“คุณหยาง ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรกัน?”
เวลานี้ บุคคลสำคัญของจวนมู่คนหนึ่ง เดินเข้ามาแล้ว มองทางหยางเฉินก่อนจะสอบถาม
อีกฝ่ายชื่อว่ามู่ชง เป็นลูกชายคนโตของเจ้าเมืองมู่ ความสามารถอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น
หยางเฉินตอบด้วยสีหน้าขึงขัง “ผมกับคนของจวนซ่งเจรจาร่วมมือกันแล้ว พวกเขาไล่ผู้แข็งแกร่งฝ่ายอื่นที่ต้องจวนมู่ออกไปหมดแล้ว น่าจะไม่ลงมือต่อจวนมู่ชั่วคราว”
พอได้ยิน มู่ชงขมวดคิ้วแล้ว หน้าตาเผยแววความไม่พอใจ มองหยางเฉินแล้วพูดว่า “คุณเจรจาร่วมมืออะไรกับอีกฝ่าย? แล้วอีกฝ่ายจะรับปากจริงเหรอ?”
หยางเฉินไม่ได้ปิดบัง เล่าถึงการร่วมมือระหว่างเขากับซ่งอี้ออกมาแล้ว
ตอนที่มู่ชงรับรู้ว่าหยางเฉินอยากยอมให้จวนเมืองหวยเฉิงไป ชั่วขณะนั้นก็โมโหแล้ว “หยางเฉิน ใครอนุญาตให้นายทำแบบนี้กัน? พวกเราจวนมู่เสียสละมากมายขนาดนี้ ทุกอย่างของจวนเมืองหวยเฉิง ควรเป็นของพวกเราสิ”
“รอหลังจากคุณพ่อและนักดาบเงาเพชฌฆาตกลับมา พวกเราก็ลงมือต่อจวนเมืองหวยเฉิงได้แล้ว นายทำแบบนี้ ต่อไปพวกเราจะเพิ่มคู่ต่อสู้ที่ทรงอำนาจอีกกลุ่มนะสิ”
หยางเฉินขมวดคิ้วขึ้นมาแล้ว หลายวันนี้ที่อยู่จวนมู่ นอกจากเจ้าเมืองมู่และนักดาบเงาเพชฌฆาตแล้ว ก็ไม่ได้ไปพบปะพูดคุยกับคนอื่นๆ ในจวนมู่ และรู้เพียงแค่ว่า มู่ชงเป็นลูกชายคนโตของเจ้าเมืองมู่
เวลานี้ คำพูดพวกนี้ของมู่ชง ทำให้เขาโกรธเคืองอยู่บ้าง
“นี่คือคุณหมายความว่าอะไร?”
หยางเฉินยังไม่ได้เอ่ยปาก หวยหลันไม่พอใจเข้าแล้ว พูดจาแบบขุ่นเคือง “ความสูญเสียของจวนมู่ในตอนนี้สาหัสมาก คนที่ยังมีกำลังสู้รบจริงๆ กลัวว่ามีแค่ส่วนเดียว คุณจะเอาผู้แข็งแกร่งที่ไหนมาสู้กับเมืองซ่ง?”
“ถ้าไม่ใช่พี่หยางใช้เหตุผลว่าช่วยซ่งอี้ควบคุมจวนเมืองหวยเฉิง อาศัยแค่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดสองคนด้านหลังซ่งอี้ ก็สามารถพังทลายจวนมู่ในตอนนี้ได้แล้ว”
“อีกอย่าง จวนเมืองหวยเฉิงไม่ใช่สิ่งของของพวกคุณจวนมู่ พี่หยางเองของที่ไม่ใช่เป็นของจวนมู่ไปแลกเปลี่ยนกับกลุ่มอิทธิพลที่จวนมู่ไม่มีทางรับมือได้ หรือว่ามันมีปัญหานักเหรอ?”
“ยังมีอีก ถ้าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ ก่อนหน้าที่ท่านเงาเพชฌฆาตจะออกไปยังเคยบอกว่า หลังจากเขาออกไป ทุกอย่างของจวนมู่ ล้วนปล่อยให้พี่หยางเป็นคนตัดสินใจ”
บนใบหน้าของมู่ชง เต็มไปด้วยแววความโกรธ จ้องหวยหลันแบบตาไม่กะพริบ กัดฟันพูดว่า “ยัยเด็กคนนี้ปากดีเสียจริง ถ้าไม่ใช่พวกเธอ จวนมู่จะเป็นเช่นทุกวันนี้ได้เหรอ?”
“จวนเมืองหวยเฉิงเป็นได้เฉพาะของพวกฉันจวนมู่ ไม่ว่าใครหน้าไหน ก็ไม่อาจเปลี่ยนความจริงข้อนี้ได้”
หวยหลันหัวเราะเยาะ “ถ้าพี่หยางไม่มีคุณค่าให้ใช้ประโยชน์ จวนมู่จะเปิดศึกกับจวนเมืองหวยเฉิงเพื่อพี่หยางงั้นเหรอ? อีกอย่าง ระหว่างจวนมู่กับจวนเมืองหวยเฉิง เดิมก็มีความแค้นกันมากอยู่ก่อน จวนมู่ของพวกคุณแค่มองเห็นคุณค่าของพี่หยางเข้าพอดี ถึงกล้าสู้กับจวนเมืองหวยเฉิงสักตั้ง”
“เธอนังตัวดีคนนี้ หุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ชั่วขณะนั้นมู่ชงโมโหเดือดดาล ยกมือแล้วตบเข้าไปบนหน้าของหวยหลันแล้ว
“ป้าบ!”
ซึ่งในเวลานี้เองหยางเฉินยื่นมือข้างหนึ่งออกมาทันใด จับบนข้อมือของมู่ชงเอาไว้
ชั่วขณะหนึ่งมู่ชงตกใจ เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น หลังจากโดนหยางเฉินจับข้อมือไว้ รู้สึกเพียงว่าพละกำลังอันยิ่งใหญ่มากส่วนหนึ่ง ราวกับมีคีม จับข้อมือของเขาไว้แน่น
มู่ชงพูดแบบโมโห “หยางเฉิน นายอยากทำอะไร? นี่คือหลอกใช้จวนมู่เสร็จแล้ว ก็จะลงมือต่อคนของจวนมู่งั้นเหรอ?”
ในสายตาหยางเฉินมีแสงคมกริบแวบผ่าน จ้องมู่ชงเอาไว้ พูดจาเสียงเย็นยะเยือก “ถ้าไม่ใช่เห็นแก่หน้าของเจ้าเมืองมู่ แค่คำพูดพวกนั้นที่คุณพูดมาเมื่อกี้ ผมก็ลงมือฆ่าคุณได้แล้ว”
ในสายตามู่ชงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาเคยเห็นมากับตาตนเอง ความสามารถของหยางเฉินนั้นแกร่งแค่ไหน
“ถึงเป็นเจ้าเมืองมู่ก็มีความคิดใช้ประโยชน์จากพวกเราเหมือนกัน แต่เป็นจวนมู่ให้ความช่วยเหลือจริง พวกเราถึงมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ เจ้าเมืองมู่มีบุณคุณต่อพวกเรา พวกเราไม่มีความจำเป็นต้องคิดเล็กคิดน้อยกับคนบางส่วนของจวนมู่”
หวยหลันพูดแบบท่าทางไม่ยินยอม “พวกเขายังไม่ใช่สนใจกำลังแฝงบนตัวของพี่หยางหรอกเหรอ และบวกกับมีความแค้นต่อจวนเมืองหวยเฉิง ไม่อย่างนั้นจวนมู่คงไม่สนใจพวกเราแน่นอน”
หยางเฉินหัวเราะขมขื่น “เอาล่ะ อย่าคิดมากเลย รอท่านเงาเพชฌฆาตกลับมาแล้ว พวกเราค่อยออกไปกัน”
สองสาวต่างพยักหน้า ทันใดนั้นเฝิงเสียวหว่านพูดด้วยตาที่แดงก่ำ “ถ้าปู่จิ่วกลับไปด้วยกันกับพวกเราได้ งั้นคงจะดีมากแค่ไหน?”
พอได้ยิน ชั่วขณะนั้นหยางเฉินเงียบงันไป ในดวงตาปกคลุมด้วยละอองหมอกชั้นหนึ่ง
เดินบนเส้นทางนี้ ถ้าไม่มีเหล่าจิ่ว ไม่รู้ว่าเขาจะตายไปสักกี่รอบกัน
“พวกเธอวางใจได้ ฉันจะต้องหาร่างของปู่จิ่วให้เจอแน่นอน!”
หยางเฉินกำหมัดทั้งสองแน่นทันที พูดด้วยท่าทางจริงจัง
ตอนนี้พวกเขาแทบจะแน่ใจได้ว่า ศพของเหล่าจิ่วโดนดอกเตอร์แบล็กเอาไป
ดอกเตอร์แบล็กสร้างฐานทัพวิจัยใต้ดินที่จวนเมืองหวยเฉิง ใช้ศพของผู้แข็งแกร่งมาทำวิจัยโดยเฉพาะ ปัจจุบันนี้วิจัยศพมีชีวิตของแดนเหนือมนุษย์ออกมาหลายร่าง
หลังจากมู่ชงออกมาจากทางนั้นของหยางเฉิน ก็เรียกผู้แข็งแกร่งของจวนมู่ส่วนหนึ่งมารวมตัว
“หยางเฉินไอ้เวรคนนี้ อยู่ลับหลังพวกเรา ไปตกลงร่วมมือกับผู้แข็งแกร่งของเมืองซ่งแล้ว จะช่วยเมืองซ่งควบคุมจวนเมืองหวยเฉิง พวกเรารับปากไม่ได้เด็ดขาด จวนเมืองหวยเฉิงเป็นได้แค่ของพวกเราเท่านั้น!”
มู่ชงพูดจาแบบโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ตอนนี้ คือช่วงอันตรายที่สุดของจวนมู่ พวกเราจะปล่อยให้คนนอกสักคนมาวิ่งเพ่นพ่านในจวนมู่ไม่ได้ พวกเราต้องรวมพลังกันขึ้นมา ไม่ให้คนนอกสักคนเดียวกลายมาเป็นเจ้าของของพวกเราจวนมู่ได้เด็ดขาด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...