บทที่ 1250 ฉันต้องออกไป – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War
ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1250 ฉันต้องออกไป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ถ้าฆ่าฟางหรูจริงแล้ว เกรงว่าเธอคงโดนบทลงโทษที่ร้ายแรงอย่างมาก
“บอกฉันมา สรุปเป็นใคร ฆ่าลูกชายของฉันแล้ว!”
อู่หยู่หลานฝืนกลั้นความรู้สึกโกรธไว้ในใจ กัดฟันถาม
“หยางเฉิน ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งที่อายุเพียงยี่สิบแปดปีคนหนึ่ง กำลังสู้รบของเขาแกร่งสุดๆ แม้แต่ผมยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาครับ”
ฟางหรูพูดตามความเป็นจริง
“นายพูดอะไร? ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ที่อายุแค่ยี่สิบแปดปีคนหนึ่ง?”
ต่อให้เป็นอู่หยู่หลาน ยังถูกข่าวนี้ทำตื่นตกใจจนถึงขีดสุด “นี่เป็นไปได้อย่างไร? นายแน่ใจนะว่าไม่ใช่เพราะกลัวฉันลงโทษ เลยมาหลอกลวงฉัน?”
ฟางหรูรีบส่ายหน้าทันที “องค์หญิงใหญ่ ผมเป็นคนแบบไหน ท่านยังไม่รู้จักดีเหรอครับ? อีกอย่าง ผมกล้าหลอกลวงท่านเหรอ? ต่อให้ผมกล้าจริง หรือว่าท่านค้นหาความจริงไม่ได้เหรอครับ?”
ฟังฟางหรูพูดมาขนาดนี้ อู่หยู่หลานกลับไม่ลังเลอีกต่อไป ภายใต้ใบหน้าที่โกรธเคือง ยังซ่อนความตื่นตกใจเอาไว้
ถึงแม้อัจฉริยะด้านวิถีบู๊อันดับหนึ่งของราชวงศ์อู่อย่างเธอคนนี้ จนอายุสี่สิบปีถึงก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่ง
ส่วนหยางเฉิน คาดไม่ถึงได้ก้าวสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว และยังล่วงหน้ากว่าเธอตั้งสิบสองปี
พรสวรรค์วิถีบู๊แบบนี้ ถึงแม้เป็นราชวงศ์โบราณทั้งสอง ก็ไม่มีตัวตนอยู่
“เขาเป็นคนของตระกูลบู๊โบราณ?”
ผ่านไปตั้งนาน อู่หยู่หลานถึงถามเสียงแข็ง
นอกจากตระกูลบู๊โบราณที่ไม่เปิดเผยตัวแล้ว เธอก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่ายังมีใครอีกที่สามารถครอบครองพรสวรรค์วิถีบู๊อันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้
ฟางหรูส่ายหน้า “ไม่แน่ใจชั่วคราวครับ แต่เท่าที่ผมรู้มา หกปีก่อน เขายังเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แม้แต่ความสามารถของแดนราชาขั้นต้นยังไม่มีเลยครับ”
“ตั้งแต่หกปีก่อน หลังจากเขาเข้าสู่ชายแดนเหนือของกองยุทธการแห่งจิ่วโจว พรสวรรค์วิถีบู๊ยอดเยี่ยม แสดงออกมาได้น่ามหัศจรรย์”
“เข้าร่วมกองทัพไปห้าปีสั้นๆ เขาก็กลายเป็นจอมพลที่พิทักษ์ชายแดนเหนือแห่งจิ่วโจว หนึ่งปีก่อนออกมาจากชายแดนเหนือ กลับมาใช้ชีวิตปกติครับ”
“นอกจากนี้แล้ว ผมยังค้นมาอีกว่า สถานะของเขามีปัญหาอยู่บ้าง ตั้งแต่เด็กเขาเติบโตมาในตระกูลอวี๋เหวินหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูของจิ่วโจว ผู้นำของตระกูลอวี๋เหวินคือพ่อของเขา แต่ในความเป็นจริง คนคนนี้ ได้แต่ถือว่าเป็นพ่อบุญธรรมของเขาครับ”
“หยางเสว่เยี่ยนแม่แท้ๆ ของหยางเฉิน หลังจากที่ตั้งท้องตอนนั้น ถึงแต่งงานกับอวี๋เหวินเกาหยาง”
“ไม่เพียงแค่นี้ เรื่องราวเกี่ยวกับหยางเสว่เยี่ยนผู้หญิงคนนี้ นอกจากเรื่องหลังจากที่หล่อนปรากฏตัวในเมืองเยี่ยนตูสามารถค้นหาได้ ก่อนหน้านี้ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับหล่อน ล้วนไม่รู้เลยครับ เหมือนปรากฏตัวอยู่ที่เมืองเยี่ยนตูมาเฉยๆ”
สำหรับบิดาแท้จริงของหยางเฉิน สรุปว่าเป็นใคร ยิ่งไม่อาจรู้ได้ครับ”
“แต่ว่า เขาอายุเพียงยี่สิบแปดปี ก็ครอบครองความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ไว้ได้ คงต้องมีสายเลือดเกรียงไกรไร้ที่เปรียบ ผมสงสัยว่า พ่อและแม่ของเขา ล้วนไม่ใช่คนธรรมดาครับ มีความเป็นไปได้มากว่า อาจจะเป็นบุคคลชั่วร้ายของตระกูลบู๊โบราณ”
ฟังพวกนี้ที่ฟางหรูพูดมา ความรู้สึกโกรธบนหน้าของอู่หยู่หลานค่อยๆ เลือนหายไป เพิ่มความเคร่งขรึมมาระดับหนึ่ง
เรื่องราวที่ราชวงศ์อู่ของเธออยากค้นหา โดยพื้นฐานไม่มีอยู่ แต่ว่าตอนนี้ ประวัติเกี่ยวกับพ่อแม่ของหยางเฉิน คาดไม่ถึงก็ค้นไม่เจอ นี่พอจะอธิบายได้แล้วว่ามีปัญหาอยู่ภายในนั้น
“บางที แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ชัดว่า เขาเป็นใครมั้งครับ!”
ฟางหรูพูดเสริมขึ้นอีกประโยคหนึ่งทันใด
เวลาผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า อู่หยู่หลานไม่พูดจามาตลอด ความรู้สึกบนหน้าซับซ้อนอย่างมาก เดี๋ยวโกรธเคือง เดี๋ยวสงบนิ่ง เดี๋ยวก็หงุดหงิดขึ้นมาอีก
ผ่านไปสิบนาทีเต็มๆ อู่หยู่หลานถึงพูดแบบหน้าตาดุร้าย “ไม่ว่าเขาเป็นใคร กล่าฆ่าลูกชายฉัน ฉันจำเป็นต้องแก้แค้นเขาให้สาสม!”
“องค์หญิงใหญ่ครับ คนสูงส่งจะแก้แค้นอีกสิบปีก็ไม่สายครับ ผมแนะนำให้รอไปก่อน รอหลังจากรู้สถานะของหยางเฉินกระจ่างแล้ว ค่อยลงมือก็ยังไม่สายครับ”
ฟางหรูรีบพูดเตือนทันที
ความสามารถของราชวงศ์อู่ ถึงแม้จะห่างไกลจากราชวงศ์ทั้งสี่นั้น แต่เทียบกับตระกูลบู๊โบราณที่แท้จริง ยังด้อยกว่ามาก
ถ้าเกิดหยางเฉินเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับตระกูลบู๊โบราณจริง ราชวงศ์อู่จะยุ่งยากเข้าจริงๆ แล้ว
“หุบปากเดี๋ยวนี้!”
อู่หยู่หลานได้รับคำอนุญาตของกษัตริย์อู่ จึงรีบหมุนตัวออกไปทันที
เธอเพิ่งออกไป ผู้อาวุโสผมหงอกที่สวมชุดจีนโบราณคนหนึ่ง เดินออกมาจากหลังม่าน
“ฝ่าบาท ลูกชายหล่อนตายแล้วครับ!”
ผู้อาวุโสผมหงอกเอ่ยปากพูดขึ้น
กษัตริย์อู่พยักหน้า “ฉันรู้แล้ว!”
“ในเมื่อท่านทราบแล้ว ยังกล้าปล่อยหล่อนเข้าสังคม?”
ผู้อาวุโสผมหงอกทำหน้าขึงขังพูดว่า “ท่านน่าจะรู้ดี อู่หยู่หลานบ้าคลั่งมากแค่ไหน หลายปีมานี้ หล่อนติดตามสถานการณ์ของลูกชายหล่อนมาตลอด ปัจจุบันนี้ลูกชายหล่อนตายแล้ว หล่อนต้องไม่ปล่อยฆาตกรไปแน่”
“ต้วนหวูเหยียนลูกชายหล่อน เดิมคือพระโอรสห้าของราชวงศ์ต้วน ตำแหน่งสูงอำนาจมาก คาดไม่ถึงโดนฆ่าที่ราชวงศ์ต้วน พอจะอธิบายได้ว่า คนที่ฆ่าเขา มีความสามารถและเบื้องหลังแกร่งมากแค่ไหน”
“อู่หยู่หลานออกไปครั้งนี้ ต้องหาความยุ่งยากมาให้ราชวงศ์อู่แน่ ผมได้ยินว่าคนคนนั้นที่ฆ่าต้วนหวูเหยียน เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ที่อายุเพียงยี่สิบแปดปีคนหนึ่ง”
กษัตริย์อู่หน้าไร้อารมณ์ เหมือนว่ารู้ทุกอย่างนี้ดีหมดแล้ว หลังเงียบงันครู่หนึ่ง จึงพูดอย่างทอดถอนใจว่า “ฉันติดค้างหล่อน! ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันจะแบกรับด้วยกันเป็นเพื่อนหล่อน!”
เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าอู่หยู่หลานอยากไปที่ไหน แม้กระทั่งอยากไปทำอะไร เขารู้ดีอย่างยิ่ง
“ฝ่าบาท เรื่องราวตอนนั้น ไม่โทษท่าน ถึงแม้อู่หยู่หลานจะเป็นคนแกร่งสุดมีพรสวรรค์วิถีบู๊ของราชวงศ์อู่ แต่โดยเฉพาะหล่อนเป็นผู้หญิง ส่วนตำแหน่งกษัตริย์ของราชวงศ์อู่ ย่อมสืบทอดโดยผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง
ผู้อาวุโสผมหงอกทำหน้าสงบนิ่งพูดว่า “ไม่ใช่ท่านที่แย่งตำแหน่งกษัตริย์ของหล่อน แต่ว่าตามคำสั่งของบรรพบุรุษ หล่อนไม่มีทางสืบทอดบัลลังก์”
“ใช่!”
ในดวงตาทั้งสองที่ล้ำลึกของกษัตริย์อู่ ยังมีความโศกเศร้าเข้มข้นระดับหนึ่ง “แต่ว่าสุดท้ายยังเป็นฉันที่พาตัวหล่อนกลับมาจากราชวงศ์ต้วน สี่สิบกว่าปีมาแล้ว ความแค้นในใจหล่อนที่มีต่อฉันพี่ชายคนนี้ ไม่เคยเลือนหายไป”
กษัตริย์อู่ คาดไม่ถึงจะเป็นพี่ชายของอู่หยู่หลาน
ผู้อาวุโสผมหงอกถอนหายใจเล็กน้อย ไม่พูดมากอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...