เย่จางกั๋วรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งที่หยางเฉินปล่อยออกมาจากร่างกาย เขาแอบรู้สึกตกใจ ชายหนุ่มคนนี้ มีพลังที่แข็งแกร่งจริง ๆ เขาเป็นนักบูโดที่เก่งจริง ๆ!
เย่จางกั๋วพยักหน้าอย่างรวดเร็ว กัดฟันกล่าวด้วยความแค้นว่า “กองกำลังบู๊โบราณเหล่านั้น ยโสโอหังมาก สำหรับพวกเขาแล้ว นักบูโดของโลกมนุษย์เป็นเพียงมดเท่านั้น”
“ช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่เพียงในจงโจวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองอื่น ๆ อีกหลายแห่ง นักบูโดเสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของโลกมนุษย์ หรือไม่ก็ถูกบังคับให้ยอมจำนน หรือไม่ก็ลุกขึ้นต่อต้านและถูกสังหาร หรือไม่ก็หลบซ่อนตัวอยู่ในที่ลับและรอโอกาส”
“เวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน ดินแดนดีที่สุดในจงโจวถูกกองกำลังบู๊โบราณยึดครองทั้งหมด และกองกำลังชั้นนำมากมายยังตกเป็นเป้าหมายของกองกำลังบู๊โบราณ และอาจถูกตระกูลบู๊โบราณเหล่านั้นยึดครองได้ทุกเมื่อ”
“ยังมีหญิงสาวจำนวนมากจากตระกูลเศรษฐี ตกเป็นเป้าหมายของผู้แข็งแกร่งของกองกำลังบู๊โบราณ คนเหล่านั้นเลวทรามต่ำช้าและไร้ยางอายมาก ทำอะไรไม่มีของเขต”
ก่อนหน้านั้นตอนที่อยู่บนเครื่องบิน เซี่ยหลินเคยเล่าเรื่องราวที่น่ารังเกียจของกองกำลังบู๊โบราณให้หยางเฉินฟังมากมาย หลังจากได้ยินสิ่งที่เย่จางกั๋วพูดแล้ว หยางเฉินถึงรู้ว่าสิ่งที่เซี่ยหลินพูดมันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ยังมีเรื่องที่โหดร้ายกว่ามากมายที่เซี่ยหลินไม่รู้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เซี่ยหลินและกู้ซือซือยังไม่พบเจอ
“ตอนนี้ ผู้อาวุโสได้จัดนักบูโดที่แข็งแกร่งประจำเมืองละหนึ่งคน เพื่อตั้งทีมนักบูโด และรับมือนักบูโดของตระกูลบู๊โบราณ”
เย่จางกั๋วมองหยางเฉินด้วยดวงตาที่รุ่มร้อน และกล่าวด้วยสีหน้าคาดหวัง “จงโจวของพวกเรามีเทพสงครามเมิ่ง เป็นคนจัดตั้งทีมนักบูโด เพื่อรับมือนักบูโดของตระกูลบู๊โบราณ แล้วตอนนี้ยังมีผู้อาวุโสสี่คอยช่วยเหลือ ผมเชื่อว่าไม่นาน กองกำลังบู๊โบราณที่อยู่ในจงโจวเหล่านั้นจะถูกปราบอย่างแน่นอน”
หยางเฉินกล่าวว่า “ในเมื่อผมมาที่จงโจวแล้ว ผมต้องขอความเป็นธรรมให้กับผู้คนที่ถูกกดขี่ในจงโจวอย่างแน่นอน คุณนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังบู๊โบราณใหญ่ต่าง ๆ ที่มาตั้งหลักปักฐานในจงโจวให้ผมโดยเร็วที่สุด ข้อมูลไม่จำเป็นต้องมาก ผมแค่ต้องการข้อมูลของผู้แข็งแกร่งแดนนภาของแต่ละกองกำลังก็เพียงพอแล้ว ผมจะจัดการผู้แข็งแกร่งแดนนภาของกองกำลังบู๊โบราณใหญ่ต่าง ๆ ก่อน ส่วนที่เหลือ ก็มอบให้กองยุทธการเป็นคนจัดการ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เย่จางกั๋วรู้สึกดีใจมาก สำหรับกองยุทธการแล้ว ปัญหาใหญ่ที่สุดในตอนนี้ก็คือผู้แข็งแกร่งแดนนภา
เพราะโลกมนุษย์มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาเพียงไม่กี่คน หลังจากม่านพลังถูกทำลายแล้ว ชี่ทิพย์ในโลกมนุษย์พุ่งสูงขึ้น ถึงทำให้เย่จางกั๋วมีโอกาสทะลวง
ตอนนี้กองยุทธการจงโจว เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาเพียงคนเดียวเท่านั้น
แม้แต่เมิ่งชิงหลัน อดีตเทพสงครามแห่งดินแดนตะวันตก ก็เพิ่งทะลวงแดนนภาเท่านั้น
มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่กองกำลังเช่นนี้ จะสามารถปราบกองกำลังบู๊โบราณได้
เย่จางกั๋วรีบกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสี่ พวกเราได้เตรียมข้อมูลที่คุณต้องการไว้แล้ว ผมจะให้คนไปนำมาทันที”
ไม่นาน คนของเย่จางกั๋วก็นำข้อมูลที่จัดเตรียมไว้มาถึงแล้ว
หลังจากได้รับข้อมูลแล้ว หยางเฉินกล่าวว่า “ผู้บัญชาการเย่ คุณไปทำงานก่อนเถอะ ผมจะดูข้อมูลก่อน แล้วลงมือโดยเร็วที่สุด และก่อนที่ผมจะลงมือ ผมจะบอกคุณล่วงหน้า เมื่อถึงเวลานั้น คุณค่อยพาคนไปจัดการปิดท้ายก็พอ”
เย่จางกั๋วรีบกล่าวว่า “โอเค! ผู้อาวุโสสี่! ผมขอตัวก่อน”
หลังจากกล่าวจบ เขาหันหลังแล้วเดินจากไป
แต่ตอนที่เย่จางกั๋วเดินไปถึงประตู เขาหยุดฝีเท้า และกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสี่ ยังมีอีกเรื่อง คืนนี้ผู้ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่สำคัญของจงโจว ต้องการเลี้ยงต้อนรับคุณที่โรงแรมจงโจว ไม่รู้ว่าคุณมีเวลาหรือเปล่า?”
หยางเฉินส่ายศีรษะ “เรื่องเลี้ยงต้อนรับนั้นงดเว้นเถอะ! หลังจากจัดการแก้ไขปัญญาของจงโจวเสร็จแล้ว ผมจะเป็นเจ้าภาพเชิญพวกเขาทานอาหารเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...