The king of War นิยาย บท 1982

สรุปบท บทที่ 1982 ทำลายไปด้วยกัน: The king of War

บทที่ 1982 ทำลายไปด้วยกัน – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War

ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1982 ทำลายไปด้วยกัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ฟังการข่มขู่ของชิงเฟิงแล้ว หยางเฉินหัวเราะทันใด ถึงแม้กำลังหัวเราะ กลับทำให้แต่ละคนมีความรู้สึกขนลุกขนพอง

เขตแดนวิถีมารอันยิ่งใหญ่ ปกคลุมชิงเฟิงขึ้นมาในชั่วขณะนั้น

ชั่วพริบตาชิงเฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปมาก เขารู้ว่าความสามารถหยางเฉินในตอนนี้แกร่งมาก เนื้อหนังก็ฝ่าฟันภัยพิบัติสวรรค์มาแล้ว แต่กำลังต่อสู้เทียบเท่าผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นที่แท้จริง

แต่ว่าตอนนี้ คาดไม่ถึงจากในความกดดันพลังบู๊ของหยางเฉิน เขารู้สึกถึงความกดดันอันยิ่งใหญ่ที่ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางเท่านั้นถึงมีได้

แม้ในร่างหยางเฉินเป็นวิญญาณของเทพมารควบคุมอยู่ ก็ไม่อาจระเบิดความสามารถยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้สิ!

“อยากจะกำจัดวิญญาณของฉัน?”

ลูกตาที่เย็นเยือกของหยางเฉิน จ้องชิงเฟิงไม่กะพริบแล้วถามไป

หยางเฉินในเวลานี้ อานุภาพมารเดือดพล่านทั่วทั้งตัว ราวกับเป็นยอดมารที่มาจากสมัยดึกดำบรรพ์จริงๆ

ชิงเฟิงกัดฟันพูดว่า “สำหรับท่านผู้อาวุโสแล้ว เข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์ ถึงเป็นทางเลือกดีที่สุด ยังขอให้ท่านผู้อาวุโสทบทวนอีกทีด้วย!”

หยางเฉินพูดด้วยเสียงเย็นชา “ฉันถามนายว่า อยากกำจัดวิญญาณของฉันเหรอ?”

สำหรับเรื่องที่เทพมารยืมร่างกายของหยางเฉินระเบิดลักษณะพลังยิ่งใหญ่ออกมา ชิงเฟิงเพียงแค่ตื่นตกใจ แต่ตัวเขาเองก็เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางเช่นกัน ย่อมไม่กลัวการต่อสู้อยู่แล้ว

ผู้แข็งแกร่งแดนนภาของพันธมิตรพิทักษ์หกคน ล้อมรอบหยางเฉินไว้ตรงกลางอย่างแน่นหนา เวลานี้แต่ละคนล้วนรู้สึกถึงความกดดันพลังบู๊ที่น่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดแล้ว

เทพมารยังเป็นเพียงวิญญาณดวงหนึ่ง อาศัยร่างกายที่เพิ่งฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังมาร่างหนึ่ง คาดไม่ถึงระเบิดความสามารถอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ออกมาได้ ถ้าหากเทพมารอยู่ในสภาพชั้นยอด จะแกร่งมากแค่ไหน?

กลัวว่าแม้แต่หัวหน้าสมาคมของพวกเขา ยังไม่แน่ว่าจะกล้าสู้ตัวต่อตัวไหม?

ที่โลกบู๊โบราณ เรื่องเล่าลือของเทพมารน่าสยองขวัญมาก ลือกันว่า ตอนนั้นเทพมารเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอด ยืนอยู่ตำแหน่งหนึ่งในผู้นำชั้นยอดไม่กี่คนที่โลกบู๊โบราณ

แม้ว่าหายตัวไปหลายร้อยปีแล้ว โลกบู๊โบราณก็ยังคงเหลือตำนานของเขาไว้

ชิงเฟิงจ้องหยางเฉินไม่กะพริบตา ทั้งที่ตนเองไม่กลัวการต่อสู้ แต่ด้านหลังกลับยังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำเหงื่อแล้ว

หยางเฉินตะโกนออกมาอีกครั้งหนึ่ง “ถ้าไม่กล้าลงมือ ก็ไสหัวไปให้ฉันซะ!”

สีหน้าชิงเฟิงดูแย่ถึงขีดสุดแล้ว กัดฟันพูดว่า “ในเมื่อท่านผู้อาวุโสไม่ยอมเข้าร่วมพันธมิตรพิทักษ์ งั้นอย่าโทษว่าพวกเราไม่เกรงใจแล้วนะ ลงมือ!”

หลังเขาสั่งการลงไป ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ ตามเขาพุ่งเข้าไปทางหยางเฉินด้วยกัน

“เชอะ!”

หยางเฉินทำเสียงเชอะทีหนึ่ง ชั่วขณะนั้นโล่ที่เดี๋ยวชัดเดี๋ยวหายอันหนึ่ง ปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของเขาแล้ว

“โล่ล่องหน!”

มีคนร้องตกใจ ทุกคนล้วนมองโล่ล่องหนที่ขวางอยู่ด้านหน้าหยางเฉินแบบตกใจไร้ที่เปรียบ

โล่ล่องหนเป็นของอาถรรพ์คุ้มกันสำนักที่คามิโคโซทำหายไปหลายปี ก่อนหน้านี้แทรกซึมเข้าไปหอเก็บหนังสือโดยอัตโนมัติ นึกไม่ถึงถูกหยางเฉินได้รับไปแล้ว

ในขณะเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งแดนนภาของพันธมิตรพิทักษ์หกคน ยังไม่ทันได้เข้าใกล้หยางเฉิน ก็รู้สึกถึงแรงกดดันบนตัวเพิ่มขึ้นในชั่วพริบตา แรงกดดันอันมหาศาลเหมือนกำลังบดขยี้พวกเขาในเวลานี้

“เขตแดนแรงโน้มถ่วง!”

ลี่เฉินยืนอยู่ด้านข้าง มองระดับความเร็วของผู้แข็งแกร่งพันธมิตรพิทักษ์ช้าลงฉับพลัน พูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ตู้ป๋อมาถึงข้างกายลี่เฉินแล้ว มองทางหยางเฉินก่อนจะพูดไปว่า “เมื่ออยู่ภายใต้เขตแดนวิถีมารและเขตแดนแรงโน้มถ่วงอาศัยแค่ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งหกคนของพันธมิตรพิทักษ์ เดิมทีทำอะไรเทพมารไม่ได้”

ลี่เฉินพูดว่า “ถูกต้อง! นอกจากเป็นผู้แข็งแกร่งที่ฝึกฝนอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่แรงโน้มถ่วงเพิ่มเป็นสองเท่ามาเป็นเวลานาน ไม่อย่างนั้น คงไม่อาจปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นได้ในเวลาอันสั้น เขตแดนวิถีมารก็เผด็จการมากๆ อยู่ภายใต้เขตแดนใหญ่ทั้งสองนี้ คนเหล่านี้ของพันธมิตรพิทักษ์ กลัวว่าจะตายกันหมด!”

หม่าชาวที่อยู่ด้านข้าง ฟังบทสนทนาของสองคน ทำหน้าตื่นตกใจ

คาดไม่ถึงเทพมารน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้เลยเหรอ?

ถ้าพันธมิตรพิทักษ์ทำอะไรหยางเฉินในเวลานี้ไม่ได้ งั้นควรทำอย่างไร?

วิญญาณของเทพมาร ก็จะยึดครองร่างกายของหยางเฉินไปตลอด?

พวกเขากลับไม่มีความสามารถพอทำอะไรได้

“คนต่อไป ถึงตาใครแล้ว?”

หยางเฉินเงยหน้า ดวงตาที่เย็นเฉียบ กวาดมองบนตัวของผู้แข็งแกร่งพันธมิตรทั้งห้าทีละคน

ขอเพียงเป็นคนที่ถูกหยางเฉินกวาดสายตามอง ล้วนสั่นเทาไปทั้งตัว

จนกระทั่งวินาทีนี้ พวกเขาถึงสำนึกได้ว่า อยู่ต่อหน้าเทพมาร พวกเขาอ่อนแอมากแค่ไหน

นี่เป็นเพียงวิญญาณของเทพมาร ยึดครองร่างกายที่เพิ่งฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังมาไว้เท่านั้น ไม่ใช่คนที่ผู้แข็งแกร่งระดับแบบพวกเขานี้สามารถรับมือได้

“ความสามารถของเขาแกร่งขึ้นแล้ว!”

ลี่เฉินพูดด้วยหน้าตาตึงเครียด

ตู้ป๋อสีหน้าดูแย่เหมือนกัน พูดแบบน้ำเสียงทุ้ม “ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปอีก วิญญาณของเทพมารกับร่างกายของหยางเฉินมีแต่จะประสานกันมากขึ้น จนกระทั่งวิญญาณกับร่างกายรวมเป็นหนึ่งเดียวถึงที่สุด”

หม่าชาวกุมหมัดทั้งสองเอาไว้แน่นขึ้นมา กัดฟันถามว่า “มีวิธีหยุดยั้งไหมครับ?”

ตู้ป๋อมองหม่าชาวแบบลึกซึ้งแวบหนึ่ง จากนั้นบอกว่า “นอกจากว่า มีผู้แข็งแกร่งที่แกร่งกว่าลงมือ ไม่อย่างนั้น ถ้าเกิดรอให้วิญญาณของเทพมารกับร่างกายของหยางเฉินรวมกันเป็นหนึ่งเดียวถึงที่สุด โลกใบนี้ จะไม่มีหยางเฉินอีกต่อไป มีแค่เทพมาร!”

ลี่เฉินพูดตามมาอีกว่า “เทพมารที่ยึดครองร่างกายหยางเฉิน เพราะมีเส้นสนกลในวิถีบู๊อยู่ ความสามารถของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กลัวว่าอีกไม่นานมากนัก ก็จะกลับสู่แดนนภาขั้นเก้าชั้นยอดกลายเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของโลกบู๊โบราณ”

สีหน้าของหม่าชาวซีดเผือด ปัจจุบันนี้แม้แต่ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ ยังทำอะไรหยางเฉินไม่ได้ และจะไปหาผู้แข็งแกร่งความสามารถเก่งกว่ามาจากที่ไหน มาช่วยหยางเฉิน?

“วิญญาณของเทพมารเพิ่งยึดครองร่างกายของหยางเฉินวันนี้เอง ถ้าผ่านวันนี้ไป อยากไล่วิญญาณของเทพมารออกไปจากร่างกายของหยางเฉิน ก็ยิ่งยากแล้ว”

ตู้ป๋อมองยังทิศทางของหยางเฉิน พูดแบบหน้าตาเคร่งขรึมเต็มที่ “ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งที่ความสามารถเก่งกว่าลงมือ ก็ยากเหมือนกัน นอกจากว่า จะเอาร่างกายของหยางเฉินและวิญญาณ ทำลายไปด้วยกัน!”

ชั่วขณะนั้นหม่าชาวท่าทางประหม่า มองทางตู้ป๋อแล้วถามว่า “ความหมายของท่านคือ ถ้าถึงขั้นนั้นจริง ร่างกายของพี่เฉิน จะถูกทำลายไปด้วยกันกับวิญญาณของเทพมารแล้ว?”

ตู้ป๋อพยักหน้า “ฉันรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายวิถีบู๊อันโหดเหี้ยมมากมาย กำลังมุ่งมาที่สำนักมาร ผู้แข็งแกร่งเหล่านี้ กลัวว่าจะพุ่งมาที่เทพมารกันหมด อยากกำจัดวิญญาณของเทพมาร ก็ได้แต่เพียงทำลายร่างกายของหยางเฉินไปด้วยกันเลย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War