สรุปเนื้อหา บทที่ 1395 ในที่สุดก็มาแล้ว – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
บท บทที่ 1395 ในที่สุดก็มาแล้ว ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
สำหรับความเย่อหยิ่งของอู่จื่ออี้ ซ่านกวนโหรวดูถูกอย่างมาก เธอรู้ภูมิหลังของราชวงศ์โบราณดี แต่จากการเปรียบเทียบ เธอรู้ความแข็งแกร่งของหยางเฉินดีกว่า
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอเชื่อว่ากำลังที่อยู่เบื้องหลังของหยางเฉินนั้น เหนือกว่าราชวงศ์โบราณ
ในกรณีนั้น เธอจะขอโทษอู่จื่ออี้ได้อย่างไร?
ซ่านกวนโหรวเยาะเย้ย:"ฉันรู้ว่าราชวงศ์อู่มีภูมิหลังที่ลึกมาก และฉันก็รู้ว่าคุณมีสถานะสูงในราชวงศ์อู่ แต่แล้วไงล่ะ? นี่คืออาณาเขตของราชวงศ์ซ่านกวน และยังไม่ถึงตาคนนอกอย่างคุณมาอวดดี!"
"เสียวหว่านไม่เพียงแต่เป็นน้องสาวของคุณหยาง แต่ยังเป็นน้องสาวของฉันซ่านกวนโหรวอีกด้วย ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็อย่าคิดที่จะพาเธอไปจากเมืองราชวงศ์ของฉัน!"
ขณะที่เสียงจบลง ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งหลายของราชวงศ์ซ่านกวน เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ๆ ได้ทุกเมื่อ
สีหน้าของอู่จื่ออี้ก็บึ้งมาก เขาคิดไม่ถึงเลยว่า เขาเป็นถึงหลานชายของกษัตริย์ราชวงศ์อู่ กลับถูกผู้หญิงดูหมิ่นได้ขนาดนี้
ถูกต้อง ในความเห็นของเขา ใครก็ตามที่กล้าปฏิบัติต่อเขาด้วยทัศนคติที่แข็งกร้าว ถือเป็นความอัปยศต่อเขา
สีหน้าของผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์สองคนที่อยู่ข้างกายเขา ก็ดูแย่มาก ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งของราชวงศ์อู่ ปกติพวกเขาจะเป็นคนด่าคนอื่น แต่ตอนนี้ เจ้านายของพวกเขา กลับถูกคนอื่นด่าในที่สาธารณะ
"พี่ซ่านกวน ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจะไปกับราชวงศ์อู่กับพวกเขา"
เฝิงเสียวหว่านเครียดทันที และรีบพูดขึ้น
เธอที่จิตใจดี ไม่อยากให้ซ่านกวนโหรวเดือดร้อนเพราะตน
จากการสนทนาระหว่างทั้งสองคน เธอรู้แล้วว่าความแข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่านกวนนั้น สู้ราชวงศ์อู่ไม่ได้
แน่นอนว่า เธอไม่ให้หยางเฉินเดือดร้อนเช่นกัน
โชคดีที่หยางเฉินยังไม่มา ถ้าหยางเฉินมา เกรงว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
"เสียวหว่านไม่ต้องกังวล พี่หยางของเธอจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรไปแน่นอน อย่าว่าแต่แค่เด็กรุ่นหลังของราชวงศ์อู่เลย ถึงผู้อาวุโสของราชวงศ์อู่มา พี่หยางของเธอก็สามารถรับประกันความปลอดภัยของเธอได้"
ซ่านกวนโหรวมองไปที่เฝิงเสียวหว่าน และพูดขึ้น
แม้ว่าอู่จื่ออี้จะโมโห แต่สติทำให้เขาสามารถระงับความโกรธมาตลอดได้ เขาไม่คิดว่าซ่านกวนโหรวเป็นผู้หญิงที่โง่เขลาที่ไร้สมอง ทั้งๆ ที่รู้ถึงตัวตนของตน แต่ยังกล้าพูดแบบนี้อีก
นั่นสามารถแสดงให้เห็นว่าซ่านกวนโหรวกล้าหาญจริงๆ
พี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน คงอายุไม่มากสินะ?
สามารถได้รับการปฏิบัติในฐานะแขกของราชวงศ์ซ่านกวน ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าภูมิหลังของเขาไม่ธรรมดา
ราชวงศ์ซ่านกวนถึงขั้นไม่ไว้หน้าเขา เพราะเห็นแก่ชายหนุ่มคนนั้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นแค่ว่า พี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน กองกำลังที่อยู่เบื้องหลังนั้นแข็งแกร่งกว่าราชวงศ์อู่
มองไปทั้งจิ่วโจว ดูเหมือนว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งกว่าราชวงศ์อู่ จะมีแค่ตระกูลบู๊โบราณที่ซ่อนเร้นจากโลกเท่านั้น
หรือว่าพี่หยางของเฝิงเสียวหว่าน จะเป็นคนของตระกูลบู๊โบราณ?
เมื่อคิดเล่นนี้ สายตาของอู่จื่ออี้ก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย
ตอนที่ซ่านกวนโหรวเห็นความโกรธของอู่จื่ออี้จู่ๆ ก็ลดลง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในใจ และมองอู่จื่ออี้ดีขึ้นมามาก
ดูเหมือนว่าบุคคลนี้ จะไม่ธรรมดาในราชวงศ์อู่
"เสียวหวาน มานี่!"
ซ่านกวนโหรวพูดกับเฝิงเสียวหว่าน
แม้ว่าเฝิงเสียวหว่านไม่อยากให้ซ่านกวนโกรวเดือดร้อน แต่เธอก็รู้ว่า ตอนนี้เธอต้องฟังคำพูดของซ่านกวนโหรว เธอเหลือบมองอู่จื่ออี้อย่างระมัดระวัง แล้วเดินไปหาซ่านกวนโหรว
แต่ว่า ทันทีที่เธอก้าวไปข้างหน้า ก็ถูกผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์สองคนที่อู่จื่ออี้พามา บังทางเดินไว้
"คุณห้ามพาเธอไป!"
ซ่านกวนโหรวกั้นตรงประตูด้วยใบหน้าที่แน่วแน่ และบรรดาผู้แข็งแกร่งแดนเทพก็ไม่ถอย ทุกคนจ้องมองที่ อู่จื่ออี้และคนอื่น ๆ ด้วยความระแวดระวัง
อู่จื่ออี้หยุดชะงัก และเจตนาฆ่าก็ฉายในดวงตาของเขา:"ฉันให้เวลาพวกคุณสิบวินาที จะหลีกไป หรือจะตาย!"
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ซ่านกวนโหรวรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันทรงพลังที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถหายใจได้
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพของราชวงศ์ซ่านกวนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน และพวกเขาไม่กล้าที่จะหลายใจแรงๆ
"หลีกไปซะ!"
เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงสิบวินาที ในที่สุดซ่านกวนโหรวก็พูดออกมา ด้วยสีหน้าไม่ยอม
ไม่ใช่ว่าเธอกลัว แต่เธอมีสติปัญญามาก ในกรณีนี้ พวกเขาไม่สามารถหยุดอู่จื่ออี้และคนอื่นๆ ได้เลย เมื่อสงครามเริ่มขึ้น แค่ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่ง ก็สามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดมดได้
ยิ่งไปกว่านั้นอู่จื่ออี้ยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์สองคนอยู่ข้างเขา และอู่จื่ออี้เองก็แข็งแกร่งเช่นกัน และมาถึงระดับแดนเทพชั้นปลายแล้ว
อู่จื่ออี้ไม่ได้มองซ่านกวนโกรวเลย เดินก้าวไปข้างหน้า
คนหนึ่งเดินตามหลังเขา อีกคนหนึ่งอุ้มเฝิงเสียวหว่านไว้บนไหล่ของเขา และเดินตามกันออกไป
ซ่านกวนโหรวจ้องมองไปที่แผ่นหลังทั้งสามคน แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย เธอทำได้เพียงภาวนาให้หยางเฉินมาเร็วๆ
แต่ว่า ที่ปลายทางของทางเดิน อู่จื่ออี้และอีกสามคนหยุดเดินกะทันหัน
ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น:"วางน้องสาวของฉันลง!"
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ร่างกายที่ตึงเครียดของซ่านกวนโหรวก็คลายออกในที่สุด และพึมพำกับตัวเองว่า:"ในที่สุด คุณก็มาแล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...