ดวงตาแหลมคมของสงโป๋เฉิงจ้องหยางเฉินไม่กะพริบ
เขาไม่เชื่อว่าหยางเฉินเป็นเพียงลูกเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิงของตระกูลฉินคนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ เขาถึงสำนึกได้ ตอนนั้นสงเหว่ยโดนตีจนปางตาย ยังมีสงโป๋เหรินก็โดนตีจนแขนขาหัก และไม่ใช่ว่าหยางเฉินไม่รู้ตำแหน่งของตระกูลสงดี แต่ว่าเดิมทีไม่เห็นตระกูลสงอยู่ในสายตา
ในเวลานี้เอง มือถือของหยางเฉินดังขึ้นมา
“หยางเฉิน พ่อไม่เป็นไรแล้ว แค่เจ็บภายนอกบางส่วนเอง คุณอย่าวู่วามทำเรื่องโง่ๆ นะ”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของฉินซีลอยออกมาจากลำโพง
ก่อนหน้านี้เพราะฉินต้าหย่งถูกตีจนสลบ ฉินซีอยู่ภายใต้ความโกรธแค้น ดังนั้นจึงไม่ได้ขัดขวางหยางเฉินจะไปแก้แค้น
ปัจจุบันนี้ผลตรวจร่างกายของฉินต้าหย่งออกมาแล้ว อาการบาดเจ็บไม่ได้สาหัส ไฟโกรธของฉินซีถึงสงบลง และใจเย็นลงมามากด้วย เป็นห่วงหยางเฉินว่าพอเกิดอารมณ์จะโมโหจนเสียการควบคุม ถึงได้รีบเตือนสติหยางเฉินโดยทันที
ในที่สุดหยางเฉินโล่งอกไปทีหนึ่ง “ได้ ผมรู้แล้ว คุณวางใจเถอะ ผมรู้ความเหมาะสม อีกครึ่งชั่วโมง ผมจะไปหาพ่อที่โรงพยาบาล!”
“ได้ ฉันรอคุณนะ!” ฉินซีพูดขึ้น
หลังวางสายโทรศัพท์ หยางเฉินมองทางหวงอู่ที่อยู่ข้างกายทันใด “จากที่นี่ไปโรงพยาบาลประชาชนต้องใช้เวลานานเท่าไร?”
“ใกล้มากครับ ประมาณสิบนาทีเท่านั้นก็ถึงแล้วครับ” หวงอู่ตอบกลับ
“งั้นก็ดี ยังได้อีกยี่สิบนาที เวลาเพียงพอแล้ว!” หยางเฉินพยักหน้าพูดขึ้น
“ไอ้หนุ่ม แกคงไม่ได้คิดว่าวันนี้แกยังมีชีวิตรอดเดินออกไปจากที่นี่ได้หรอกมั้ง?” สงโป๋เฉิงถามด้วยท่าทางมีเลศนัย
หยางเฉินกลับไม่มองเขาสักแวบเดียว แต่มองทางหวังลู่เหยาที่โผล่ออกมาแค่ศีรษะ หรี่ตาพูดว่า “โทรศัพท์หาสามีเธอ ให้เขามาภายในสิบนาที มารับเธอที่นี่!”
ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ชั่วขณะหนึ่งหวังลู่เหยาตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน พูดแบบลนลานทำอะไรไม่ถูก “โป๋เฉิง คุณรีบฆ่ามันเร็ว!”
“ไอ้หนุ่ม เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ? ฉันเหมือนฟังไม่ชัด”
มือข้างของสงโป๋เฉิงนั้นที่วางไว้ในผ้าห่มมาตลอด ทันใดนั้นดึงออกมาแล้ว ถือโคลท์คิงคอบร้ากระบอกหนึ่งไว้ ปากกระบอกดำมืดเล็งไปยังหยางเฉินตรงๆ
สีหน้าหวงอู่ซีดเซียวแถบหนึ่ง ในหัวสมองมีคำกำชับของหวังเฉียงดังขึ้นฉับพลัน ต่อให้หยางเฉินให้เขาไปตาย ก็ห้ามลังเลใดๆ เป็นอันขาด
ยังมีเรื่องเมื่อสักครู่ที่เกิดขึ้นหน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลสงอีก หยางเฉินงอนิ้วดีดทีหนึ่ง ป้ายที่แขวนไว้สูงอันนั้นก็ร่วงลงในชั่วพริบตาเดียว
นึกถึงเรื่องพวกนี้ สมองของหวงอู่ร้อนผ่าว ชั่วพริบตาเดียวขวางตรงหน้าของหยางเฉินไว้ ตะโกนใส่สงโป๋เฉิงอย่างโมโห “แกแม่งกล้ายิงก็ลองดูสิ!”
หยางเฉินแปลกใจอยู่บ้างเช่นกัน สาเหตุที่ทำให้หวงอู่ตามมาด้วย ไม่ใช่แค่ถูกหวังเฉียงขู่ให้กลัวเหรอ ไม่ได้คิดว่าหวงอู่จะสามารถทำอะไรได้
การแสดงออกของหวงอู่ในขณะนี้ ทำให้เขามีความรู้สึกชื่นชมต่อชายหนุ่มที่ยอมผมสีทองคนนี้ระดับหนึ่ง
ในสายตาของสงโป๋เฉิงสาดยิงแรงอาฆาต หรี่ตาจ้องหยางเฉินที่อยู่ด้านหลังหวงอู่ “นึกไม่ถึงว่ายังมีคนยอมตายแทนแกด้วย ฉันอยากจะดูหน่อยสิว่ารอฉันฆ่าไอ้ผมทองคนนี้แล้ว ยังมีใครปกป้องแกได้อีก?”
เพิ่งพูดจบ นิ้วมือสงโป๋เฉิงกดลงเบาๆ
จนถึงวินาทีนี้ หวงอู่ถึงสำนึกได้ว่าตนเองหุนหันพลันแล่นไป คาดไม่ถึงเพียงคำพูดประโยคเดียวของหวังเฉียง และยังมีทุกอย่างที่เห็นมาหน้าประตูของตระกูลสง ทำให้คิดว่าหยางเฉินสามารถจัดการความยุ่งยากตรงหน้าได้หมดจริง
ที่ในมือของสงโป๋เฉิงถืออยู่คือปืนนะ
ชั่วขณะนั้นด้านหลังของเขาเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ บนหน้าผากก็มีเหงื่อเม็ดใหญ่เช่นกัน ไหลลงตามผมสีทองมาไม่หยุด
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นในชั่วขณะนั้น
ชั่วขณะที่เสียงปืนดังขึ้น หวงอู่หมดหวังถึงที่สุด หลับตาลงสนิท
แต่ในเวลานี้เอง เขารู้สึกว่าร่างกายถูกผลักออกฉับพลัน จากนั้นเขาพบว่าตนเองได้นั่งลงบนโซฟาด้านข้างแล้ว
ลูกตาสงโป๋เฉิงหดตัว พอยิงไม่โดน จากนั้นจึงหมุนปากกระบอกปืน เล็งไปยังหวงอู่ที่ถูกผลักล้มลงไปบนโซฟาอีกครั้งหนึ่ง
“กึก!”
เพียงแต่เขายังไม่ทันได้ลั่นไกปืน ก็สัมผัสได้ถึงลมแรงหอบหนึ่งที่จู่โจมมา ตามมาด้วยเสียงกระดูกแตกหัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...