ะคุณหนู ระหว่างรอเลยมาชมการประลองแก้เบื่อก็เป็นได้ คุณหนูยังจำได้หรือไม่เจ้าคะ องค์ไท่จื่อชอบอะไรตัวเล็กๆ จำพวกนี้"
คนฟังกล่าวเสียง อ้อออ ออกมายาว นางจำได้แล้ว…อย่าบอกนะว่าพี่ชายคนงามมาที่นี่เพื่อมองหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่จากงานประลอง!!
ในขณะที่รวี่เยว่ยกมือเล็กกุมขมับเมื่อนึกถึงฮั่วเฮ่อฉี เสียงกระซิบกระซาบของหญิงสาวหลายคนบนอัฒจันทร์เริ่มดังขึ้น ยามพวกนางได้เห็นรูปโฉมหล่อเหลาทรงเสน่ห์ ราวปีศาจจิ้งจอกขององค์ไท่จื่อแห่งตำหนักเทพอนันต์
พวกนางหลายคนเขินอายจนหน้าแดง บิดผ้าเช็ดหน้าในมือเกือบขาด บางคนคล้ายตกอยู่ในภวังค์ ดวงตาเลื่อนลอยละเมอเพ้อพกออกมาว่า องค์ไท่จื่อรูปงามเหลือเกิน หากได้อุ่นเตียงให้เขาจะดีแค่ไหน พวกนางล้วนลืมสำรวมกิริยาไปจนสิ้น สาวใช้ที่มาด้วยรีบสะกิดเตือนเจ้านายกันให้จ้าละหวั่น
ฮั่วเฮ่อฉีที่ไปยืนชิดขอบเฉลียง ตั้งใจให้ตนเป็นเป้าสายตาของบรรดาหญิงสาว ยกมุมปากอย่างพอใจก่อนหมุนตัวกลับมานั่งกอดอกเอนกายเชิ่ดคางขึ้นเล็กน้อย ท่าทางยโสโอหังจนบุรุษหลายคนบนเฉลียงอื่นๆ เริ่มเกิดอาการหมั่นไส้ตามๆกัน
'ชิ ถือว่ารูปงามเลยชอบโอ้อวดสินะ เจ้าปีศาจจิ้งจอกเอ้ย!'
การประลองผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว ในที่สุดก็มาถึงตาของรวี่เยว่
"ลำดับถัดไป ผู้สมัครรวี่เยว่หมายเลขหกสิบหก ประลองกับศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักกระบี่จันทรา ฝางชุน หมายเลข สิบสอง ทั้งคู่ลงสนามได้" เสียงของผู้ประกาศดังขึ้น รวี่เยว่สวมชุดสีส้มก้าวลงมาจากอัฒจันทร์ ใบหน้าเล็กคลี่ยิ้มกว้างยามเห็นว่าคู่ต่อสู้ของนางคือใคร
"อ๊ะ พี่ชายคนนั้นนั่นเอง น้องสาวคนนี้ฝีมืออ่อนด้อย ขอพี่ชายช่วยออมมือด้วยนะเจ้าคะ" รวี่เยว่กะพริบตาปริบๆ ยกนิ้วชี้สองข้างขึ้นมาจิ้มกัน บิดตัวไปมาเล็กน้อยคล้ายกำลังประหม่า เอ่ยวาจาเว้าวอนเสียงหวาน
เด็กชายปากร้ายเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี เขาเป็นถึงศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักกระบี่จันทรา ระดับพลังอยู่ที่หนิงชี่ตอนปลาย เพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ระดับพลังอยู่ที่หนิงชี่ขั้นกลางจะเอาอะไรมาสู้กับเขา
"ในเมื่อรู้ตัวว่าอ่อนด้อย ก็จงยอมแพ้แล้วรีบไสหัวกลับไปกินนมแม่เสีย เกิดพ่ายแพ้ร้องไห้ขี้มูกโป่งขึ้น จะมาหาว่าข้ารังแกเด็กผู้หญิงไม่ได้นะ ฮ่าๆๆ" ฝางชุนยืนเท้าสะเอวกล่าวถ้อยคำเย้ยหยัน ก่อนปลดปล่อยพลังธาตุไฟของตนเองออกมาข่มขวัญคู่ต่อสู้
แววตาของรวี่เยว่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เด็กชายปากมากคนนี้กล้าเอ่ยถึงมารดาของนาง แบบนี้อภัยให้ไม่ได้!!
"เริ่มต้นการประลองได้!" กรรมการให้สัญญาณเริ่มต้นการประลอง
“วู้ววว สุดยอดไปเลยรวี่เยว่!!!”
สรุปว่ารวี่เยว่ชนะไปแบบ งง งง ร่างเล็กเดินเกาหัวแกรกๆ กลับไปยังที่นั่งของตน
ฮั่วเฮ่อฉี หรี่ตามองร่างเล็กในสนามอย่างสนใจ นางไม่ธรรมดาอย่างที่อี้หรงบอกจริงๆ หากมิใช่เพราะตัวเขามีสายเลือดจิ้งจอกสวรรค์ ซึ่งมีสายตาที่เฉียบคมและว่องไวกว่ามนุษย์ปกติแล้วไซร้ คงมองไม่ทันการเคลื่อนที่ของนางเช่นเดียวกัน
"ยิ่งเห็นแบบนี้ ข้ายิ่งอยากพานางกลับไปด้วยเป็นเท่าทวีคูณ เจ้าคิดว่าอย่างไร อี้หรง"
“…” อี้หรง "นี่ฝ่าบาทยังไม่เลิกล้มความคิด เรื่องที่จะพาเด็กคนนั้นกลับไปดูเล่นอีกหรือ?"
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปาก ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์ จับจ้องร่างเล็กของรวี่เยว่บนอัฒจันทร์สำหรับผู้เข้าแข่งขันไม่วางตา
"นางต้องเป็นข้า"
องครักษ์ระดับหยวนอิงเผยสีหน้าพิกล เหลือบตามองกันอย่างมีเลศนัย
'จอมมารวางแผนลักพาตัวเด็กผู้หญิง! พวกเราต้องรายงานองค์ราชาให้ทราบรึเปล่า?’'

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง