The king of War นิยาย บท 1893

ในขณะที่สมาคมบูโดแห่งประเทศซันกำลังให้ความสนใจกับหยางเฉินอยู่นั้น ก็ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ก็มีคนกำลังสนใจที่ตัวหยางเฉิน

ภูเขามาร สำนักบู๊

ผู้เฒ่าผมขาวในชุดจีน นั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นหินหยก บนตัวแผ่กระจายพลังบูโดที่แข็งแกร่งออกมาจาง ๆ

บนใบหน้าของเขา ยังมีความรู้สึกเจ็บปวดพอให้เห็นได้ กับการฝึกฝนที่ยิ่งหนักขึ้น ย่อมมีความเจ็บปวดที่ต้องแบกรับหนักขึ้น

“พรวด!”

ทันใดนั้น เขาพ่นเลือดออกมาคำหนึ่ง กระแสพลังบูโดในตัวหายไปในฉับพลัน

“คุณพ่อ!”

เงาร่างชายวัยกลางคนในชุดจีน รีบถลันเข้าไปประคองผู้เฒ่านั้นไว้ บนสีหน้า เต็มไปด้วยความห่วงใยที่เข้มข้น

ชายวัยกลางคนตาแดงขึ้นมาพูดไปว่า “คุณพ่อ ท่านเป็นยังไงบ้าง?”

คนผู้เฒ่าส่ายหน้าเล็กน้อย สีหน้าซีดขาวอย่างคนป่วยหนัก เขาพูดเสียงเบา ๆ ว่า “วางใจเถอะ ยังคงไม่ถึงกับจะตายหรอก!”

ชายวัยกลางคนรีบพยุงคนผู้เฒ่าไปนั่งที่เก้าอี้หวาย แล้วส่งน้ำชาให้ผู้เฒ่าแก้วหนึ่ง

ชายวัยกลางคนพูดตาแดงว่า “คุณพ่อ ท่านมีโรคเก่าอยู่ อย่าฝึกต่อเลย ขืนฝึกต่อไปเรื่อย ๆ มีแต่จะทำให้ร่างกายของท่านเกิดการบาดเจ็บจนฟื้นคืนไม่ได้”

คนผู้เฒ่าแค่นหัวเราะเสียงเย็นเยือก พูดอย่างหยิ่งทระนงว่า “ข้าตู้ป๋อเก่งกาจชำนาญยุทธมาทั้งชาติ มีหรือจะปล่อยวางการฝึกด้วยความทรมานจากการเจ็บปวดเพียงแค่นี้?ต้องสักวัน ที่ข้าจะก้าวขึ้นไปขั้นแดนนภาได้!”

ชายวัยกลางคนเงียบลงในพลัน เขารู้เป็นอย่างดี ความรั้นของพ่อเขานั้น ไม่มีทางจะปล่อยวางการฝึก ยกเว้น ตาย!

ตู้ป๋อถามขึ้นมาในทันใดนั้น “เจ้าเด็กคนนั้น ตอนนี้อยู่ในสถานะยังไง?”

ชายวัยกลางคนส่ายหน้าค่อย ๆ “น่ากลัวว่าจะยืนหยัดได้ไม่นาน ภารกิจลอบสังหารของสมาคมบูโดประเทศซันในครั้งนี้ เห็นว่าเป็นนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดจากประเทศซัน ฝ่ายตรงข้ามยังรับรู้ถึงพลังธาตุดินด้วย”

“หยางเฉินแค่พลังฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ถึงอัจฉริยะบูโดระดับพรสวรรค์ แต่พลังฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางจะไปสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่รับรู้ถึงพลังธาตุดินได้แล้วนั้น มันเหมือนเป็นเรื่องในนิยายอาหรับราตรี”

ตู้ป๋อขมวดคิ้ว พูดด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ว่า “หมิงเหวี่ยน อย่าทำตัวเป็นกบใต้กะลา โลกภายนอกนั้นกว้างใหญ่ ให้แม้แต่ตระกูลบู๊โบราณ ก็ไม่ใช่จะเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุด”

“เจ้าเด็กคนนี้อายุยังไม่ถึงสามสิบ ระดับขั้นบูโดก้าวขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางได้ นี่ก็ไม่ธรรมดาแน่นอน พลังฝีมือการต่อสู้ของเขาก็ไม่ใช่ธรรมดา ไม่แน่เลยว่าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้”

ตู้หมิงเหวี่ยนกลับไม่ได้คิดเป็นแบบนั้น แต่เขาก็ไม่กล้าขัดความเห็นของพ่อเขา รีบตอบไปว่า “ผมรู้ครับ คุณพ่อ”

เห็นตู้หมิงเหวี่ยนแสดงออกในท่าทีแบบไม่เชื่อ ตู้ป๋อก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรให้มากอีก มีหลายกาละ ที่ยังคงต้องให้ความจริงที่เกิดขึ้นเล่าเรื่องเองจะดีกว่า

ในขณะนั้น หยางเฉินกำลังต่อสู้กับมือสังหารอย่างดุเดือด แม้ว่าพลังธาตุดินของมือสังหารได้ถูกสยบไปแล้ว แต่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดของแท้ตัวจริง พลังฝีมือการต่อสู้ที่สำแดงออก ก็ต้องแข็งแกร่งเอามาก ๆ

หยางเฉินก็ได้กระตุ้นสายเลือดคลั่งขึ้นไปถึงที่สุดแล้ว ขืนกระตุ้นให้เพิ่มขึ้นไปอีก เขาก็จะหลุดออกจากสติสัมปชัญญะ

พูดได้ว่า ขณะนี้ได้มาถึงจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาแล้ว

ยังดีอยู่ว่า เขายังค่อนข้างจะได้เปรียบอยู่ มีพลังปกป้องคอยดูแลปกป้องร่างกายอยู่ มือสังหารจึงมีข้อเสียเปรียบไปอยู่มาก

ในขณะเดียวกัน มือสังหารก็หวาดผวาเป็นอย่างมาก เขาได้ทุ่มจนสุดฝีมือแล้ว และได้จังหวะโอกาสก็หลายครั้ง ที่ล้วนแต่จะเอาถึงชีวิตได้ แต่พอใส่ไปถึงตัวหยางเฉิน กลับไม่ได้ทำให้หยางเฉินมีบาดเจ็บถึงชีวิตแต่ประการใด

เขาถึงกลับมีภาพหลอนขึ้นมาในทันทีว่า หยางเฉินดูเหมือนจะไม่มีการเกิดบาดเจ็บได้ ไม่ว่าเขาจะใช้พลังแรงถล่มใส่ขนาดไหน ล้วนแต่ไม่ได้ทำให้หยางเฉินต้องมีบาดเจ็บอะไรมากมายให้ถึงตายได้ หยางเฉินกลับยิ่งสู้ยิ่งแกร่งกล้า

ความหวาดผวาในใจของมือสังหารยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ หยางเฉินก็แค่เพียงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางกระจอก ๆ ทำไมระเบิดพลังฝีมือได้มากถึงขนาดนี้?

ประเด็นสำคัญคือ พลังฝีมือเขานั้นเพียงแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง กลับมีสมรรถนะการต่อสู้ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด หากแม้นให้เขาก้าวไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย รองจากขั้นแดนนภา แล้วยังจะมีคู่ต่อสู้ของเขาอีกหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War