“ภรรยาของหูฉาวมีชื่อว่าฉ่ายจวน เป็นคนนอกพื้นที่ ฉ่ายจวนมีญาติห่างๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านถู่เหลียง วันที่เกิดเรื่องกับพ่อตาคุณ ผู้หญิงคนนั้นก็ไปซ่อนตัวอยู่ที่หมู่บ้านถู่เหลียงครับ”
กวนเจิ้งซานพูดออกมาอย่างระมัดระวัง “พอผมได้ข้อมูลของเธอ ผมก็รายงานให้คุณทราบทันทีเลยครับ ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเธอถึงไปซ่อนตัวอยู่ที่หมู่บ้านนั้น ผมยังไม่ทันได้ตรวจสอบเลยครับ”
กวนเจิ้งซานค่อนข้างเป็นกังวล เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อตาของหยางเฉินก็ได้ผ่านมาตั้งห้าวันแล้ว แต่เขากลับสืบรู้แค่ว่าฉ่ายจวนอยู่ที่ไหนเท่านั้น
หยางเฉินพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “โอเค ผมเข้าใจแล้ว!”
วันก่อนที่เขาโมโหใส่กวนเจิ้งซานก็เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉินต้าหย่ง ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงได้ระบายความโกรธใส่กวนเจิ้งซาน
พอกวนเจิ้งซานเห็นว่าหยางเฉินไม่ได้โมโห เขาถึงได้รู้สึกโล่งอกทันที
หมู่บ้านถู่เหลียงนั้นอยู่ค่อนข้างไกล ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงเต็มถึงเดินทางไปถึง
รถถูกขับไปจอดอยู่ที่ลานหน้าบ้านของครอบครัวชาวนาหลังหนึ่ง ประตูหน้าบ้านสีแดง ภายในลานบ้านคือบ้านที่ก่อขึ้นจากอิฐเป็นแถว
พวกของหยาวเฉินยังไม่ทันได้เข้าไปที่ลานบ้าน หมาที่อยู่ข้างในก็ส่งเสียงเห่าออกมาแล้ว
“คุณหยางครับ ช่วงที่ผ่านมา ฉ่ายจวนก็พักอยู่ที่นี่แหละครับ” กวนเจิ้งซานพูดขึ้น
“พวกคุณเป็นใคร?”
ทันทีที่หยางเฉินกับกวนเจิ้งซานเดินเข้ามาในลานหน้าบ้าน กองหินที่ซ้อนกันอยู่ตรงข้างๆ ก็มีชายแก่ผิวเข้มคนหนึ่งนั่งอยู่ ในปากยังคาบกระบอกสูบยาเส้นเอาไว้ด้วย และถามด้วยสำเนียงพื้นเมืองที่เด่นชัด
“พวกเรามาหาฉ่ายจวนครับ!”
กวนเจิ้งซานตอบ
“ฉ่ายจวนคือใคร? ฉันไม่รู้จัก!”
พอชายแต่ได้ยินว่าจะมาหาฉ่ายจวน แววตาของเขาก็ดูกระวนกระวายขึ้นมา แต่ก็พยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด
กวนเจิ้งซานเลิกคิ้วขึ้น แล้วพูดออกไปอย่างไม่ชอบใจว่า “คุณชื่อหลี่โหย่วฝูใช่มั้ย ฉ่ายจวนคือหลานสาวที่เป็นญาติห่างๆ ของคุณ ถ้าไม่เป็นเพราะรู้ว่าฉ่ายจวนอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่มาหรอก!”
“ฉันบอกว่าไม่มีก็คือไม่มีไง! ที่นี่มันบ้านของฉัน! แล้วคุณยังคิดจะบุกเข้าไปอีกเหรอ?”
พอได้ยินคำพูดของกวนเจิ้งซาน ชายแก่ก็โมโหขึ้นมาทันที ถือกระบอกสูบยาเส้นเดินมาตรงหน้าของกวนเจิ้งซาน ยื่นมือออกมาเพื่อที่จะผลักกวนเจิ้งซานออกไป
“ไอ้แก่! ถ้ากล้าทำอะไรฉันก็ลองดู!”
กวนเจิ้งซานก็โกรธแล้วเหมือนกัน เขาที่เป็นถึงผู้นำตระกูลของหนึ่งในสี่พรรกแห่งเมืองเจียงโจว ในที่แบบนี้ ยังมีคนกล้าลงมือกับเขาอีก
บอดี้การ์ดของกวนเจิ้งซานรีบก้าวมาข้างหน้า และเตรียมที่จะสั่งสอนชายแก่
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
หยางเฉินตำหนิออกมาเสียงดัง
“ท่านผู้เฒ่า ที่เรามาหาฉ่ายจวนนั้นเพราะเรามีธุระกับเธอ รบกวนคุณช่วยเรียกเธอออกมาหน่อยนะครับ เราแค่พูดคุยกับเธอไม่กี่คำ จากนั้นเราก็จะไปทันที!”
หยางเฉินพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็หยิบกระเป๋าตังออกมา แล้วล้วงเอาแบงก์สีแดงปึกใหญ่ที่อยู่ด้านในออกมาทั้งหมดจากนั้นก็ยื่นมันให้ชายแก่พร้อมกับพูดไปว่า “ท่านผู้เฒ่า นี่ถือเป็นค่าบุหรี่ที่เป็นการแสดงความเคารพต่อคุณแล้วกันนะครับ”
ชายแก่เหล่ตามองเงินที่หยางเฉินยื่นมาให้ ดูแล้วน่าจะมีสักสามสี่พันเห็นจะได้
เขารับเงินไปอย่างไม่ลังเล แล้วเหล่ตามองกวนเจิ้งซานทีหนึ่ง “ดูสิพ่อหนุ่มเขามีมารยาทขนาดไหน?”
กวนเจิ้งซานโกรธหน้าแดง ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉินอยู่ด้วย เขาจะปล่อยให้ตาแก่นี้มีโอกาสได้ทำตัวโอหังแบบนี้ได้ยังไง?
“เข้ามาสิ!”
ชายแก่มองไปยังเมอร์เซเดส เบนซ์ จี คลาสที่จอดอยู่ข้างทาง แล้วหันมามองการแต่งตัวของกวนเจิ้งซาน โดยมีบอดี้การ์ดติดตามมาด้วย เขารู้ดีว่า เรื่องที่ฉ่ายจวนอยู่ที่นี่นั้นคงปิดไว้ไม่ได้แล้ว
“ฉ่ายจวน!”
ชายแก่ได้พาทั้งสองไปที่ลานหลังบ้าน แล้วตะโกนไปยังบ้านอิฐด้วยเสียงที่ดังลั่น
“คุณน้า มีอะไรคะ!”
ทันใดนั้น ก็ได้มีหญิงวัยกลางคนที่ใส่ผ้ากันเปื้อนไว้เดินออกมาจากห้องที่อยู่ด้านใน ในมือยังมีแป้งติดอยู่ ดูแล้วน่าจะกำลังนวดแป้งอยู่
“พวกเขามาหาแกน่ะ!” ชายแกชี้ไปที่พวกหยางเฉิน จากนั้นก็พูดออกมา
เห็นได้ชัดว่าสีหน้าของฉ่ายจวนนั้นดูร้อนรนปรากฏขึ้น เธอมองพวกหยางเฉินด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดว่า “พะ พวกคุณเป็นใคร? ฉันไม่รู้จักพวกคุณสักหน่อย จะมาหาฉันทำไม?”
หยางเฉินเดินมาข้างหน้า มองหน้าฉ่ายจวนแล้วพูดไปว่า “นี่พี่สาว คุณไม่ต้องกลัวไปนะครับ ที่เรามาหาคุณนั้น ก็แค่ต้องการมาสืบหาข้อมูลอะไรบางอย่างจากคุณเท่านั้น ขอแค่คุณยอมให้ความร่วมมือ แปบเดียวก็หมดเรื่องแล้วครับ” หยางเฉินนั้นไม่มีทางคิดว่า ผู้หญิงที่พอเห็นพวกเขาแล้วพูดจาตะกุกตะกักนั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของฉินต้าหย่งจริงๆ
“พวกคุณไม่ต้องมาถามฉัน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น!”
ฉ่ายจวนหันหลังแล้วจะจากไปทันที
แต่พอเธอจะเดินเข้าห้อง บอดี้การ์ดของกวนเจิ้งซานก็เข้ามาขวางไว้ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...