เมื่อเห็นสีหน้าที่คาดหวังของหยางเฉิน ซ่งจั่วส่ายศีรษะและกล่าวขอโทษ “คุณหยาง ขอโทษด้วย ผมไม่รู้นามสกุลของตระกูลสายเลือดคลั่ง และไม่รู้ว่าตระกูลนี้อยู่ที่ไหน?”
ซ่งโหย่วกล่าวเสริมว่า “คุณหยาง คุณอย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าพวกเราเจตนาปิดบัง เพราะทุกอย่างเกี่ยวกับตระกูลนี้เป็นเพียงตำนานเล่าขานเท่านั้น บางทีแม้แต่ผู้อาวุโสของตระกูลบู๊โบราณที่มีชีวิตอยู่เป็นร้อยปีก็ไม่รู้จักตระกูลนี้”
“ถูกต้อง เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ว่ากันว่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับตระกูลนั้นถูกสืบทอดมาหลายร้อยปีแล้ว และไม่มีใครเคยติดต่อกับคนในตระกูลนั้นจริง ๆ” ซ่งจั่วกล่าว
หลังจากฟังคำพูดของสองพี่น้องแล้ว นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของหยางเฉินก็ค่อย ๆ หรี่ลง
“ไม่เป็นไร เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของพวกคุณ” หยางเฉินกล่าว
เนื่องจากเป็นตระกูลในตำนานเล่าขาน การที่ซ่งจั่วและซ่งโหย่วไม่รู้จักทายาทสายตรงของตระกูลมันก็เป็นเรื่องปกติ
“เหตุผลที่พวกเราต้องการบอกคุณ นั่นก็คือตอนนี้คุณได้ปลุกสายเลือดคลั่งตื่นแล้ว และอนาคตของคุณนั้นไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน ด้วยพลังความแข็งแกร่งในตอนนี้ของคุณ ไม่มีทางที่จะช่วยพวกเราล้างแค้นได้ แต่ถ้าให้เวลาคุณอีก คุณจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะทำให้โลกบู๊โบราณตกตะลึงอย่างแน่นอน”
“เมื่อถึงตอนนั้น ด้วยพลังความแข็งแกร่งของคุณ บางทีคุณอาจไม่จำเป็นต้องลงมือเอง แค่คุณพูดประโยคเดียว ก็จะมีกองกำลังระดับสูงมากมายที่เต็มใจจะช่วยคุณ”
“คุณหยาง แม้ว่าพวกเราสองคนจะไม่มีพรสวรรค์ด้านบูโด แต่หลังจากพวกเราสองคนร่วมมือกันแล้ว สามารถระเบิดพลังความแข็งแกร่งเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นสี่ได้ หากคุณยินยอมให้พวกเราติดตามคุณ ต่อไปพวกเราจะสามารถช่วยคุณได้ไม่น้อย โปรดให้พวกเราติดตามคุณด้วยเถอะ!”
ท่าทีของสองพี่น้องมีความจริงใจอย่างยิ่ง และสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
พวกเขายังรักษาท่าทางถ่อมตน และแสดงท่าทีว่าจะติดตามหยางเฉินเสมอตลอดไป และช่วยหยางเฉินทำสิ่งต่าง ๆ จนกระทั่งหยางเฉินมีความแข็งแกร่งที่จะทำให้โลกโลกบู๊โบราณตกตะลึง แล้วค่อยช่วยพวกเขาแก้แค้น
อาจกล่าวได้ว่าพวกเขายังเชื่อมั่นในตัวหยางเฉินเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจะตัดสินใจเช่นนั้น
ในช่วงเวลาสั้น ๆ นั้นหยางเฉินไม่มีกำลังที่จะล้างแค้นให้กับพวกเขา ส่วนในอนาคตหยางเฉินจะสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกบู๊โบราณได้หรือไม่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดหยางเฉินก็พยักหน้า “เอาล่ะ เมื่อเป็นเช่นนั้น นับจากวันนี้เป็นต้นไป พวกคุณติดตามผมเถอะ ถ้าวันหนึ่ง ถ้าผมมีแข็งแกร่งพอที่จะช่วยแก้แค้นให้พวกคุณได้ ผมก็จะช่วยพวกคุณแก้แค้นอย่างแน่นอน”
“ขอบคุณครับคุณหยาง ขอบคุณครับคุณหยาง!”
เมื่อเห็นหยางเฉินรับปาก สองพี่น้องรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจน และกล่าวขอบคุณอย่างรวดเร็ว
หยางเฉินโบกมือ หรี่ตาลงแล้วกล่าวว่า “พวกคุณรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเจ็ดวันก่อนแล้ว เย่หลินแห่งราชวงศ์เย่สมรู้ร่วมคิดกับหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียว และต้องการจะฆ่าผม แม้แต่พ่อบุญธรรมของผมก็เสียชีวิตในเหตุการณ์ความวุ่นวายคราวนี้ ไม่ว่าจะเป็นเย่หลินแห่งราชวงศ์เย่หรือหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียว พวกเขาต้องชดใช้อย่างสาสม!”
“คุณหยางพูดถูก ราชวงศ์เย่จะต้องถูกทำลาย และหลิวเหล่าก้วยแห่งเมืองเหมียวต้องตายเช่นกัน พวกเราจะช่วยคุณหยางปราบราชวงศ์เย่และฆ่าหลิวเหล่าก้วย!”
สองพี่น้องตระกูลซ่งแสดงจุดยืนของตนเองอย่างต่อเนื่อง
หยางเฉินพยักหน้า เจตนาฆ่าประกายอยู่ในดวงตาของเขา “ไปเมืองราชวงศ์เย่ก่อน แล้วค่อยไปที่เมืองเหมียว!”
“ครับ!”
สามคนออกเดินทางจากเมืองเยี่ยนตู โดยขึ้นเครื่องบินไปยังเมืองราชวงศ์เย่โดยตรง
ขณะเดียวกัน ห้องลับในคฤหาสน์ราชวงศ์เย่ของเมืองราชวงศ์เย่
เย่หลินนั่งขัดสมาธิ พลังบูโดบนร่างกายของเขาแผ่ซ่านออกมา ทำให้ห้องลับเต็มไปด้วยพลังบูโดที่ทรงพลัง
“หืม!”
เย่หลินลืมตาขึ้นทันที พลังบูโดบนร่างกายของเขาลดลง ดวงตาที่เหมือนนกอินทรีคู่นั้นประกายแสงที่เยือกเย็น
“นึกไม่ถึงว่าการไปเมืองเยี่ยนตูคราวนี้ หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่เพียงไม่ได้ทำร้ายฐานบูโดของผมเท่านั้น แต่เป็นทุกขลาภ แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าของผมที่หยุดนิ่งไปหลายปีได้ทะลวงไปสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกแล้ว
เย่หลินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าหยางเฉินกล้ามาที่เมืองราชวงศ์เย่ ผมจะไม่ปล่อยให้เขากลับไปได้อย่างแน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...