The king of War นิยาย บท 2153

หม่าชาวก้าวไปข้างหน้าทันที และยืนขวางอยู่ข้างหน้าหยางเฉิน แม้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล แต่เขาก็ยังยืนอยู่ข้างหน้าหยางเฉินอย่างไม่เกรงกลัว

หวยหลันและคนอื่นๆ ไม่มีแม้แต่แรงจะขยับ ตัวสั่นไม่หยุด

ใบหน้าของหยางเฉิน เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความกดดันพลังบู๊นี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกกดดันจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ

เขารู้ว่า ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย อย่างน้อยที่สุดก็อยู่ระดับแดนนภาขั้นสามชั้นปลาย หรืออาจเป็นแดนนภาขั้นสามชั้นยอด เมื่อมองไปที่โลกบู๊โบราณล่าง ล้วนดำรงอยู่ในระดับชั้นเลิศ

“ผู้อาวุโสคือผู้แข็งแกร่งชั้นเลิศในโลกบู๊โบราณล่าง ใช้พลังกดขี่ผู้ที่มีระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางที่มาจากโลกมนุษย์และเปรียบเสมือนมดตัวหนึ่ง มันไม่มากเกินไปไปหน่อยเหรอ?”

แม้ว่าหยางเฉินจะอยู่ภายใต้การกดดันที่น่าสะพรึงกลัว แต่ใบหน้าของเขา ไม่มีความหวาดกลัวเลย แต่ตะคอกเสียงดังไปในความว่างเปล่า

“ฮึ่ม!”

ในขณะนี้ เสียงตะคอกแห่งความเย็นชาดังขึ้น

ในวินาทีต่อมา ลมปราณบูโดที่มีพลังกดขี่อย่างมาก เข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว

“ถอยหลัง!”

ทันใดนั้นหยางเฉินก็ยื่นมือออก ดึงหม่าชาวที่ยืนขวางอยูข้างหน้าเขาให้มาอยู่ข้างหลังตัวเอง ในเวลาเดียวกัน เขาก็ต่อยออกไปข้างหน้าอย่างรุนแรง

“ตูม!”

เสียงชนกันดังสนั่น

หลังจากนั้น ร่างของหยางเฉินก็ก้าวถอยหลังไปเจ็ดหรือแปดก้าวก่อนที่จะหยุด

เห็นเพียงชายที่แข็งแกร่งสวมชุดคลุมดำ ยืนอยู่ตรงจุดที่หยางเฉินยืนอยู่เมื่อกี้ สวมหน้ากากสีดำ ทำให้ผู้คนไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้

ใบหน้าของหยางเฉินซีดไปชั่วขณะ และสายตาก็จับจ้องไปที่ชายในชุดคลุมดำ

เขารู้สึกได้ว่า ความแข็งแกร่งของคนที่ใส่ชุดคลุมดำที่อยู่ตรงหน้า คงอยู่ในแดนนภาขั้นสามชั้นปลาย อย่างไรก็ตาม ผู้แข็งแกร่งในชุดคลุมสีดำนี้ ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งลึกลับคนนั้นที่ใช้ความกดดันพลังบู๊ปราบปรามเขา

กล่าวคือ ในความมืด ยังมีผู้แข็งแกร่งที่ทรงพลังมากกว่าอีกท่านหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏตัวให้เห็น

เสียงที่เยือกเย็น ราวกับมาจากขุมนรก ดังมาจากความว่างเปล่า “ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางธรรมดา ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของแดนนภาขั้นสามชั้นกลางได้”

รูม่านตาของหยางเฉินหดตัวกะทันหัน และการโจมตีแบบสุ่มของผู้แข็งแกร่งในชุดคลุมดำ เป็นเพียงการทดสอบ

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด ที่คุณฝึกไม่ใช่วิชาบู๊โบราณ แต่เป็นวิธีการลับการบำเพ็ญเซียน มิฉะนั้น จะเป็นไปไม่ได้เลยที่ความแข็งแกร่งระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางจะสามารถระเบิดความแข็งแกร่งที่เทียบเท่ากับแดนนภาขั้นสามชั้นต้น”

เสียงนั้น ดังขึ้นอีกครั้ง

หยางเฉินรู้สึกตกตะลึง เต็มไปด้วยความประหลาดใจ อีกฝ่ายถึงกับรู้วิธีลับการบำเพ็ญเซียน

แต่เมื่อนึกถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย หยางเฉินจะวางใจได้ไง ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับนี้ จะต้องรู้มากกว่านี้

หยางเฉินเปิดปากพูด “ที่ผู้อาวุโสหาผม อาจไม่ใช่แค่ทดสอบความแข็งแกร่งของผมหรอกนะ?”

เสียงคนแก่ชราดังขึ้นอีกครั้ง “นักฆ่าปีศาจดำทั้งสามคนของฉัน ถูกนายฆ่าจนหมด นายคิดว่า ฉันตามหานายเพื่ออะไร?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหยางเฉินก็เปลี่ยนไปทันที

อีกฝ่ายกลายเป็นคนของปีศาจดำ ย้อนกลับไปในตอนนั้นผู้แข็งแกร่งสามคนในปีศาจดำที่อยู่ในระดับแดนนภาขั้นสองชั้นต้นลอบสังหารเขา แต่ถูกเขาปราบปราม ในขณะที่เขากำลังบีบบังคับถามตัวตนของอีกฝ่าย ทันใดนั้นอีกฝ่ายก็เสียชีวิตทันที

และอยู่ในปีศาจดำ มีผู้แข็งแกร่งระดับแดนนภาขั้นสามชั้นยอดเพียงท่านเดียว และนั่นคือปีศาจดำในโลกบู๊โบราณล่างผู้นำขององค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่ง ชื่อซางหยุนเฟิง

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ชายผู้แข็งแกร่งลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด คือซางหยุนเฟิง

ในขณะนี้ เสียงของซางหยุนเฟิงดังขึ้นอีกครั้ง “ให้นายมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ต้องเอาชนะลูกศิษย์ของฉัน ไม่อย่างนั้น ตาย!”

หยางเฉินพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง “ผู้อาวุโสคำขอนี้มากเกินไปใช่ไหม? ศิษย์ของท่านเป็นผู้แข็งแกร่งระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลาง ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ให้ผมเอาชนะเขา ก็เหมือนไปหาที่ตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

ซางหยุนเฟิงพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้างั้นฉันจะฆ่านายเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเขาพูดจบ ความกดดันพลังบู๊อันน่าสะพรึงกลัว ก็ปกคลุมหยางเฉินไว้

ในขณะนี้ ร่างกายของหยางเฉินเย็นยะเยือก และไม่สามารถแม้แต่จะขยับเขยื้อนได้

ชายผู้แข็งแกร่งชั้นเลิศที่อยู่ในโลกบู๊โบราณล่าง จะฆ่าเขา มันง่ายนิดเดียว

ซางหยุนเฟิงพูดอีกครั้ง “ไม่ต้องกังวล รอเมื่อฉันฆ่านายแล้ว ฉันจะฆ่าคนรอบข้างของนายด้วย เพื่อที่เวลานายเดินไปนรกจะได้ไม่โดดเดี่ยว

หยางเฉินรีบสบัดกระบี่โอรสสวรรค์ที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว

“เกรี้ยง!"

ขาของชายชุดคลุมดำฟาดลงมาที่กระบี่โอรสสวรรค์ และด้วยการเด้งของกระบี่โอรสสวรรค์ มันก็ฟาดใส่ศีรษะหยางเฉินโดยตรง

หยางเฉินถอยหลังไปสองสามก้าว

กระบี่โอรสสวรรค์ฟาดเข้าที่ศีรษะของหยางเฉิน ทำให้เขาวิงเวียนไปชั่วขณะ และเลือดก็ไหลลงมาจากศีรษะของเขาด้วย

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน ยังสามารถต่อกรกับผู้แข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นสามชั้นแรกได้ แต่ชายชุดคลุมดำนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลาง และก็ยังเป็นผู้แข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลางที่มีขุมพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมาก

หยางเฉินอยากที่จะชนะคู่ต่อสู้ แทบไม่มีความหวังเลย

ตอนนี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงเวลาที่ชีวิตถูกคุกคามเท่านั้น ถึงจะสามารถอัญเชิญพลังกระบี่โอรสสวรรค์ได้ ถึงจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้

เพียงแต่ว่า แค่การใช้พลังของกระบี่โอรสสวรรค์เพื่อเอาชนะผู้ผู้แข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลาง มันเกินความจำเป็นไปหน่อยหรือไม่?

ต้องรู้ว่า แม้แต่ซางหยุนเฟิง ภายใต้การโจมตีอันทรงพลังของกระบี่โอรสสวรรค์ ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงการโจมตีที่ทรงพลังเท่านั้น

ไม่รอให้เขาหายจากอาการวิงเวียนศีรษะ ชายชุดคลุมดำก็ลงมืออีกครั้ง ทันใดนั้นก็ออกหมัด โจมตีไปที่หยางเฉิน

ในขณะนี้ หยางเฉินรู้สึกได้ถึงออร่าที่ไม่อาจต้านทาน ได้บีบเข้ามาใกล้ตัวเอง

สายเลือดคลั่งที่อยู่ในร่างกายของเขา ดูเหมือนจะรู้สึกถึงวิกฤตที่กำลังจะมาถึง และมันก็เดือดพล่าน และลมปราณอันทรงพลัง ก็ปะทุออกมาจากร่างของหยางเฉิน

อย่างไรก็ตาม ถึงอย่างนั้น จะเอาชนะผู้แข็งแกร่งระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลางนั้น ก็ยังไม่มีความหวังเลย

หยางเฉินไม่สามารถหลบมันได้ ทำได้เพียงใช้หมัดป้องกันเท่านั้น

“ตูม!”

เมื่อหมัดทั้งสองปะทะกัน หยางเฉินรู้สึกถึงพลังทำลายล้าง ปะทุออกมาจากหมัด ไปตามแขนของเขา และแผ่กระจายไปทั่วร่างกายโดยตรง

และร่างของเขา ลอยออกไปในอากาศทันที