เห็นลู่หยวนทงแสดงสีหน้าหวาดกลัว จางโฉงก็ยิ้มอ่อนๆพร้อมพูด:“เสือไม่คำรามออกมา ก็ถูกพวกเจ้าคิดว่าเป็นแมวที่ป่วยซินะ?”
“เป็นแค่ตระกูลลู่ กล้ามาข่มขู่ตระกูลจาง?”
ลู่หยวนทงหน้าขาวซีด ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดทั้งสองคน ก็มีแค่ตระกูลที่อยู่ในระดับสี่ตระกูลใหญ่ในจิ่วโจวเท่านั้น ถึงอาจจะมีได้ไม่ใช่หรือ?
แต่ตอนนี้ กลับปรากฏอยู่ที่ตระกูลจาง คิดดูก็รู้ ความเก่งกาจของตระกูลจาง
จนถึงวินาทีนี้ ลู่หยวนทงถึงเข้าใจ ต่อหน้าตระกูลจาง ตระกูลลู่นับเป็นอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
“ผู้นำตระกูลจาง ขออภัย!”
ลู่หยวนทงก้มหัวลง พูดด้วยความไม่พอใจ
เขารู้ดี ตอนนี้อธิบายอะไรอีก ก็ไร้ความหมาย ต่อหน้าความสามารถที่แท้จริงแบบนี้ ตระกูลลู่ไม่มีโอกาสที่จะชนะเลยแม้แต่น้อย
บางทีการขอโทษ ยังจะพอมีหวังอยู่บ้าง
จางโฉงยิ้มดูถูกแล้วพูดว่า:“ลู่หยวนทง เมื่อครู่เจ้าอวดดีนักไม่ใช่หรือ จะให้ข้ามีมาแต่ไม่มีกลับไม่ใช่หรือ? ตอนนี้รู้จักกลัวแล้วหรือ?”
ลู่หยวนทงตัวก็เริ่มก้มงอลง ดูแล้วเหมือนอยู่ๆก็แก่ลงไปสิบกว่าปี
ที่ข้างเขานั้น ลู่ชวนสีหน้าก็ดูแย่มากเช่นกัน มองเห็นท่าทีของพ่อที่ก้มหัวขอโทษ ตาของเขาก็แดงขึ้นมา มือทั้งสองข้างกำหมัดไว้แน่น
คนของตระกูลลู่ทุกคน ก็รู้สึกเหมือนโลกจะจบสิ้นลง บนหน้ามีแค่ความสิ้นหวัง
“ผู้นำตระกูลจาง ก่อนหน้านี้เสียมารยาทไปเยอะ ก็ขอให้ท่านไม่คิดเล็กคิดน้อยกับข้าน้อย ให้โอกาสตระกูลลู่ด้วย”
ตาทั้งสองของลู่หยวนทงแดงเดือด สายตากวาดไปหาคนของตระกูลลู่ทุกคน แล้วจบลงที่ตัวของจางโฉง:“ผู้นำตระกูลจาง จะตีจะฆ่า ตามใจท่าน แต่ขอร้องท่านปล่อยตระกูลลู่ไปด้วย”
“ข้าเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลลู่ การตัดสินใจทั้งหมดข้าเป็นคนทำเอง มีเรื่องอะไร ท่านมุ่งมาที่ข้าคนเดียว”
เขาเข้าใจดี จางโฉงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่
“ท่านพ่อ!”
ลู่ชวนอารมณ์ตื่นตระหนก ร้องออกมาด้วยตาที่แดง
ณ ตอนนั้น ความชราที่บังอยู่ด้านหน้านั้น ร่างกายที่ค่อมลงเล็กน้อย ทำให้เขาปวดใจยิ่งนัก
บัดนี้ เพื่อวงศ์ตระกูล เขาจะแบกรับทุกอย่างไว้คนเดียว
“ฮึ!”
จางโฉงพูดเบาๆ:“ปล่อยตระกูลลู่ไป รอให้ตระกูลลู่ใหญ่โตขึ้นมา แล้วมาแก้แค้นกับตระกูลจางหรือไง?”
พูดจบ เขาโบกมือออก พูดด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม:“ไม่ให้เหลือไว้แม้แต่คนเดียว ฆ่า!”
คำพูดนี้ออกไป สีหน้าของคนในตระกูลลู่ก็มีความสิ้นหวัง กระบวนทัพแบบนี้ อย่าว่าแต่ตระกูลลู่เลย ถึงแม้จะเป็นตระกูลมหาเศรษฐีในเมืองเยี่ยนตู ก็ไม่สามารถต่อกรได้ไม่ใช่หรือ?
“ข้าจะดูว่าใครกล้า?”
ในเวลาที่คับขันเช่นนี้ มีเสียงตะโกนดังขึ้น
ก็เห็นขบวนรถที่หรูหรายิ่งใหญ่อีกขบวนหนึ่งปรากฏออกมา จากรถหรูแต่ละคัน ก็มีผู้แข็งแกร่งจำนวนหนึ่งเดินออกมา
คนที่ตะโกนเสียงดังเมื่อครู่ เป็นผู้อาวุโสที่เดินลงมาจากรถหรูคันแรก
“หลี่ซาน!”
จางโฉงมองไปยังหลี่ซาน ตาทั้งสองข้างก็หรี่ลง
จากเดิมสีหน้าที่สิ้นหวังของลู่หยวนทง หลังจากที่เห็นการปรากฏตัวของหลี่ซาน สายตาก็เป็นประกายทันที เหมือนได้เห็นความหวังเข้า
ตอนนี้ ก็มีแต่ตระกูลหลี่ ถึงจะมีโอกาสต่อต้านกับความโกรธของตระกูลจาง
แต่ว่า คิดถึงผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดที่จางโฉงพามาด้วย ลู่หยวนทงสีหน้าก็กลับมาสิ้นหวังอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่า หลี่ซานที่พึ่งมาถึง ยังไม่รู้ เรื่องที่ว่าตระกูลจางมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดอยู่สองคน
“ข้ารอเจ้ามานานแล้ว!”
จางโฉงยิ้มตาหรี่แล้วมองไปทางหลี่ซาน พร้อมกับเปิดปากพูด
หลี่ซานขมวดคิ้วเบาๆ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายสองคน ยืนอยู่ทั้งสองข้างของเขา ด้านหลังยังมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นและขั้นกลางอยู่สิบกว่าคน
“จางโฉง นี่เจ้าไม่อวดดีไปหน่อยหรือ? ถึงกับจะกำจัดตระกูลลู่”
หลี่ซานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ตระกูลลู่เป็นเพื่อนของพวกข้าตระกูลหลี่ คิดจะทำอะไรพวกเขา ต้องผ่านพวกเราตระกูลหลี่ก่อน”
ที่พาผู้แข็งแกร่งของตระกูลมาที่ตระกูลลู่ ก็เพื่อมาหาผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นสูงสุดที่ตระกูลลู่นั่นเอง
แน่นอนว่าเขาต้องช่วยพูดให้กับตระกูลลู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...