ตอน บทที่ 1276 มันก็ต้องทวงคืนสิ จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1276 มันก็ต้องทวงคืนสิ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก หล่อนก็รู้ตัวดี ถึงความไม่เป็นตัวของตัวเองของคนที่อยู่ในตระกูลใหญ่ ฉะนั้นก็คอยแต่เฝ้าคอย หวังให้ได้พบคู่ขวัญที่มีพลังฝีมือสูงส่งในอนาคต
ถ้าเป็นไปได้เช่นนี้แล้ว คนในตระกูลก็ไม่ต้องมาบังคับหล่อนในเรื่องการแต่งงาน
ตั้งแต่ได้มาพบหยางเฉิน สำนึกจิตของหล่อนก็ให้รู้สึก หยางเฉินนี่เองไม่ใช่หรือที่เป็นสามีที่หล่อนเฝ้ารอมาตั้งแต่เด็ก?
คิดมาถึงจุดนี้ ใบหน้าของหล่อนเกิดสีแดงเรื่อขึ้นอย่างหักห้ามไม่ได้
“พี่สาว พี่เป็นอะไรไปหรือ?ทำไมหน้าแดงขึ้นมาคะ?”
มู่เชียนเชียนถามขึ้นมาในทันทีนั้นด้วยความห่วงใยลู่ฉิงเสว่ ทั้งยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง แตะไปที่หน้าผากของลู่ฉิงเสว่ พูดด้วยใจฉงนว่า “ก็ไม่เห็นมีไข้นี่นา!”
“เชียนเชียน ฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย!”
ลู่ฉิงเสว่หน้ายิ่งแดงมากขึ้น ผลักมือของมู่เชียนเชียนออกไปเบา ๆ
ในขณะเดียวกันนั้น จังหวะพอดีที่หยางเฉินมองมาที่หล่อน ตามองตาจ้องสบกันพอดี ลู่ฉิงเสว่ใจตื่นเป็นกวางน้อยที่ตกใจง่าย รีบหันหน้าหลบ มองออกไปนอกหน้าต่างรถ
หยางเฉินก็เป็นงง “ฉิงเสว่ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
มู่เชียนเชียนมอง ๆ หยางเฉิน หันกลับมามองลู่ฉิงเสว่ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความขวยเขิน พลันก็รู้อะไรขึ้นมา “ฉันเข้าใจแล้ว พี่สาวฉันกำลังฝันในเรื่องหวาน ๆ นั่น!”
“เชียนเชียน!”
ลู่ฉิงเสว่อายโกรธขึ้นมาให้เห็นเต็มหน้า ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันให้เห็นดุ ว่าไปว่า “เธอขืนพูดมากอีก เดี๋ยวฉันจะโยนเธอออกไปนอกรถ!”
หน้าของหล่อนตอนนี้ แดงจนสีแทบจะหยด มองยังไม่กล้ามองไปที่หยางเฉิน
เหล่าหวางที่กำลังขับรถอยู่ รู้สึกตื่นใจอยู่เงียบ ๆ ดูทีแล้ว คุณหนูเราคงถูกจิตต้องใจกับคุณเสี่ยวท่านนี้แล้ว
แต่เมื่อคิดไปถึงพลังฝีมือที่หยางเฉินแสดงออกมา ความรู้สึกในใจเหล่าหวางยังยิ่งให้รู้สึกตื่นเต้น ถ้าหากว่าหยางเฉินได้ครองคู่กับลู่ฉิงเสว่ ตระกูลลู่ในภายภาคหลังจากนี้ อนาคตต้องไปไกลไม่เห็นขอบเขตเป็นแน่
ทว่า นอกเหนือจากความดีใจ เหล่าหวางในใจก็ห่วงกังวลอยู่
หยางเฉินเมี่อครู่ที่ผ่านมาไปทำลายหักแขนของหลี่จิ้นทั้งแขน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตระกูลหลี่ต้องเอากันตายแน่
ดูตามกำลังจริงของตระกูลลู่เวลานี้ คิดว่าจะรับมือสู้กับตระกูลหลี่ที่กำลังรุ่งระเบิดนี้ได้หรือ?
หยางเฉินถึงจะเก่งฉกาจมาก อัจริยะภาพด้านบูโดก็ไม่เลว แต่ถึงเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังฝีมือให้เต็มที่ก็คงอยู่ในระดับแดนราชาขั้นกลาง
พลังฝีมือเท่านี้ ไปเทียบกับผู้แข็งแกร่งชั้นสุดยอดของตระกูลหลี่ มองดูแล้วคงไม่พอ!
ถ้าหากให้เวลาหยางเฉินอีกสิบปี ก็เป็นไปได้ที่ตระกูลลู่จะครอบคลุมหนิงโจวได้จริง
แต่ทว่า ตระกูลหลี่จะให้เวลาเขาถึงสิบปีหรือ?
ไม่มีทางอย่างแน่นอน!
ยี่สิบนาทีให้หลัง รถค่อย ๆ แล่นเข้าบ้านตระกูลลู่ เหล่าหวางจึงค่อยรู้สึกโล่งอก ส่งพวกลู่ฉิงเสว่เข้าถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่เขาทำคือรีบเข้าไปหาลู่หยวนทง
“ท่านผู้นำ เมื่อครู่ก่อนหน้านี้.........”
เหล่าหวางลำดับเหตุการณ์ทั้งหมด เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างไม่มีปิดบัง
ทำให้เขารู้สึกแปลกใจมากคือ ฟังเรื่องที่เขาเล่าจนจบแล้ว ลู่หยวนทงไม่เห็นมีทีท่าห่วงกังวลแม้แต่นิดเดียว กลับย้อนพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ถึงเวลาแล้ว เรากับตระกูลหลี่ตัดขาดจากกันได้แล้ว!”
ตั้งแต่หลี่จิ้นได้เห็นหน้าลู่ฉิงเสว่ในครั้งแรกมา เขาก็เริ่มติดตามกวนใจลู่ฉิงเสว่อย่างบ้าคลั่งมาตลอด ตระกูลลู่ก็ไม่กล้าทำอะไรหลี่จิ้งได้ จนถึงกระทั่งถูกบังคับให้ต้องตกลงแต่งงานกับตระกูลหลี่
เรื่องทั้งหมดนี้ สำหรับตระกูลลู่ ถือว่าเป็นการสบประมาท
มาเวลานี้ ในเมื่อลู่หยวนทงได้รู้แล้วว่า พลังฝีมือบูโดของหยางเฉิน เป็นไปได้อย่างมากว่าถึงระดับแดนราชาขั้นสูงสุด แล้วยังมีอะไรต้องไปกลัวตระกูลหลี่อีก?
แน่นอน นี่เป็นเพียงการประเมิน แต่อย่างน้อยก็ประจักษ์ชัดแล้วว่า พลังฝีมือแท้จริงของหยางเฉิน อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับแดนราชาขั้นปลาย
ต่อให้ผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหลี่ อย่างเก่งก็ไม่เกินระดับแดนราชาขั้นปลาย
ถ้าหากตระกูลหลี่มีความคิดจะมาถล่มตระกูลลู่ ลู่หยวนทงก็กล้าพอที่จะลุยด้วยสักตั้ง
“ท่านผู้นำ ถึงแม้คุณเสี่ยวจะมีอัจฉริยภาพด้านบูโดที่เก่งฉกาจมาก แต่ถึงยังไงอายุก็ยังน้อยอยู่ แต่ถ้าให้เวลาเขาอีกระยะหนึ่ง ถึงเวลานั้นต่อให้เป็นตระกูลหลี่ ก็ต้องอยู่ในฐานะแหงนหน้ามองคุณเสี่ยว”
เหล่าหวางก็ยังคงความกังวลอยู่เต็มใบหน้า “ถ้าหากผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของตระกูลหลี่ลงมือเอง คุณเสี่ยวก็คงไม่น่าจะ.........”
เหล่าหวางกำลังจะพูดต่ออยู่ แต่ถูกลู่หยวนทงตัดบท “เหล่าหวาง ตระกูลลู่ของเราซบเซามานานเกินไปแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องลุยแล้ว แกวางใจเถอะ ตระกูลหลี่คิดจะถล่มให้ตระกูลลู่เราให้ย่อยยับนั้น ยังมีความสามารถไม่พอหรอก”
ได้ยินมาแบบนี้ เหล่าหวางก็เลยไม่พูดต่อ ในใจก็ให้รู้สึกตื่นใจอยู่
“เอาละ ข้ารู้แล้ว!”
หลี่ถงเฮ่อผงกหัวรับรู้ โบกมือพูดว่า “แกออกไปได้แล้ว!”
“ครับผม!”
คนรับใช้ถอยออกไป
ภายในอาคารใหญ่ เหลือแต่หลี่ถงเฮ่อคนเดียว นิ่งขรึมอยู่พักใหญ่ เขาก็ก้าวเท้าเดินออกไป
“คุณพ่อ ตระกูลหลี่เกิดมีบูโดอัจฉริยะมาคนหนึ่ง!”
หลี่ถงเฮ่อตามจนพบกับคุณพ่อ ก็คือหลี่ซานผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลหลี่
ไม่รอให้หลี่ซานถาม เขาก็ได้เล่าเรื่องต่าง ๆ ที่คนรับใช้มารายงานให้เขาทั้งหมด เล่าต่ออีกทอดหนึ่ง
หลี่ซานกลับมีอาการเรียบเฉยอย่างมาก ไม่ได้แสดงออกถึงความตระหนกตกตื่นใด ๆ กับอัจฉริยะภาพของหยางเฉิน พูดไปเรียบ ๆ ว่า “มิน่าตระกูลลู่มันถึงได้กล้ายกเลิกเรื่องการเชื่อมดองแต่งงาน เพราะมันมีฐานรองหนุนหลังแบบนี้นี่เอง”
“แต่ว่า เพียงผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายแค่เพียงคนเดียว มันก็คิดว่าจะทานไฟโกรธตระกูลหลี่เราได้แล้วหรือ?”
ได้ยินคำพูดของหลี่ซาน หลี่ถงเฮ่อพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น “คุณพ่อ คุณพ่อหมายถึงว่า พลังฝีมือเจ้าเด็กหนุ่มคนนั้น ไปได้ถึงแดนราชาขั้นปลายแล้วหรือ?”
“ถ้าไม่งั้นหละ?”
หลี่ซานพูดเรียบ ๆ “ตระกูลลู่ใช่ว่าจะไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง การแสดงออกของไอ้เด็กหนุ่มคนนั้น อย่างน้อยบอกได้ว่า พลังฝีมือบูโดของมัน อยู่ในระดับแดนราชาขั้นกลาง”
“ถ้าเพียงมีพลังฝีมือแค่นี้ ตระกูลลู่มีหรือจะกล้ายกเลิกเรื่องงานแต่งงานกับเรา?”
“ฉะนั้นจึงว่า พลังฝีมือไอ้หนุ่มคนนั้น จะต้องไปถึงแดนราชาขั้นสูงสุดอย่างแน่นอนเด็ดขาด!”
ได้ฟังคำพูดของหลี่ซาน หลี่ถงเฮ่อจึงได้เข้าใจอย่างแจ่มชัด ขบเขี้ยวพูดไปอย่างเจ็บแค้นว่า “คิดไม่ถึงเลย ตระกูลหลี่จะไปหาผู้แข็งแกร่งบูโดที่มีอัจฉริยะภาพสูงมาได้ถึงขนาดนี้”
“คุณพ่อครับ แล้วทีนี้พวกเราจะทำยังไงดี? ”
หลี่ถงเฮ่อพูดต่อไปว่า “เจ้าเด็กหนุ่มนั่น มันถึงขนาดเล่นงานหลี่จิ้นจนแขนพิการไปข้างหนึ่ง ถ้าขืนปล่อยให้เรื่องผ่านไป ตระกูลหลี่ของเราคงต้องถูกตระกูลอื่นหัวเราะเยาะเอาเป็นแน่”
“ยังจะทำอะไรได้ มันก็ต้องทวงคืนสิวะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...