บทที่ 2086 นี่เป็นจุดพลิกเปลี่ยน – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War
ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2086 นี่เป็นจุดพลิกเปลี่ยน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ถึงแม้ว่าหยางเฉินจะไม่ชอบคนของตระกูลฉี แต่อย่างไรเสียตอนนี้เขาก็ปรากฏตัวในจงโจวในฐานะผู้อาวุโสสี่ บางอย่างยังต้องมีขอบเขต
หยางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ประตูไม่ได้ล็อก เข้ามาเถอะ!”
ไม่นาน ประตูห้องก็ถูกผลักออก ร่างวัยกลางคนสวมชุดชาวฮั่นเดินเข้ามา โดยมีผู้แข็งแกร่งแดนนภาสองคนเดินตามอยู่ข้างหลัง
ชายวัยกลางคนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนนภาสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา ปล่อยพลังแดนนภาขั้นสองชั้นปลายออกมาจากร่างกาย
อย่างแผ่วเบา
เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางที่เป็นผู้นำก็คือฉีเฟิง
เมื่อฉีเฟิงเห็นหยางเฉินแล้ว เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
ถึงแม้เขาจะรู้ว่าสมาคมผู้อาวุโส มีผู้อาวุโสสี่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน แต่สมาคมผู้อาวุโสก็ไม่ได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับผู้อาวุโสสี่ และแม้แต่ตระกูลฉี ก็รู้เพียงแค่ว่ามีผู้อาวุโสสี่ แต่ไม่มีใครรู้รายละเอียดเฉพาะของผู้อาวุโสสี่
“คุณก็คือผู้อาวุโสสี่?”
หลังจากฉีเฟิงได้สติกลับมา เขาก็ถามด้วยสีหน้าสงสัย
เขาขมวดคิ้วจนแน่น มีความเย่อหยิ่งอยู่บนหน้าเล็กน้อย และมีความสง่าของความเป็นผู้นำ
ขณะเดียวกัน พลังจาง ๆ กระจายออกมาจากร่างกายของเขา กดดันอยู่บนร่างกายของหยางเฉิน
อย่างไรก็ตาม หยางเฉินยังคงนั่งนิ่ง มองฉีเฟิงด้วยสีหน้าราบเรียบและกล่าวว่า “ผมก็คือผู้อาวุโสสี่ของสมาคมผู้อาวุโสจิ่วโจว คุณมาหาผมด้วยธุระอะไร?”
ฉีเฟิงแอบรู้สึกประหลาดใจ ด้วยความแข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอดของเขาแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถมองทะลุหยางเฉินได้
ประเด็นสำคัญคือ ความกดดันพลังบู๊ที่เขาปล่อยออกมานั้น ไม่มีผลกระทบต่อหยางเฉิน
ถ้าหยางเฉินเป็นนักบูโดที่ต่ำกว่าแดนนภา ด้วยความกดดันพลังบู๊ที่ฉีเฟิงปล่อยออกมาเมื่อสักครู่ ก็เพียงพอที่จะทำให้หยางเฉินคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้ว
เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขา สูงกว่าแดนนภาเช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้ฉีเฟิงรู้สึกประหลาดใจมาก แต่ถ้าหยางเฉินอายุเกินกว่าสี่สิบปี เขาจะไม่ประหลาดใจขนาดนี้ เพราะดูแล้วหยางเฉินอายุไม่ถึงสามสิบปีด้วยซ้ำ
แม้แต่ในโลกบู๊โบราณล่าง ดูเหมือนจะไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่อายุต่ำกว่าสามสิบปี แม้แต่มู่หรงเยียนเอ๋อร์ที่เป็นอันดับหนึ่งในอันดับจอมคนของโลกบู๊โบราณล่าง ตอนที่เธออายุสามสิบปี แดนบูโดถึงได้ทะลวงสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด
ทันใดนั้น ชื่อของชายหนุ่มคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในสมองของฉีเฟิง หยางเฉิน!
ตอนนี้ ชื่อของหยางเฉินได้แพร่กระจายไปทั่วโลกบู๊โบราณล่างแล้ว ทุกคนคิดว่าหยางเฉินทำลายม่านพลัง โดยอาศัยพลังจากจิตวิญญาณของเทพมารที่อยู่ในร่างกายของเขา
ถ้าหากโลกมนุษย์มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่อายุต่ำกว่าสามสิบปี เกรงว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือหยางเฉิน
เพียงแต่ สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือแดนบูโดของหม่าชาวเข้าสู่แดนนภาแล้วเช่นกัน และเขาอายุน้อยกว่าหยางเฉินสองปีด้วยซ้ำ
ฉีเฟิงถามทันที “คุณคือหยางเฉิน?”
หยางเฉินเลิกคิ้ว สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “มาหาผมด้วยธุระอะไร?”
หลังจากได้รับการยืนยันแล้ว ฉีเฟิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เขาคิดว่าหยางเฉินสามารถอาศัยจิตวิญญาณของเทพมาร ระเบิดความแข็งแกร่งที่ทรงพลังออกมาได้ ถึงแม้ว่าฉีอิงเว่ยจะนำข่าวกลับมาบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่วิญญาณของเทพมารที่อยู่ในร่างกายของหยางเฉินหลับใหลแล้ว แต่ทุกอย่างเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น
เพราะเทพมารเป็นผู้ทรงอิทธิพลชั้นนำในตำนานเล่าขาน ถึงแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงวิญญาณ แต่ยังคงน่ากลัว
“นึกไม่ถึงว่าผู้อาวุโสสี่จะเป็นบูโดอัจฉริยะที่อายุน้อยขนาดนี้”
ความโกรธบนใบหน้าของฉีเฟิงหายไป ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม กล่าวกับหยางเฉินว่า “ผมจะเรียกคุณว่าคุณหยาง!”
หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
ฉีเฟิงกล่าวว่า “ผมมาเยี่ยมวันนี้ เพราะผมอยากรู้ว่าการที่ผู้อาวุโสสี่ เรียกคนที่มีอำนาจตัดสินใจของตระกูลบู๊โบราณต่าง ๆ ในจงโจวอย่างพวกเรามาประชุมคืนนี้ มีเรื่องอะไรจะสั่ง?”
ท่าทางของเขาถ่อมตนมาก เพียงแต่ตอนที่เขามองหยางเฉิน สามารถเห็นความเย่อหยิ่งจากรอยยิ้มบนใบหน้าและแววตาของเขา
ตระกูลฉีอยู่ในโลกบู๊โบราณล่าง เป็นหนึ่งในตระกูลบูโดชั้นนำ ฉีอิงเว่ยเป็นผู้นำของรุ่นนี้ ถ้าหยางเฉินเข้าร่วมเป็นสมาชิกของตระกูลฉี และในรุ่นหลังของตระกูลฉี เขาจะเป็นรองแค่ฉีอิงเว่ยคนเดียวเท่านั้น
นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือ หยางเฉินสามารถใช้ทรัพยากรการบำเพ็ญเพียรของตระกูลฉีได้
แต่หยางเฉินจะตกลงได้อย่างไร?
เขาขมวดคิ้ว หรี่ตามองฉีเฟิงและกล่าวว่า “คุณกำลังเลื่อยขาเก้าอี้ของสมาคมผู้อาวุโสจิ่วโจวอย่างเปิดเผย?”
“ฮ่า ๆ!”
ฉีเฟิงหัวเราะเสียงดัง จากนั้นยิ้มด้วยความเหยียดหยาม และกล่าวเย้ยหยันว่า “แค่สมาคมผู้อาวุโสของโลกมนุษย์ คู่ควรให้ตระกูลฉีเลื่อยขาเก้าอี้เหรอ?”
“คุณหยาง ตระกูลฉีในโลกบู๊โบราณล่าง เป็นหนึ่งในตระกูลบูโดชั้นนำอีกด้วย คุณหยางน่าจะรู้ว่าตระกูลบูโดแบบนี้ ในโลกใหม่แล้ว มันหมายความว่าอย่างไร?”
“ขอเพียงแค่ตระกูลฉีกวักมือ บูโดอัจฉริยะจำนวนมากล้วนอยากจะขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกของตระกูลฉี ตอนนี้จุดพลิกเปลี่ยนยิ่งใหญ่อยู่ตรงหน้าคุณหยางแล้ว ขอเพียงแค่คุณหยางพยักหน้า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณหยางจะเป็นตัวแทนตระกูลฉีในจงโจว”
“แม้แต่ในตระกูลฉี คุณหยางจะเป็นอัจฉริยะที่ต่ำกว่าคนหนึ่งคน แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น!”
เจตนาฆ่าสองเส้นพุ่งออกมาจากดวงตาของหยางเฉิน เขาหรี่ตาแล้วมองฉีเฟิง และกล่าวว่า “แล้วถ้าผมปฏิเสธล่ะ”
“ปฏิเสธ?”
ฉีเฟิงหัวเราะเยาะ แต่ไม่ได้ตอบ
เพียงแต่ผู้แข็งแกร่งสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ได้ปล่อยความกดดันพลังบู๊ที่ทรงพลังออกมา และปกคลุมหยางเฉินไว้อย่างแน่นหนา
ดูเหมือนว่าขอเพียงแค่หยางเฉินกล้าปฏิเสธ พวกเขาสองคนก็จะลงมือทันที
ฉีเฟิงหรี่ตาและกล่าวว่า “นี่เป็นจุดพลิกเปลี่ยนยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณ ผมขอแนะนำคุณหยาง คิดให้ดีก่อนที่จะให้คำตอบผม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...