The king of War นิยาย บท 1270

สรุปบท บทที่ 1270 ผ่านการทดสอบ: The king of War

สรุปตอน บทที่ 1270 ผ่านการทดสอบ – จากเรื่อง The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

ตอน บทที่ 1270 ผ่านการทดสอบ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง The king of War โดยนักเขียน เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ได้ยินคำพูดของลู่ชวน ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนต่างมีสีหน้าตะลึงงง พวกหล่อนไม่เคยได้คิดถึงเลย ลู่ชวนจะมีเปิดโอกาสเป็นทางเลือกให้หยางเฉินได้

“ได้ ท่านว่ามา!”

หยางเฉินผงกหัวตอบรับ

“การทดสอบของข้าง่าย ๆ เพียงแต่ให้เจ้าเอาชนะบอดี้การ์ดสองคนของข้า ข้าก็จะให้เจ้าอยู่ที่นี่ได้”

ลู่ชวนพูดยิ้ม ๆ ดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกหยอกเหยื่อ

“คุณพ่อ!”

ลู่ฉิงเสว่ร้อนใจขึ้นมา รีบพูดไปว่า “บอดี้การ์ดของพ่อ นั่นล้วนแต่ยอดฝีมือที่ฝึกมาอย่างดี จะว่ายังไงก็แล้วแต่ ก็ยอดฝีมือระดับแดนราชาขั้นต้น”

“ส่วนพี่เสี่ยวเพิ่งรับบาดเจ็บสาหัสมา ตอนนี้อาการบาดเจ็บก็ยังไม่ได้หายขาด แล้วเขาจะเอาชนะบอดี้การ์ดของท่านได้ยังไง?”

มู่เชียนเชียนก็รีบพูดเสริม “ใช่ ๆ ท่านน้าเขย ท่านไม่ได้คิดจะให้โอกาสพี่เสี่ยวเลยสักหน่อย!”

ลู่ชวนไม่ใส่ใจกับวาจาสองเด็กสาวนั้น สายตาส่องประกายวาวจ้องไปที่หยางเฉิน ถามว่า “ไอ้หนู แกกล้ารับการทดสอบของข้าไหม?”

“ได้ครับ!”

หยางเฉินไม่ปฏิเสธ

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะเอาชนะสองบอดี้การ์ดนั้นได้หรือไม่ แต่ไม่รู้ยังไง ลึก ๆ ในใจของเขา กลับไม่รู้สึกมีอะไรต้องกลัวแม้แต่นิด เขามีความรู้สึกอยู่ว่า แค่สองบอดี้การ์ด มันไม่น่าใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย

“พี่เสี่ยว คุณอย่าไปรับปาก!”

มู่เชียนเชียนร้อนใจขึ้นมาแล้ว รีบออกปากค้าน “บอดี้การ์ดข้างตัวน้าเขย ล้วนเป็นสุดยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งของตระกูลลู่ พวกเขาร่วมมือกันสองคน คุณไม่มีอะไรที่มองเห็นจะเอาชนะพวกเขาได้เลย”

ลู่ฉิงเสว่ก็รีบพูดเสริม “พี่เสี่ยว คุณไม่ต้องไปรับการทดสอบของพ่อฉัน”

พูดจบ หล่อนก็เข้ายืนขวางอยู่หน้าหยางเฉิน ฮึดฮัดพูดไปอย่างโมโหว่า “คุณพ่อ หนูโตแล้วนะคะ รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร”

“หนูรู้นะ ท่านไม่ต้องการให้พี่เสี่ยวอยู่ที่นี่ ถึงได้หาเรื่องให้สองบอดี้การ์ดมือระดับแดนราชาขั้นต้น มาทดสอบพี่เสี่ยว”

“มีหนูอยู่ตรงนี้ จะไม่ให้ใครมาทำร้ายพี่เสี่ยวได้!”

ท่าทีของลู่ฉงเสว่แน่วแน่อย่างที่สุด

หยางเฉินมองเงาหลังฉะอ้อนแอ้นที่ขวางอยู่ข้างหน้า ใจเต็มเปี่ยมด้วยความตื้นตัน

ลู่ชวนก็หยีตามองดูหยางเฉินที่อยู่ข้างหลังลู่ฉิงเสว่ ไม่พูดอะไร เขาก็กำลังอยากดู อยากดูว่าเจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ มันจะมีความกล้าพอที่จะก้าวออกมาไหม

เท็จจริงแล้ว ไม่เพียงแต่ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนมีความเข้าใจแบบนั้น

เขาเองก็ไม่ได้คิดจะไล่หยางเฉินออกไป จึงได้หาเรื่องทดสอบกันแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าเป็นอะไร จากตัวของหยางเฉิน เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาล

ตัวเขาเองก็อยู่ในระดับแดนราชาขั้นต้น ในบ้านตระกูลลู่ ก็จัดว่ามีสถานะภาพทางบูโดที่แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่กลับพบความกดดัน จากเด็กหนุ่มคนหนึ่งคนนี้

ถ้าสิ่งสัมผัสในความรู้สึกนี้ไม่ผิด หยางเฉินอาจจะเป็นผู้นำมาซึ่งความอัศจรรย์ใจแก่เขาได้

“ฉิงเสว่ เมื่อครู่นี้ผมได้รับปากกับคุณลุงท่านแล้ว คุณวางใจเถอะ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน!”

และแล้วในขณะนั้น หยางเฉินก็ก้าวขึ้นหน้าออกมา มองหน้าลู่ฉิงเสว่ พูดไปด้วยสีหน้าจริงจัง

“พี่เสี่ยว คุณจะบ้าไปแล้วเหรอ!”

มู่ฉิงเสว่ยังไม่ทันได้ปริปาก มู่เชียนเชียนก็ร้อนขึ้นมาก่อน “คุณมันยังเป็นคนป่วย จะเอาอะไรไปสู้กับยอดฝีมือระดับสุด ๆ ของตระกูลลู่?ความหมายของท่านน้าเขย เขาจะให้คุณคนเดียว รับมือสู้กับสองผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาขั้นต้นเลยนะ!”

ลู่ฉิงเสว่พูดด้วยตาแดง ๆ “พี่เสี่ยว เชื่อฉันเถอะนะ อย่าไปรับการทดสอบของคุณพ่อ”

หยางเฉินส่ายหน้า พูดด้วยท่าทีเด็ดเดี่ยวว่า “เชื่อผม!”

ไม่รู้ด้วยสาเหตุใด มองเห็นความเด็ดเดี่ยวในสายตาของหยางเฉิน ลู่ฉิงเสว่ให้รู้สึกจำนน หล่อนเม้มขบริมฝีปาก ใช้แววตาที่เปียกชื้นจ้องมองหยางเฉิน

ภายในดวงตาของหยางเฉิน หล่อนมองเห็นความเด็ดเดี่ยว ถึงแม้หล่อนจะพยายามค้านอีก หยางเฉินก็ยังต้องรับปากการทดสอบของลู่ชวน

“คะ คุณต้องระวังให้ดีนะ!”

และลู่ฉิงเสว่ก็ผงกหัวในที่สุด

แต่ในใจยังคิดเตรียมใจไว้ หากแม้นหยางเฉินมีอันตราย หล่อนจะพุ่งเข้าขวางในวินาทีแรกนั้น

และถึงถ้าแพ้ หล่อนก็จะไม่ยอมให้หยางเฉินจากไปเด็ดขาด

“พี่สาว พี่จะบ้าไปแล้วหรือ!”

มู่เชียนเชียนเห็นลู่ฉิงเสว่เห็นด้วย สีหน้าเต็มไปด้วยความฉงน “พี่เสี่ยวคนนี้พวกเราช่วยเขามาเอง ตอนที่พวกเราไปพบเขา เขาบาดเจ็บอยู่อย่างสาหัส พี่จำไม่ได้แล้วหรือ?”

มิฉะนั้นแล้ว คงไม่สามารถเปล่งกระแสกดดันที่น่ากลัวของบูโดออกมาได้ถึงเพียงนี้

พวกเขายังไม่รู้อีกว่า ผลที่ให้เห็นน่ากลัวถึงขนาดนี้ หยางเฉินเพียงปล่อยกระแสพลังบูโดออกมาแค่เล็กน้อย

“ข้ามาละ!”

เสียงของหยางเฉินหลุดออกมา ตัวนั้นหายแวบไปในฉับพลัน

“ปึง!”

“ปึง!”

เสียงดังทุ้มหนักต่อเนื่องกันสองครั้ง ในวินาทีที่ตามมา ปรากฏเป็นตัวของหยางเฉินขึ้นมาอยู่แทนที่จุดที่สองบอดี้การ์ดยืนอยู่ก่อนหน้านี้

ส่วนสองบอดี้การ์ดนั้น ถูกหยางเฉินอัดเข้าเต็มที่ สลบไปในทันที ตัวร่างกระเด็นลอยไปตกอยู่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร

เงียบ!

เงียบสนิทกันเป็นตาย!

ลู่ชวนตาโตเต็มที่ไปทั้งสองข้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความงงฉงนบอกไม่ถูก แต่ในความแตกตื่น ยังระคนปนเต็มไปด้วยความดีใจแทบคลั่ง

ครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นหยางเฉิน ก็ให้รู้สึกถึงความไม่ธรรมดาของหยางเฉิน ตอนนี้ทุกสิ่งได้รับการยืนยัน ณ จุดนี้แล้ว

บอดี้การ์ดข้างตัวเขาสองคนนี้ ต้องจัดอยู่ในชุดที่เก่งฉกาจที่สุดในตระกูลลู่แล้ว แต่แม้กระทั่งจะออกหมัดยังไม่มีโอกาสเลย กลับสลบเหมือดไปคาที่

นี่ไม่ใช่บอกให้รู้ชัดแล้วหรือว่า พลังของหยางเฉินนั้น สูงไกลเกินกว่าระดับแดนราชาขั้นต้นไปอีก?

แต่ว่า ตัวหยางเฉินนี้มองดูอายุไม่น่าเกินยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด

มายังไงกัน ในหนิงโจวจึงได้ปรากฏมีผู้แข็งแกร่งระดับแดนราชาที่อายุน้อย ๆ นี้ขึ้น?

เขายังไม่รู้ถึงพลังแท้จริงของหยางเฉิน แต่เท่าที่เห็นอยู่อย่างน้อยก็ระดับแดนราชาขั้นกลาง หรืออาจจะถึงถึงขั้นปลายแล้ว

ไม่อย่างนั้นแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะสยบสองยอดฝีมือได้ในพริบตา

ลู่ฉิงเสว่กับมู่เชียนเชียนต่างก็ปากอ้าค้าง แววตาเต็มไปด้วยความฉงนคิดไม่ตก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War