หยางเฉินกำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการบรรลุ แต่ในเวลาสำคัญแบบนี้กลับมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญมาเยือนคนหนึ่ง
ทันใดนั้น รังสีวิถีบู๊ในตัวเขาก็เสียสมดุลทันที
“แกไม่ต้องห่วง คนนี้ไม่ใช่คนที่ไร้ยางอาย ถึงฉันจะมาเพื่อฆ่าแก แต่ฉันจะยังไม่ฆ่าตอนนี้ รอแกบรรลุก่อนฉันค่อยฆ่าแก”
เหมือนไป๋หลี่จิงหวินจะสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงลมปราณที่อยู่ในตัวหยางเฉิน จึงได้พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
พูดจบ เขาก็ไม่ได้ลงมือจริงๆ แต่กลับเดินไปข้างๆ นั่งขัดสมาธิ แล้วเริ่มฝึกตน
โลกนี้มันกว้างใหญ่ คนแบบไหนก็มีทั้งนั้น ในหลายๆ ครั้ง คนเราก็ไม่ได้แบ่งแยกดีชั่ว แค่จุดที่ยืนมันต่างกันเท่านั้น
คำพูดของไป๋หลี่จิงหวินทำให้หยางเฉินที่ตั้งใจจะล้มเลิกการบรรลุได้เบาใจลงมาก และทำการบรรลุต่อ
ท้องฟ้าเหนือยอดเมฆา ปรากฏการณ์ประหลาดยังคงเดิม ภาพนี้ก็ทำให้ทั่วทั้งเยี่ยนตูตกอยู่ในความตะลึง
เยี่ยนตู ในวิลล่าที่เลิศหรูแห่งหนึ่ง ชายวัยกลางคนที่เหน็บดาบทาจิไว้ที่เอว สีหน้าเคร่งขรึมอย่างถึงที่สุดตาคู่นั้นของเขา จ้องมองไปทางยอดเมฆา
“คนจิ่วโจว ไม่คู่ควรที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ประหลาดขนาดนี้ มีเพียงบุคคลแห่งวิถีบู๊ชาวซันเท่านั้นที่คู่ควร! ไม่ว่าเป็นใคร ฉันก็ต้องฆ่าแก!”
พูดจบ ชายวัยกลางคนก็มุ่งตรงไปยังยอดเมฆา
ชายวัยกลางคนคนนี้มีชื่อว่าโยชิดะ โช เป็นรองหัวหน้าสมาคมบูโดแห่งประเทศซัน และเป็นนักสู้จากตระกูลบูโดที่อยู่เบื้องหลังโยชิดะแชโบลส่งมาเพื่อประลองกับนักสู้ของจิ่วโจวในครั้งนี้โดยเฉพาะ
นี่สิบนาทีหลังจากนั้น บนยอดเมฆา ภายในห้อง ไป๋หลี่จิงหวินที่กำลังฝึกตนอยู่ก็ได้หยุดฝึกอย่างกะทันหันลืมตาทั้งสองข้าง แสดงแววตาที่เฉียบคมออกมา
เขาหันมองหยางเฉินที่กำลังฝึกตน ขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ดูท่า การฝึกตนของแกที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น จนทำให้บางคนอยู่ไม่สุขแล้ว เลยอยากที่จะฆ่าแก”
พูดจบ ไป๋หลี่จิงหวินก็เดินออกไปด้านนอก
นั่นจึงทำให้หยงเฉินรู้สึกประหลาดใจมาก แต่ก็แค่แวบเดียว และกลับเข้าสู่การฝึกตนอีกครั้ง เขาในตอนนี้กำลังจะบรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นแล้ว เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด จำเป็นต้องทุ่มสุดกำลัง ถ้าเกิดล้มเหลว ผลที่ตามมาน่าจะร้ายแรงมาก
แต่พรุ่งนี้ก็ถึงวันประลองแล้ว การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ เป็นการแย่งชิงความเป็นหนึ่งระหว่างนักสู้ของจิ่วโจวกับประเทศซันเขาจำเป็นต้องชนะ
ในตอนนี้ ไป๋หลี่จิงหวินได้เดินมาถึงลานหน้าบ้านแล้ว พอเขาเดินออกมา ก็เห็นชายวัยกลางคนที่เหน็บดาบทาจิไว้ที่เอวกำลังมองมาที่เขา
“ชาวซัน?”
พอเห็นการแต่ตัวของอีกฝ่าย ไป๋หลี่จิงหวินก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างแรง
ถึงเขาจะเป็นคนจากตระกูลบู๊โบราณของจิ่วโจว แต่กับเรื่องความแค้นคนในจิ่วโจว กับประเทศซัน เขาก็รู้เรื่องดี รู้สึกเกลียดชาวซันเข้าไปถึงกระดูกเลย
อีกฝ่ายใช้ภาษาจิ่วโจวด้วยสำเนียงเพี้ยนๆ “ไม่ใช่หยางเฉินจริงๆ ด้วย คนที่บรรลุเมื่อกี้จนก่อให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดเมื่อกี้คือแกอย่างนั้นเหรอ?”
“เป็นชาวซันจริงๆ ด้วย!”
ไป๋หลี่จิงหวินแสดงแววตาอาฆาตที่รุนแรงออกมา ไม่ได้ตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เป็นถึงคนของตระกูลบู๊จากประเทศซัน แต่กลับมาหาเรื่องโลกภายนอกของจิ่วโจว ถ้าแน่จริงก็ไปท้าทายตระกูลบู๊โบราณของจิ่วโจวสิ”
การที่เขาดึงดันจะรอให้หยางเฉินบรรลุแล้วค่อยลงมือ นอกจากเรื่องคุณธรรมในยุทธภพแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญมากๆ นั่นก็คือหยางเฉินจะเป็นตัวแทนของนักสู้ของจิ่วโจว รอรับการท้ายประลองจากผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊แห่งประเทศซัน
ไป๋หลี่จิงหวินที่เดิมก็ไม่ได้รู้สึกดีกับชาวซันอยู่แล้ว ตอนนี้จึงไม่มีทางไว้หน้าชาวซันแน่นอน
“ปากะ!”
อีกฝ่ายโมโห แล้วพูดอย่างเดือดดาลว่า “นี่แกกำลังรนหาที่ตายใช่มั้ย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...