ทุกคนตะลึงเมื่อเห็นดาบยาวสีทองเสียบอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองฝ่าย
โดยเฉพาะคนของสามตระกูลมหาเศรษฐี เมื่อเห็นดาบยาวนี้ ถึงกับสั่นไปทั้งตัว
“กระบี่โอรสสวรรค์! คือกระบี่โอรสสวรรค์!”
“เป็นไปได้ไหมว่า ผู้อาวุโสสี่อยู่ในตระกูลกู้?”
“ไหนบอกว่า ผู้อาวุโสสี่ออกจากจงโจวไปแล้วเหรอ? ทำไมดาบของเขา ถึงมาปรากฏอยู่ที่นี่?”
……
แต่ละคนในสามตระกูลมหาเศรษฐีต่างส่งเสียงอุทานออกมาอย่างตกใจ
ทันทีที่กระบี่โอรสสวรรค์ปรากฎออกมา ทำให้มหาเศรษฐีหลายร้อยคนกระเด็นปลิวออกไป นี่แสดงให้เห็นว่าพลังของหยางเฉินนั้นน่าสะพรึกกลัวเพียงใด
คนของสามตระกูลใหญ่ต่างก็รู้อย่างชัดเจน หยางเฉินได้ปราณีแล้ว แต่พลังของดาบสะเทือนจนพวกเขาปลิวออกไป หากหยางเฉินใช้กำลังทั้งหมดที่เขามี ดังเช่นสิบวันก่อน ด้วยการใช้ดาบฟันท้องฟ้าเพียงครั้งเดียว เกรงว่าเขาอาจสังหารนักบูโดหลายร้อยคนที่สามตระกูลมหาเศรษฐีพามาจนหมดสิ้น
กู้ไท่ชูมองไปที่ดาบยาวสีทอง แล้วถอนหายใจ
นี่ก็คือโลกใหม่หลังจากม่านพลังแตกสลายเหรอ?
นักบูโดชั้นเลิศ ไม่จำเป็นต้องปรากฏตัว แค่ใช้อาวุธของตัวเอง ก็สามารถข่มขู่ทุกคนในสถานที่นี้ได้
ในขณะนี้ เสียงที่เฉยเมยได้แว่วมาจากห้องกู้ไท่ชู “ผู้นำสามตระกูลมหาเศรษฐีอยู่ต่อ คนอื่นๆ ไสหัวไป!”
ได้ยินเช่นนี้ นักบูโดทั้งหลาย ราวกับได้รับอภัยโทษ รีบวิ่งหนีทันที กลัวว่าหากวิ่งไม่ทัน จะถูกดาบของหยางเฉินฆ่า
เหลือเพียงไช่เต๋อไห่、หวังหลิน、ตู้จินเซียวสามคน
“ผู้อาวุโสสี่ ขอโทษครับ พวกเราไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่ตระกูลกู้ ไม่เช่นนั้นต่อให้เราใจกล้าแค่ไหนก็ไม่กล้ามาที่ตระกูลกู้ได้ ผู้อาวุโสสี่เป็นผู้มีอิทธิพลโปรดใจกว้างขวาง อย่าได้ถือสาพวกเราเลย ปล่อยพวกเราไปเถอะ”
“ผู้อาวุโสสี่ พวกเราสัญญา ต่อไปจะไม่โจมตีตระกูลกู้อีกแล้ว”
“ใช่ๆๆ จากนี้ไปพวกเราทั้งสาตระกูลใหญ่ ขอทำตามคำสั่งตระกูลกู้”
หลังจากที่ ไช่เต๋อไห่ทั้งสามคนจ้องมองหน้ากัน ต่างก็เปิดปากขอร้อง สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“คุกเข่า!”
หยางเฉินตะโกนด้วยความโกรธ
“พุด”
ทั้งสามคนเข่าอ่อน คุกเข่าลงบนพื้นทันที
ตอนนี้ถึงพวกเขาจะโง่แค่ไหน ก็สามารถเดาได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างหยางเฉินกับตระกูลกู้ดีแค่ไหน ไม่งั้นเขาคงไม่มาจะปรากฏตัวที่ตระกูลกู้?
หยางเฉินถามว่า “ใครเป็นคนให้พวกคุณมาโจมตีตระกูลกู้?”
ทุกคนในสามตระกูลมหาเศรษฐีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ต่างมีสีหน้าเหลือเชื่อ แทบคิดไม่ถึงว่าหยางเฉินจะสามารถเดาได้ว่าพวกเขาถูกคนบงการมา
“ผู้อาวุโสสี่ ไม่มีใครสั่งการพวกเรามาจัดการตระกูลกู้หรอก เป็นเพราะอยู่ในจงโจวพวกเราต้องการแทนที่ตระกูลกู้ ดังนั้นจึงร่วมมือกันเพื่อจัดการกับตระกูลกู้”
หลังจากที่ทั้งสามคนมองหน้ากัน ไช่เต๋อไห่ก็พูดขึ้นก่อน
หวังหลินก็รีบพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ เพราะพวกเราคาดหวังในตำแหน่งของตระกูลกู้ จึงได้พาคนมาที่ตระกูลกู้”
ตู้จินเซียวพูดว่า “ผู้อาวุโสสี่ พวกเราแค่ต้องการแทนที่ตระกูลกู้จริงๆ ไม่ได้คิดจะละเมิดกฎใหม่ เมื่อกี้พวกเราก็แค่ต้องการข่มขู่ตระกูลกู้ให้กลัวเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะลงมือกับตระกูลกู้จริงๆ”
เมื่อเห็นผู้นำสามตระกูลกำลังอธิบายอย่างร้อนรน ความเย็นชาในแววตาของหยางเฉินก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
มีหรือเขาจะดูไม่ออกว่า สามคนนี้กำลังปกปิดความจริง
เขาไม่ได้สนใจทั้งสามคน เพียงแค่ยืนอยู่นิ่งๆ และจ้องมองพวกเขาอย่างเย็นชา
เวลาผ่านไปทุกวินาที เป็นเวลานานเขาไม่ได้พูดอะไร ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับสามตระกูลมหาเศรษฐีที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเป็นอย่างมาก
ตอนนี้ถึงแม้หยางเฉินจะทุบตีพวกเขา ขอเพียงไม่ฆ่าพวกเขา พวกเขาต่างก็ยอมรับได้
แต่ว่าหยางเฉินไม่ได้พูดอะไรสักคำ ซึ่งสร้างความกดดันให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก
ทั้งสามคนก้มหน้าลง และแทบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองหยางเฉิน สั่นไปทั้งตัวไม่ยอมหยุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...